ชีวิตวันนี้นั้นดีแล้ว

ชีวิตวันนี้นั้นดีแล้ว

 

 

                ชีวิตของเราที่อยู่ได้มาจนถึงวันนี้ถือเป็นความโชคดีอย่างมากแล้ว ไม่จำเป็นอะไรที่ต้องไปเปรียบเทียบกับอดีตอันรุ่งเรืองหรือชีวิตของคนอื่น   การดำรงอยู่อย่างมีความสุขในขณะนี้คือสิ่งสำคัญ  ความสุขของชีวิตนั้นไม่ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้แต่อย่างใด

 

                 ปีก่อนนั้นกิจการและการเงินของเราอาจดูเฟื่องฟุ้ง  เคยใช้จ่ายได้ตามใจ อยากซื้ออะไรก็ทำได้ตามที่หวัง  ส่วนวันนี้อาจเหลือรถคันเก่าเพียงคันเดียวที่เริ่มจะพัง  แต่มันก็ยังซื่อสัตย์พาเราไปถึงที่ทำงานหรือจุดหมาย ไม่ได้เสียกลางทางให้อายใคร

 

                  เจ็ดปีก่อนเคยสัญญารักว่าจักแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง  แต่พอใกล้วันแต่งงานเธอกลับเปลี่ยนใจโดยให้เหตุผลว่าความรักอย่างเดียวไม่เพียงพอสำหรับฉัน  มีผู้คนรุมโจมตีเธอนั้นมากมายว่าแท้จริงแล้วเธอมีชายอื่นที่ร่ำรวยกว่ามาติดพัน แต่ฉันก็ได้ปกป้องเกียรติยศของเธอผู้เคยเป็นที่รักของฉัน อย่างเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายเป็นครั้งสุดท้ายไว้ได้อย่างภาคภูมิใจและจักไม่มีความเสียใจอีกเลยไปจนตลอดชีวิต

 

                   ปีที่แล้วมีเงินไปเดินห้างซื้อกระโปรงชุดสวยได้สามชุด  พร้อมยังซื้อกางเกงและเสื้อเชิ้ตสำหรับสุภาพบุรุษอยู่ที่บ้าน  มาปีนี้ต้องแต่งชุดซ้ำกันหลายวันไปทำงาน  แต่ก็ยังพอมีเงินเติมน้ำมันขับรถออกจากบ้านเพื่อไปลอยกระทง

 

                  ปีที่แล้วเป็น ส.ส.มีเงินเดือนเป็นแสนๆ จะเดินทางไปไหนมีแต่คนยกมือไหว้เรียกว่า “ท่าน” มีบริวารมากมายมีคนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ตอนนี้ชีวิตต้องเผชิญกับความอนิจจัง ต้องกลับอีสานบ้านเกิดทำนาเลี้ยงปลาในกระชัง  แม้ไม่มีบริวารไม่มีใครเดินตามหลัง แต่ก็ยังมีหมาเจ้านิลผู้ซื่อสัตย์เดินตามอยู่ทุกครั้งเมื่อเดินลงสู่กลางทุ่งนา

 

                  เคยเป็นพริตตี้ตอนบ้านเมืองเศรษฐกิจดีมีรายได้เดือนละเป็นแสน  งานอีเว้นท์งานโชว์ตัวมีมากมายจนเลือกรับงานแทบไม่ไหว  มาปีนี้ในเดือนหนึ่งมีงานโชว์ตัวเพียงหนึ่งงานก็สุดแสนจะดีใจ  ได้ข่าวว่ามีหลายรายที่เคยจ้างงานกิจการกำลังจะล้มละลาย  จึงถือเอาโอกาสนี้เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่  เริ่มมาอ่านหนังสือเพชรพระอุมาอย่างมีความสุขและสวดมนต์ก่อนจะนอน

 

                   จำได้ว่าเมื่อจะถึงงานลอยกระทงในปีก่อนๆ  เคยบุ๊คตารางไว้แน่นอนว่าจะไปเที่ยวสุโขทัยตามที่หวัง  มาปีนี้แม้แต่ในกทม.เขาก็ยังออกประกาศห้ามลอยกระทงใน ๒๑ ท่า เพราะกลัวว่าท่าเรือและโป๊ะจะพัง  จึงคิดว่าจะทำกระทงน้อยๆลอยในสระข้างบ้านซึ่งฉันไม่เคยชายมองมาก่อนเลย  วันนี้ไม่มีเงินเติมน้ำมันไปเที่ยวสุโขทัย แต่เหตุไฉนสำหรับสระน้อยๆที่อยู่ข้างบ้านช่างงดงามจับตาเป็นพิเศษแท้

 

                  ชีวิตที่ดีที่สุดคือชีวิตที่หาความสุขได้ในวันนี้  จงขอบคุณต่อทุกสิ่งที่ชีวิตมีแก่ใจมอบไว้ให้  ไม่จำเป็นต้องหันหน้าพึ่งอบายมุขหรือต้องสรวลเสเฮฮาเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์แต่อย่างใด   เพียงเดินเอาถังขยะไปทิ้งนอกบ้านได้  ก็เป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งแล้ว

 

                 ไม่ต้องรอให้มีเลือกตั้งหรือการเมืองดีเสียก่อนจึงจะมีความสุข จงเอาสองขาและสองมือของเราสร้างความสุขในวันนี้  ชีวิตอาจยากจนลงมาหน่อยหรือฝืดเคืองมากกว่าเดิม แต่เราก็มีเวลาว่างเพิ่มในการจะสร้างกุศลให้มากกว่าเดิมและมีเวลาอยู่กับครอบครัว

 

                อย่าอับอายหากกิจการทรุดตัวหรือยากจนลงกว่าแต่ก่อน  จงย้อนมองชีวิตของเราเมื่อครั้งอดีตในหนหลัง  จากแต่ก่อนไม่มีบ้านอยู่และเคยเช่าบ้านที่ใกล้จะพัง  ส่วนวันนี้มีบ้านเป็นหลังเราจะเสียกำลังใจไปทำไม

 

                หากจะจนลงสักแค่ไหนก็คงไม่จนเท่าแต่ก่อน  อย่ามัวแต่อาลัยอาวรณ์ต่อความรุ่งโรจน์ในอดีตให้ใจเสีย     จงพักสายตาพักหัวใจบ้างเถิดหากยามนี้ชีวิตช่างอ่อนล้าและอ่อนเพลีย  ชีวิตนี้ไม่มีอะไรต้องสูญเสียตราบใดที่หัวใจดวงนี้ไม่ยอมสิ้นซึ่งความหวังอันเรืองรอง

 

                ชีวิตของเราในวันนี้นั้นดีแล้ว  อย่าห่วงหาอาลัยในอดีตครั้งหนหลัง  อย่าพะวงต่ออนาคตอันยังไม่มาถึงให้สูญเสียพลัง  จงเข้มแข็งและเต็มเปี่ยมด้วยความหวังแล้วอนาคตวันพรุ่งนี้จะดีเอง

 

                  จงยืนหยัดและเข้มแข็งอยู่กับความจริงในวันนี้  เราอย่าสูญสิ้นความหวังในเมื่อเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างในวันพรุ่งนี้

 

                จงสวดมนต์ไหว้พระแล้วอธิษฐานขอพรให้พบแต่สิ่งที่ดี  แม้ว่าในวันนี้จะมีสิ่งมายั่วยุหรือท้าทายเพียงใด  ก็จงรักษาคุณธรรมมโนธรรมของเราไว้ดุจเกลือรักษาความเค็ม

 

                 ในท่ามกลางความมืดมิดที่เราไม่รู้ว่าจะเดินไปทิศใด  จงหยุดยืนตั้งสติให้จิตใจสงบสักครู่หนึ่งแล้วใช้ความรู้สึกกำหนดว่าสมควรจะก้าวขาไปทางไหน  จงเชื่อความรู้สึกนั้นแล้ววิ่งอย่างไม่มีความลังเลในทันใด  ตัวนำทางที่ซ่อนอยู่ข้างในจะนำทางเราไปสู่จุดหมายเอง

 

 

                                                                                      คุรุอตีศะ

                                                                            ๔  พฤศจิกายน  ๒๕๕๗