สาระของชีวิตสมรส

สาระของชีวิตสมรส

 

 

 

 

               ชีวิตสมรสหรือการแต่งงาน ได้แก่ชีวิตที่สูงขึ้นไปกว่าความสัมพันธ์ทางสัญชาตญาณตามธรรมดาของหญิงชาย  คือชีวิตที่พร้อมจะยกฐานะแห่งความสัมพันธ์อันแนบแน่นนั้นให้สูงขึ้นไปเป็นพลังสร้างสรรค์ แล้วร่วมกันสร้างฐานะหรือทำตามอุดมการณ์ที่ทั้งสองมีจุดหมายร่วมกัน

 

                อย่าลดคุณค่าชีวิตสมรสของเราให้เหลือเพียงการหาความสุขทางร่างกาย หรือมุ่งหวังเก็บเกี่ยวเอาผลประโยชน์จากกันและกันเท่านั้น  หรือเพียงเป็นสะพานให้เราพบกับความสะดวกสบาย มีหน้ามีตาในวงสังคม มีความร่ำรวย มีเกียรติหรือโอ้อวดคนอื่นได้

 

               มิฉะนั้น เราจะได้แต่พิธีแต่งงานหรือทะเบียนสมรส แต่ไม่ได้ใจของกันและกัน  เมื่อถึงวันหนึ่งเราจะพบกับความล้มเหลวและค้นพบว่าแท้จริงแล้วเราต่างหลอกลวงกัน และมิได้มีความรักให้แก่กันอย่างแท้จริงเลย  อาณาจักรแห่งความรักที่เคยใฝ่ฝันจะยิ่งนับวันห่างไกล

 

             หากชีวิตสมรสหรือชีวิตคู่ของเราเริ่มต้นด้วยหัวใจที่ซื่อตรงไปตามประสา  เราอาจจะไม่ได้เป็นคนดีที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง แต่เราก็ปรารถนาจะฝากชีวิตและหัวใจไว้กับเขา  หากเป็นผู้ชายก็รู้สึกและบอกกับตัวเองได้ว่าผู้หญิงคนนี้คือสิ่งที่มาเติมเต็มให้แก่ชีวิตของเรา อยากโอบอุ้มและปกป้องเธอให้อยู่ในโลกใบนี้อย่างปลอดภัย  เพียงเท่านี้ก็ถือว่าคนทั้งสองได้เริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยหัวใจและมีการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวได้อย่างถูกต้องแล้ว

 

               เมื่อเกิดปัญหาหึงหวงในครอบครัว  ขอจงเลือกเอาครอบครัวแล้วถอยกันคนละก้าว  อย่าปล่อยให้มือที่สามหรือบุคคลใดมายุยงและมามีอิทธิพลต่อความรักของเรา  หากตัดไฟแต่ต้นลมได้ จงรีบตัดเสียให้เร็วที่สุด

 

               หากเป็นฝ่ายหญิงก็อย่ามัวอ้างเหตุผลหรือชักแม่น้ำทั้งห้าพร่ำจำนรรจาเพื่อชี้แจงให้วุ่นวาย  เพราะผู้ชายทุกคนเขาไม่ได้โง่และไม่ต้องการคำอธิบาย  แต่ต้องการเพียงสิ่งเดียวคือการได้เห็นความบริสุทธิ์ใจและความจริงใจว่าเธอไม่มีเยื่อใยกับบุคคลภายนอก เมื่อเขาบอกให้หยุดหรือให้เลิก ก็สมควรหยุดและเชื่อฟังเขา  ความรักความเมตตาและความสงสารจะเพิ่มขึ้นต่อตัวเราเป็นทวีคูณ

 

               หากผู้หญิงไม่รู้ทันในเรื่องนี้  ไปแสดงความเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่ผิด ไม่มีการลดราวาศอกหรือดื้อรั้นจะทำตามใจตัวเองอย่างอิสระโดยถือว่าเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ เขาน่าจะเข้าใจ  ก็อาจจะเกิดโศกนาฏกรรมอย่างที่เป็นข่าวในสังคมให้เห็นอยู่อย่างนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า

 

             เป็นผู้หญิงต้องรู้จักใช้ไม้อ่อน รู้จักเอาน้ำเย็นเข้าลูบ รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา  หากเรามีความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริงแล้ว  เขาจะเข้าใจได้เองโดยที่เราไม่ต้องใช้เหตุผลหรือใช้คำอธิบาย

 

             ฝากไปถึงผู้ชายในยุคสมัยนี้ที่ต้องเป็นฝ่ายทุกข์กับเรื่องเหล่านี้กันมาก  หากเรามีความซื่อสัตย์ประพฤติดีเป็นหลักของครอบครัว แต่เขากลับเป็นฝ่ายไหลไปตามกระแสของยุคสมัย  จงปล่อยเธอไปเถิดอย่ายื้อยุดฉุดไว้ให้เพิ่มกรรมเวรอีกต่อไป  อย่าไปคาดคั้นให้เธอยอมรับผิดหรือขอโทษเราให้วุ่นวาย เพราะตามธรรมดาของบุคคลที่นอกใจย่อมไม่มีทางที่จะยอมรับความจริง

 

            หากมีปืนก็จงเอาปืนไปฝากไว้กับคนอื่น  หากทำได้จงขอลางานกับเจ้านายและไปรักษาศีลในวัด  พยายามตั้งสติและกรวดน้ำให้หมดเวรหมดกรรมต่อกันเพื่อให้ความโกรธแค้นค่อยๆคลายตัวลงไป  จนจิตใจได้รับการฟื้นฟูกลับคืนสู่ความเข้มแข็ง เกิดความปลอดโปร่งแจ่มใส  เมื่อคิดจะมองหาสตรีคนใหม่ ก็จะเริ่มต้นชีวิตด้วยสติและพบชีวิตสมรสครั้งใหม่ที่ผาสุกกว่าเดิม

 

            เกิดเป็นชายอย่าเอาชีวิตไปฝากไว้กับสตรีที่ไม่มีศีลเพียงคนหนึ่ง  อย่าให้สตรีคนใดมาทำลายคุณค่าความมั่นใจตัวเองแห่งความเป็นชายของเราได้  ยังมีสตรีที่รอคอยผู้ชายแบบนี้อีกมากมาย เพียงกล้าทิ้งอดีตแล้วก้าวสู่ชีวิตใหม่ ตราบใดแผ่นดินไม่ไร้เท่าใบพุทรา ลูกผู้ชายทุกคนย่อมสามารถแสวงหาสตรีผู้คู่ควรแก่เกียรติยศและความดีที่เรานี้พร้อมมอบหัวใจให้เสมอ

 

             หากคนที่เป็นกุลสตรีผู้หยิ่งในเกียรติและศักดิ์ศรีที่เพียบพร้อม แต่อาจพบกับผู้ชายด้อยปัญญาไร้สกุลจึงทำให้มองไม่เห็นคุณค่า  ขอจงเช็ดน้ำตาแล้วรักษากายรักษาใจของเราไว้ให้ดี  สักวันหนึ่งจะมีสุภาพบุรุษที่สวรรค์ซ่อนไว้เพื่อตัวเราจักนำเอาเพชรเม็ดนี้ไปประดับอยู่บนเรือนแหวน  ไม่จำเป็นอะไรต้องให้ชีวิตทั้งชีวิตที่พ่อแม่เลี้ยงดูเรามาด้วยความเหนื่อยยากไปขึ้นอยู่กับผู้ชายเพียงคนเดียวที่มีแต่ตาแต่หามีแววไม่  สักวันหนึ่งจักต้องมีเทพบุตรปรากฏกายเพื่อปกป้องและนำพาชีวิตของเราไปสู่ความดีงาม

 

              หากเป็นบุรุษเพศที่ให้เกียรติสตรีและทนุถนอมเธออย่างดีแต่เธอกลับมองว่าเราโง่เกินไป  ก็จงปล่อยเธอไปหาผู้ชายคนใหม่ จะได้หมดเวรกรรมกันไป หมดความอึดอัดขัดใจกันทั้งสองคน

 

               การไม่มีความหนักแน่นอดทน เมื่อไม่พอใจในคนนี้ก็รีบเปลี่ยนใจวิ่งไปหาคนใหม่ อย่างที่ผู้หญิงบางคนสมัยนี้คิดว่าเป็นความทันสมัยและโก้เก๋  เธออาจหลายรักหลงระเริงใจไปได้ไม่กี่ปี  พอเธอเริ่มร่วงโรยและเสวยกรรมจากการดูหมิ่นผู้ชายเมื่อถึงวัยเลยสามสิบปีขึ้นไป จะเป็นชีวิตที่ปวดร้าวใจ ซึ่งผู้ชายทั้งหลายที่เคยหัวปั่นจะไม่มีโอกาสเห็นเคราะห์กรรมของเธออีกแล้ว

 

               เนื่องจากความจริงใจของเขาที่มีให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจแต่ต้องอกหักในช่วงวัยหนุ่ม พอถึงชีวิตวัยกลางคนเขาจะมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นแล้วเป็นส่วนมาก อันเกิดจากกุศลกรรมที่เขาให้เกียรติและให้ความจริงใจต่อสตรีเพศ ช่วยหนุนส่งให้เขาพบกับความรักที่ดีงามในกาลต่อมา   

 

                เมื่อตัดสินใจใช้ชีวิตสมรสแล้ว  จงถือหลักดวงแก้วคือความหนักแน่นอดทนและความซื่อสัตย์ต่อกันเป็นหลักชัยไว้เสมอ  สิ่งนั้นแหละคือสิ่งที่จะช่วยหล่อหลอมให้หัวใจของทั้งสองคนเกิดการพัฒนาทางจิตใจ เข้าสู่ความเป็นสมดุลแห่งชีวิต เข้าสู่ความรักแห่งพระโสดาบันต่อไป

 

                ชีวิตของคนแต่งงานที่ถือว่าประเสริฐและได้รับการยกย่องจากนักปราชญ์ทั้งหลาย ก็เพราะมีความอดทนต่ออุปสรรคปัญหาสารพัด จนกระทั่งจิตใจยอมรับกับความจริงของชีวิตได้ อันถือว่าเป็นการปฏิบัติธรรมในภาคฆราวาสซึ่งจากต่างชีวิตของคนโสดอีกต่อไป  ความอดทนที่พากันฟันฝ่าอุปสรรค ประคองตนจนอยู่กันตลอดรอดฝั่งมาได้  จึงถือว่าเป็นวีรบุรุษวีรสตรีอันคนทั่วไปทำได้โดยยาก เป็นเยี่ยงอย่างของสามีภรรยาที่มีคุณธรรม ที่เขาเชิญไปปูที่หลับที่นอนให้คู่บ่าวสาวและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปเมื่อผ่านเข้าสู่วัยชรา

 

                สาระของชีวิตสมรส  แท้จริงแล้วคือพันธะสัญญาของหัวใจทั้งสองที่จะนำพากันไปสู่เป้าหมายที่สูงส่ง  เป้าหมายระดับสามัญอาจคือการช่วยกันสร้างฐานะสร้างครอบครัว ที่สูงขึ้นไปกว่านั้นคือการมีอุดมการณ์บางอย่างร่วมกันแล้วมีพลังสร้างสรรค์ร่วมกันฟันฝ่าไปสู่จุดหมาย

 

              บางคู่อาจเริ่มต้นด้วยการแอบหนีตามกันไป แล้วกินข้าวกับไข่ต้มแบ่งกันคนละครึ่งฟองกับน้ำปลาขวดเล็กๆฉบับกระเป๋าอยู่หลายวัน  แม้จะเป็นสิ่งที่ผิดประเพณีอับอายชาวบ้าน  แต่หากเวลาต่อมาเขารักกันจริงและครองคู่อยู่กันยั่งยืนไปตลอด  ก็ถือว่าเขาได้สาระแห่งชีวิตสมรสไม่แพ้คนอื่นเหมือนกัน  สิ่งสำคัญที่สุดจึงได้แก่หัวใจของคนทั้งสองนั่นเองที่สวรรค์ท่านรับรู้

 

             ในสภาพสังคมที่เราทั้งหลายกำลังสับสนและต้องผจญต่อสิ่งต่างๆ  อย่าปล่อยให้หัวใจของเราต้องหดหู่อ้างว้างไม่รู้จะเดินไปทางไหน  จงยึดเอาหลักพระศาสนาไว้ก่อนในตอนนี้เพื่อถือไว้เป็นหลักชัย  อย่างน้อยก็อย่าเอาแต่กอดหมอนนอนร้องไห้  แต่ควรไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความอบอุ่นในหัวใจ แล้วหมั่นภาวนาขอพรเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้ตัวเอง

 

             จงเมตตาสงสารภรรยาที่นอนอยู่ข้างกายของเราไว้ให้มาก  สงสารเธอที่ต้องมาตกระกำลำบาก ต้องมาฝากชีวิตไว้กับเราผู้แต่เดิมมาก็ไม่มีอนาคตอันใด จนกระทั่งมายืนอยู่อย่างสง่างามในวันนี้  เธออาจเป็นผู้หญิงเอาใจไม่เก่งหรือพูดไม่ไพเราะเท่าใดนักเป็นอุปนิสัย  แต่เธอก็ซื่อตรงและมีความรักความจริงใจยิ่งกว่าใคร  พร้อมทั้งเป็นช้างเท้าหลังที่เป็นหลักคอยยั้งไว้และให้กำลังใจได้อย่างดีเยี่ยมยามที่เราเสียหลักหรือซวนเซ

 

              จงมองเห็นคุณค่าและให้ความนับถือต่อสามีที่เขาทุ่มเททุกอย่าง  ยามชีวิตหม่นหมองและอ้างว้างก็ได้เขาคอยให้กำลังใจและอยู่เป็นเพื่อน   เขาอาจไม่รู้ใจในบางครั้งและเอาใจเราไม่ค่อยถูกเพราะเขาไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้หรือเสือผู้หญิงมาก่อนแต่อย่างใด  แต่เสน่ห์ของเขาที่เราประทับใจก็คือความหนักแน่นมั่นคงในการยืนเป็นหลักชัยให้ครอบครัวตลอดมา

 

              ขอเพียงเราตั้งเป้าหมายในการใช้ชีวิตสมรสหรือการแต่งงาน  ว่าคือการที่เราจะพากันไปสู่ชีวิตที่สูงส่งขึ้นไปตามลำดับ  เราจะเป็นกำลังใจให้กันและหมั่นบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา

 

              มีเป้าหมายสำคัญในวันข้างหน้าว่า สักวันการเจริญสติของเราจะพัฒนาและเติบโตขึ้นตามลำดับอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วกลายเป็นพระโสดาบันบุคคลสามารถปิดอบายภูมิได้เด็ดขาดในวันหนึ่ง   นี้คือการยึดเอาสาระแห่งชีวิตสมรสของเราไว้ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

 

                                                                                               คุรุอตีศะ

                                                                                        ๒๙  ตุลาคม  ๒๕๕๗