เส้นทางของแต่ละคน

เส้นทางของแต่ละคน

 


              เราไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร  สิ่งที่เป็นความสุขของคนอื่นไม่ใช่จะเป็นความสุขของเราเสมอไป  บางสิ่งที่คนอื่นมองว่าไม่มีคุณค่าในสายตาของเขา  แต่สิ่งนั้นอาจเป็นความสุขของเราหรือมีคุณค่าทางจิตใจอันยิ่งใหญ่สำหรับเราก็ได้


              คนอื่นเป็นวิศวกรรับงานในโครงการก่อสร้างอันใหญ่โต  อาจเป็นความสุขความภูมิใจของเขา  แต่ความสุขของเราอาจคือการนั่งวาดรูปท่ามกลางสายลมเย็นๆใต้ร่มไม้ พร้อมกับหยิบขนมชิ้นเล็กๆใส่ปากพร้อมเขียนลวดลายวาดเส้นไปอย่างมีสมาธิก็ได้


             ความสุขของคนอื่นอาจคือการเรียนทางวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นแพทย์ เป็นวิศวกร เป็นสถาปนิกที่ต้องใช้คณิตศาสตร์เป็นวิชาหลักต่อไป  ส่วนตัวเราอาจมีความสุขและพอใจในประวัติศาสตร์ สังคมศึกษา หรือภาษาไทย ก็ไม่เห็นว่าจะต้องเสียเกียรติหรือต่ำต้อยตรงไหนเลย


             บางคนอาจสอบเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยได้ตั้งแต่วัยยังไม่ถึงยี่สิบ  เขาเป็นผู้มีเกียรติ มียศและอนาคตที่สดใสรออยู่เบื้องหน้า  ส่วนตัวเราอาจเรียนสายอาชีวะด้วยความพอใจกับการที่จะได้ออกไปประกอบอาชีพช่วยเหลือครอบครัวให้ทันเวลา ก็ไม่เห็นจะต้องมีปมด้อยหรือน้อยหน้า เพราะวันหนึ่งข้างหน้าตอนอายุสี่สิบปี เราอาจเป็นอาเสี่ยคนหนึ่งที่มีลูกน้องเป็นร้อย


             คนส่วนใหญ่ทั่วไปอาจมีความสุขกับครอบครัวตามประสาพ่อแม่ลูก ส่วนตัวเราฟ้าดินได้ลิขิตให้อยู่บนคานทองนิเวศน์อันนานโข  มิหนำซ้ำยังต้องเลี้ยงดูพ่อแม่พร้อมกับรบกับกิเลสของท่านไปด้วยจนผอมโซ   แต่จิตใจภายในของเรากลับเจริญเติบโตด้วยขันติและจาคะอันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปทำได้ยากนัก


               ในที่สุดเมื่อถึงวันหนึ่งที่ความดีเริ่มส่งผล ความลำบากที่เราอดทนมาได้ทั้งน้ำตาท่ามกลางความมืดมนตลอดมา สายน้ำทิพย์จากท้องฟ้าก็ตกลงมาปลอบประโลมและมอบรางวัลชีวิตอย่างอัศจรรย์จนกลายเป็นที่อิจฉาของใครต่อใคร


              ได้ยินข่าวทางทีวีเสนอเรื่องราวชีวิตของมหาเศรษฐีรวยหมื่นล้าน  เราก็ยกมือขึ้นท่วมหัวสาธุการว่า ช่างเป็นบุญวาสนา ความฉลาดมีปัญญาและความขยันหมั่นเพียรของเขา ส่วนวันนี้เราต้องขี่ซาเล้งไปบรรทุกเอากระเบื้องสักสิบแผ่นมาซ่อมหลังคา ต้องรีบไปรีบกลับตามคำสั่งของผู้บัญชาการทางบ้าน(ผบ.ทบ.)ให้ตรงเวลา  มิฉะนั้นอาจต้องโดนเมียด่าในฐานะที่เชื่องช้าไม่ทันใจของเธอ  และความสุขในวันนี้ของเราคือสามารถสนองนโยบายของเธอได้สำเร็จเรียบร้อยตรงเวลา  รอดพ้นจากการโดนเมียด่า เลยมีเวลามานั่งดูมวยคู่เด็ดอย่างสุขใจ


              ความสุขในชีวิตไม่จำเป็นต้องรอให้รวยเหมือนคนอื่นเสียก่อน  ตำน้ำพริกกะปิพร้อมกับมีผักข้างรั้ววางในจานแล้วนั่งลงกินข้าวพร้อมพูดคุยปรึกษากันไปตามประสาคนหน้าดำ ก็สามารถพบกับความสุขใจได้  อิ่มท้องแล้วก็เอนหลังนอนหลับพักผ่อนร่างกาย  แล้วค่อยตื่นลุกขึ้นมาคิดกันใหม่ว่าพรุ่งนี้จะกินอะไรกันดี


              ได้ยินข่าวว่ามีพระผู้ใหญ่ท่านรวยมากมีรถเป็นสิบคันและมีเงินหลายสิบล้าน  ตัวเรานี้กำลังเดินแบกกลดอยู่ข้างทางโบกรถสามครั้งแล้วก็ไม่มีใครยินดีรับ  ท่านมีรถกี่คันจะเป็นความจริงหรือไม่ก็เกินอำนาจวาสนาของเราจะยุ่งเกี่ยวหรือจัดการ  ก็ได้แต่ปาดเหงื่อไม่ให้เข้าตาแล้วเดินต่อไปโดยไม่สะทกสะท้าน เพื่อการบำเพ็ญตบะบารมีตามที่ได้อธิษฐานเมื่อตัดสินใจทิ้งความสะดวกสบายออกจากวัดมา ความสุขของเราคือการได้เดินตามรอยพระอริยเจ้าผู้พ้นโลกไปแล้ว


               ได้ยินเสี่ยสองคนเขาทักทายกันในร้านอาหาร  คนหนึ่งบอกว่ารายได้และกำไรปีนี้ลดเหลือแค่สิบล้านแย่กว่าปีที่แล้วมาก  ส่วนตัวเราต้องรีบซื้อข้าวเปล่าด้วยความเหนียมอายกลัวกลัวทางร้านเขาไม่ขายให้เต็มกำลัง  รีบสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆแล้วไปนั่งข้างทางกินกับปลาเค็มที่ห่อมาจากบ้านเพื่อให้มีแรงร้องขายข้าวโพดข้างทางจนกว่าจะหมดวัน  ความสุขของเราคือสามารถซื้อข้าวสวยมาได้สำเร็จเพราะเมื่อเช้าหุงข้าวไม่ทัน และก็อิ่มท้องเรียบร้อยแล้ว


                ความสำเร็จอาจไม่ใช่ความสุขเสมอไป  คนจำนวนมากในโลกที่จัดได้ว่าเป็นผู้มีความสำเร็จในหลายสิ่งหลายอย่างแต่ก็หาความสุขไม่ได้  เพราะความสำเร็จในเป้าหมาย ส่วนใหญ่เป็นการสนองความอยากที่ตนตั้งเป้าไว้เท่านั้น มันคือการสนองตอบอัตตาตัวตนมากกว่า


                บางทีกว่าจะลุถึงเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งร่างกายและจิตใจก็อ่อนล้าหรือหมดพลังไปก่อนจนไม่หลงเหลือความปลื้มปีติอันใด คนส่วนใหญ่จึงมักพบกับความสำเร็จที่มาพร้อมกับความแห้งแล้งในชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย


               ในสายตาของชาวโลกแล้ว  การตอบสนองต่ออัตตาตัวตนนั้นถือว่าเป็นความสำเร็จ แต่สำหรับผู้มีปัญญาญาณหรือพระอริยเจ้า  การที่ชีวิตได้รับความเบิกบานคือความสำเร็จ


               ไม่ว่าใครจะมีใครรู้จักท่านเหล่านั้นหรือไม่ก็ตาม  ไม่ว่าชีวิตของท่านจะอยู่อย่างไร อยู่โดยที่ไม่มีใครรู้จัก ไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับท่าน  ไม่ได้ทันสังเกตท่าน  แต่ท่านเหล่านั้นมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเบิกบานภายใน มีความสุข  ท่านเหล่านั้นต่างหากคือผู้ที่ประสบความสำเร็จ


               จงทำใจของเราให้ใสสะอาด  อย่ายึดเอาความสำเร็จในบางสิ่งบางอย่างเป็นตัวตั้งในชีวิตจนเกินไป  บางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเป็นความสำเร็จในวันนี้ อาจคือความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่เมื่อวันเวลาของชีวิตผ่านประสบการณ์ไปถึงจุดหนึ่งแล้ว


                อย่ามุ่งเน้นแต่ความสำเร็จ  ไม่เช่นนั้นแล้วเราอาจจะพบแต่ความล้มเหลว จงเริ่มเรียนรู้ที่จะให้หัวใจของเราได้รู้จักความสุขเสียตั้งแต่วันนี้  ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม


               จงคิดเพื่อชีวิตที่เบิกบาน  ทุกวัน ทุกนาที ให้เราคิดที่จะมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ  แม้คนทั้งโลกจะพูดว่าเรานั้นล้มเหลว  แต่เราจะเป็นคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่พบกับความสำเร็จอย่างแท้จริง  อันเป็นความสำเร็จที่มาพร้อมกับความสุขและความเบิกบาน


               ความสำเร็จอาจไม่เป็นความสุขเสมอไป  แต่ความสุขและความเบิกบานใจคือความสำเร็จเสมอ   สิ่งนี้ต่างหากคือสิ่งที่หัวใจและชีวิตต้องการอย่างแท้จริง

   
               
                                                                                                คุรุอตีศะ
                                                                                        ๒๐  ตุลาคม  ๒๕๕๗