แด่เธอผู้เริ่มแรกรุ่น

แด่เธอผู้เริ่มแรกรุ่น

 

                    เธอพึงตั้งสติไว้เสมอ เมื่อต้องเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับบุคคลใด ความรู้สึกว่าชีวิตช่างอัศจรรย์และแปลกใหม่ เริ่มปรากฏในหัวใจของเธอ  ทุกสิ่งน่าค้นหาและน่าทดลอง ความรู้สึกว่าพ่อแม่ ครูอาจารย์ซึ่งเป็นบุคคลที่เธอเคยต้องเชื่อฟังไปทุกอย่าง เริ่มเป็นวัตถุโบราณสำหรับเธอ เธอรู้สึกว่าชีวิตช่างสวยงามและมีชีวิตชีวา รู้สึกว่าชีวิตในวันข้างหน้าช่างเป็นวันที่เธอรอคอยให้โอกาสมาถึงด้วยความกระตือรือร้น นี้คือ พลังความเป็นหนุ่มสาวได้เข้ามาสู่ชีวิตของเธอแล้ว

 

                    พลังอันยิ่งใหญ่ดุจน้ำตกไนแองการ่าคือพลังทางเพศจักมาเยือนชีวิตของเธอ  อย่างที่เธอไม่อาจปฏิเสธและขัดขืน คราวนี้แหละเธอจักได้ทำความรู้จักพลังแห่งความท้าทายในตัวเธออย่างยากจะบอกใครได้

 

                    หากเธอไม่รู้จักวิธีควบคุมมันหรือปฏิบัติต่อมันอย่างมักง่าย เธอจะเริ่มใจแตกและเสียคน ไม่อยากเรียนหนังสือ ไม่อยากฟังพ่อแม่ ถ้อยคำของครูอาจารย์จะไม่มีความหมาย แต่ถ้าเธอปฏิบัติต่อพลังทางเพศนี้ด้วยความเคารพในความเป็นธรรมชาติของมัน ไม่ไหลตามมัน แต่ก็ไม่รังเกียจมัน เธอไม่ยอมมักง่ายรีบชิงสุกก่อนห่ามไปทดลอง เธอยอมอดใจ ยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวานเมื่อถึงกาลเวลา ปล่อยให้ทฤษฎีเพศศึกษาในโรงเรียนให้เป็นทฤษฎีไปก่อน ไม่เร่งรีบหรือใจร้อนอยากปฏิบัติการตามทฤษฎี หากเธอทำได้เช่นนี้ เธอจะค้นพบพลังสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ของชีวิต

 

                    พลังทางเพศนี้ย่อมมีคู่ร่างกายของชายและหญิง  เธอไม่ต้องกังวลว่าเธอจะแคล้วคลาดจากมัน หรือมันจะลาจากเธอไป เว้นไว้แต่พระอนาคามีบุคคลและพระอรหันต์ซึ่งจิตของท่านพัฒนาจนข้ามกามตัณหาหรือกามราคะสังโยชน์ได้แล้ว นอกนั้นแล้วก็ล้วนมีความยินดีพอใจและใฝ่หาความต้องการในเรื่องนี้เสมอหน้ากันทั้งสิ้น  คือมีเหมือนกันทั้งคนรวย คนจน ทั้งชนชั้นสูงหรือชนชั้นต่ำ ทั้งคนดี คนชั่ว ทั้งนักบวชหรือฆราวาส ทั้งคุณหญิงคุณนายและโสเภณีในโรงแรม ทั้งเด็กเรียนหรือเด็กเกเร ทุกคนจะมีพลังทางเพศนี้เหมือนกันหมด  เธอไม่ต้องตกใจว่าเธอจะไม่มีเพื่อนในเรื่องนี้  นอกจากผู้มีความสุขจากความวิเวกหรือผู้ที่มีจิตหลุดพ้นที่แท้จริงแล้ว นอกนั้นที่เหลือล้วนคือเพื่อนของเธอ  

 

                    เพราะว่าตามธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อเข้าสู่วัยอายุสิบสี่ปี จะต้องเริ่มเรียกร้องโหยหาความต้องการทางเพศอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง เธออย่าได้ตกใจหรือกลุ้มใจ เพียงแต่เธอพึงมีสติระลึกรู้ ตระหนักรู้ในอาการของมันตามความเป็นจริง  ยอมรับว่ามันมาเคาะประตูบ้านแล้ว แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องเชิญมันเขามานั่งในบ้าน  เธอไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าบ้านที่ใจดีขนาดนั้น หากเธอยังต้องเรียนหนังสือหรือยังไม่พร้อม  หากเธอยังไม่พร้อมที่จะต้อนรับแขก เธอก็อดทนฟังเสียงเคาะประตูสักพัก แล้วแขกที่เราไม่อนุญาตหรือไม่ได้เชิญให้เข้าบ้าน  เขาก็จะหลีกจากเราไปเอง วันใดที่เจ้าบ้านมีความพร้อม เขาก็จะมาเยี่ยมใหม่  ไม่ต้องหวั่นใจว่าแขกของเราคนนี้จะห่างไกลหรือพลัดพรากไปจากเรา

 

                   ใครทำแบบนั้นได้ เรียกว่า “รู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน” คนที่อดเปรี้ยวไว้กินหวาน  ก็อาจถูกใครเยาะเย้ยว่าหัวโบราณ ไม่ทันสมัย  ไม่รู้จักหาความสุขชั้นเลิศของมนุษย์ เธอก็ต้องยอมให้เขาว่าหรือปรามาสไปก่อน เพราะเธอกำลัง “อดกินตอนเปรี้ยว เพื่อรอไปกินตอนหวาน” เธอต้องตั้งสติไว้แบบนี้  มิฉะนั้นเธอจะอดใจไว้รอกินตอนหวานไม่สำเร็จ แต่ถ้าเธออดใจไว้ได้ สวรรค์จะให้รางวัลอย่างงามแก่เธอผู้รู้จักอดทนและรอคอย

 

                   ดังนั้น สิ่งที่ฉันจะบอกเธอก็คือ หากเธอคือคนหนึ่งที่อาจถูกผู้มีประสบการณ์ตราหน้าว่าหัวโบราณหรือคร่ำครึ เธอจงภูมิใจที่เธอยังรักษาความไร้เดียงสาในเรื่องนี้ไว้ได้  ต่อไปเมื่อเธอได้สตรีหรือบุรุษที่คู่ควรกันเป็นคู่ครอง เธอจะซาบซึ้งด้วยตัวเธอเองว่า สุภาษิตโบราณที่บอกว่า อดเปรี้ยวไว้กินหวาน นั้นเป็นอย่างไร เธอจะรู้สึกเคารพตนเอง ภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง  เธอจะมีพลังในการสร้างชีวิต ชีวิตของเธอจะก้าวหน้าและมีความสุขมีความอบอุ่นใจแม้จะยากจน  ในวันหนึ่งเมื่อโอกาสของเธอมาถึง เธอจะเป็นคนที่มีความประสบความสำเร็จในชีวิตคนหนึ่งอย่างแน่นอน

 

                   แต่สำหรับเธอคนใดที่ไม่ได้ผูกชีวิตไว้ที่วุฒิการศึกษาหรือปริญญา แต่มั่นใจว่าชีวิตของคนเราสามารถจะสร้างสรรค์ขึ้นมาได้ด้วยตัวเราเอง ขอเพียงยึดมั่นในคุณธรรมความดีไว้เป็นหลัก เชื่อมั่นในหลักแห่งกรรมดีและความมานะพากเพียรของความเป็นมนุษย์ แล้วเธอพบบุคคลที่พร้อมจะครองชีวิตด้วยกัน  มีบุคคลที่จะร่วมกันสร้างความฝันให้เป็นจริง มีคนที่พร้อมจะฟันฝ่าหรือสร้างชีวิตร่วมกัน พร้อมที่จะมีคู่มีครอบครัว หากเธอรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงเช่นนี้ และมีสติในการดำเนินชีวิต หากเป็นเช่นนี้ เธอก็ไม่จำต้องอดเปรี้ยว เธอสามารถจะตัดสินใจสอยผลไม้ลูกนั้นลงมากินได้เลย  แสดงว่ามันถึงเวลาและถึงโอกาสของเธอแล้ว แต่เธอต้องทำกับชีวิตอย่างมีสติและมีความแยบคายนะ

 

                    นั่นก็คือ หากเธอมีใจพร้อมที่จะแต่งงานหรือมีชีวิตคู่ เธอก็ไม่จำเป็นต้องไปเลียนแบบชีวิตของใคร เนื่องจากเหตุปัจจัยของชีวิตแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน เธอไม่จำเป็นต้องไปยึดมั่นตามแบบ“วัฒนธรรมวิคตอเรีย” หรือไปเลียนแบบชีวิตของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ ๑ ของอังกฤษแต่อย่างใด หรือเธอไม่ต้องไปถือสุภาษิตข้อที่ว่า “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” อีกแล้ว  เพราะเหตุว่านี้คือชีวิตของเธอและเป็นความจริง  เพราะผู้ที่ดำเนินชีวิตด้วยความมีสติและมีปัญญา ย่อมรู้จักวิธีในการเดินทางของชีวิตแน่นอน เธออย่าได้ลังเลหรือหวั่นเกรงสิ่งใดเลย  เมื่อเธอมีคู่ครองที่เข้าอกเข้าใจกัน  มุ่งสร้างสรรค์ครอบครัวด้วยความดีงาม เมื่อสร้างครอบครัวและสร้างชีวิตได้เป็นปึกแผ่น แล้วเธอหมั่นฟังธรรม หมั่นเจริญสติ หมั่นบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา เธอก็อาจได้เป็นโสดาบันในชาตินี้  นี้คือหลักการดำเนินชีวิตตามทางสายกลางในรูปแบบแห่งฆราวาสที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน

 

                    แต่ถ้าเธอคือบุคคลหนึ่งที่มาอ่านข้อความนี้สายเกินไป เพราะเธอได้ทำตัวเป็นนักทดลองไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเธอผู้มีนิสัยรักการผจญภัยและชอบทดลอง ซึ่งชีวิตของเธอต้องมีบาดแผลหรือมอมแมมไปบ้างแล้ว  ฉันก็มีความหวังดีต่อเธอไม่แพ้กัน เธออย่าได้น้อยใจ จงเปิดใจรับฟังคำแนะนำของฉันว่า สิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่อาจเอาหวนคืนกลับมาได้ เธอจงตั้งสติให้มากกว่าสมัยก่อนที่เธอจะทดลองลุยไฟ  เธอจงรู้จักจิตใจของเธอตามความเป็นจริง เธอจงยอมรับความเป็นจริงว่า จิตใจที่สะอาด สดใส และงดงามไร้เดียงสาเช่นนั้นไม่อาจเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว  เธอจงเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่แม้วัยจะยังไม่ถึงเวลา จงเดินไปข้างหน้าอย่าได้ท้อถอย ชีวิตย่อมเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ  ขอเธอจงมีความหวังและดูจิตดูใจของตัวเองไว้เสมอเถิด เธอจงขึ้นจากโคลนตมแล้วล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดด้วยพระธรรม คือศึกษาสัจธรรมความจริงของชีวิต จนมีกำลังใจในการสร้างสรรค์กรรมดีและสิ่งดีงาม โลกใบนี้ยังมีรอยยิ้มไว้ต้อนรับเธอเสมอ

 

                    ชีวิตของมนุษย์ทุกคน มีมืดย่อมมีสว่าง มีผิดหวังก็ต้องมีวันสมหวัง วันนี้ใครๆอาจว่าเราเป็นคนเลว แต่อีกห้าปีข้างหน้าเราอาจเป็นมนุษย์ตัวอย่างแห่งความพากเพียรก็ได้  เธอทั้งหลายอย่าได้ท้อแท้หรือสิ้นหวังเป็นอันขาด แล้วต่อไปเธอจะยืนเด่นเป็นสง่าในโลกใบนี้ได้อย่างแน่นอน

 

                 สำหรับเธอที่มีบุญเก่าเกื้อหนุนและใช้ชีวิตอย่างมีสติ สามารถดำเนินชีวิตมาตามขั้นตอนจนกระทั่งประคองตนมาได้จนถึงวัยอันควรหรือจนกระทั่งสำเร็จการศึกษา แสดงว่าเธอโชคดีมากที่ชีวิตผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆมาได้ เธอจงเดินทางอย่างสง่างามและถ่อมตน แต่เธออย่าได้ดูหมิ่นหรือซ้ำเติมผู้อื่นที่ล้มลุกคลุกคลานหรือพลั้งพลาด จงให้โอกาสแก่ทุกคนทุกชีวิตและให้กำลังใจแก่เพื่อนมนุษย์ แล้วชีวิตของเธอจะทรงคุณค่า ที่นอกจากเป็นที่พึ่งแก่ตนเองได้แล้ว ยังสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์และเป็นที่พึ่งแก่คนอื่นได้ด้วย  ชีวิตเช่นนี้ย่อมคุ้มค่าแก่การได้เกิดมาเป็นมนุษย์  จงมั่นคงและศรัทธาในกรรมดีไม่เสื่อมคลาย  แล้วเธอจะเป็นตัวอย่างชีวิตให้แก่คนอื่น  เธอจะพบความสุขความร่มเย็นในชีวิต ไม่ว่าเธอจะเลือกเดินเส้นทางชีวิตในทางโลกหรือในทางธรรม เธอจะพบกับความสำเร็จตามที่ใจของเธอปรารถนา

 

คุรุอตีศะ
๑๙  พฤษภาคม  ๒๕๕๖