สายหมอกแรกแห่งฤดูหนาว

 สายหมอกแรกแห่งฤดูหนาว

 


                    เป็นเช้าวันแรกที่สายหมอกได้มาเยือน บรรยากาศยามเช้าเงียบสงบ นกส่งเสียงร้องเรียกทักทายกันเบาๆกว่าทุกวัน เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงว่า ต่อไปนี้ความสดชื่นชุ่มฉ่ำและความเขียวขจีที่เคยมีกำลังจะเริ่มเลือนหายไป เข้าสู่ฤดูกาลใหม่คือเหมันตฤดูอันเหน็บหนาว


                   ความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลต่างๆในรอบปี คือการปรับสมดุลของธรรมชาติประการหนึ่ง เช่นเดียวกับฤดูกาลของชีวิต คือความสุขและความทุกข์ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเยี่ยมเยียนชีวิตของแต่ละคน ที่ไม่ว่าจะเป็นรวยคนจน คนชั้นสูงคนชั้นต่ำ ต่างก็ต้องเผชิญกับฤดูกาลของชีวิตเสมอหน้ากันไม่มียกเว้นใครเลย


                    ต้นไม้ ใบหญ้า แม้แต่เหล่านกกา ต่างก็พากันต้อนรับสายหมอกแห่งฤดูหนาววันแรกอย่างเคารพและเงียบสงบ ไม่มีคำตัดพ้อต่อว่า ไม่มีคำพร่ำบ่นแสดงถึงความน้อยอกน้อยใจ ต่างยอมรับความจริงและยอมรับสายหมอกแรกในเช้าวันนี้ด้วยความเจียมตัวและเต็มใจ


                  เมื่อยังยึดติดในความสุข ก็จงอย่าผลักไสหรือปฏิเสธต่อความทุกข์ที่เข้ามาเยี่ยมเยือนเป็นครั้งคราว ดุจการยอมรับความจริงว่าเมื่อมีฤดูฝน ก็ต้องมีฤดูหนาว เมื่อมีบรรยากาศที่ชื้นแฉะและฉ่ำไปด้วยน้ำ ก็ต้องถึงเวลาที่จะพบกับความหนาวเย็นและความแห้งแล้งเพื่อให้โลกและผืนดินได้มีโอกาสพักฟื้นตัวเพื่อการเข้าสู่รอบปีครั้งใหม่


                   สัจธรรมที่แท้จริงของชีวิต ไม่ได้มีเพียงด้านเดียว ไม่ได้มีไว้เพื่อให้เลือกเอาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่คือการเป็นทั้งหมดของทุกสิ่งทุกอย่างที่ชีวิตมอบให้ เมื่อมีความร่าเริงยินดี ก็ต้องยอมรับความเสียใจ เมื่อมีเสียงหัวเราะ ก็ต้องมีวันหนึ่งที่ต้องร้องไห้ ชีวิตได้มอบทุกสิ่งทุกอย่างให้เสมอกันไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง นี้คือความยุติธรรมของธรรมชาติที่มีตลอดมา


                  จงต้อนรับสายหมอกแรกแห่งฤดูหนาว ดุจเดียวกับเมื่อคราวที่หัวใจเริงร่าเมื่อสายฝนมาเยือนครั้งแรกเมื่อหกเดือนก่อนนั้น จะเป็นฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว ก็ต้องยินดีต้อนรับทุกฤดูกาลเสมอกัน เพราะนั่นคือความศักดิ์สิทธิ์และรางวัลที่ธรรมชาติได้มอบให้แก่เราแล้ว

 


                                                                                        คุรุอตีศะ
                                                                                   ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗