อานุภาพของจินตนาการ
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
อานุภาพของจินตนาการ
จินตนาการ จะเกิดขึ้นและงอกงามเจริญเติบโตท่ามกลางสภาวะที่ผ่อนคลาย การเคร่งเครียดจริงจังหรือความมุ่งมั่นเพื่อให้ได้ดั่งใจ จะเป็นตัวขวางกั้นและบดบังจินตนาการมิให้เจริญงอกงามและเผยตัวออกมา
ความรู้ เราอาจถ่ายทอดและอบรมสั่งสอนกันได้ แต่สำหรับจินตนาการแล้ว มิอาจถ่ายทอดหรือสอนกันแบบในชั้นเรียนได้ แต่เกิดจากการซึมซับและปลูกฝังไป จนกว่าจินตนาการที่ซ่อนอยู่ในตัวบุคลนั้นจะถึงเวลาเผยตัวออกมา เมื่อได้เหตุปัจจัยอันสุกงอม ซึ่งไม่ขึ้นกับระยะเวลาว่ามากหรือน้อย
ด้วยเหตุนี้อาจารย์ผู้บรรลุธรรมแล้ว ที่ไม่สามารถถ่ายทอดธรรมะที่ตนบรรลุแล้วไปสู่คนอื่นให้รู้ตามได้ จึงมีอยู่จำนวนมาก เพราะการถ่ายทอดธรรมะไม่สามารถเรียนทีละชั้นทีละปีเหมือนวิชาการต่างๆ อาจารย์เหล่านี้บางองค์บางท่านกลับเป็นผู้ทรงอภิญญาอย่างสูงด้วยซ้ำ แต่กลับแจกแจงแสดงธรรมให้ผู้อื่นรู้เห็นและเข้าใจตามไม่ได้ นี้คือความยิ่งใหญ่ของจินตนาการที่เหนือกว่าความรู้แบบจดจำข้อมูลที่เราเรียนรู้กันอยู่ทั่วไป
มาดามมารี คูรี่ นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลกผู้ค้นพบแร่เรเดียม ครั้งหนึ่งเธอได้พยายามคิดค้นหาคำตอบในสิ่งหนึ่งด้วยวิธีทางคณิตศาสตร์อยู่ตลอดระยะเวลา ๓ ปี เธอเพียรพยายามครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างไม่ลดละ แต่ก็ไม่อาจค้นพบคำตอบในโจทย์ข้อนั้นได้
จนกระทั่งคืนวันหนึ่ง หลังจากเธอพากเพียรคร่ำเคร่งอย่างเอาจริงจังกับโจทย์ข้อนั้นจนดึกมากแล้ว จนเธอต้องบอกกับตัวเองว่า เธอใช้เวลาในการแก้โจทย์มานานถึง ๓ ปี เศษแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบในเรื่องนั้นได้ เธอจึงตัดสินใจปล่อยวางโจทย์ข้อนั้นและยุติการค้นหาคำตอบนับแต่บัดนี้ไป แล้วเข้านอนพักผ่อนโดยไม่ใส่ใจต่อโจทย์ขอนั้นอีก
พอเธอตื่นนอนเวลาเช้าของวันรุ่งขึ้น เธอเดินไปที่โต๊ะในห้องทำงาน เธอตกตะลึงแทบลืมหายใจ เมื่อพบคำตอบของโจทย์ข้อที่เธอคร่ำเคร่งมาตลอดเวลาสามปีอยู่บนโต๊ะตัวนั้น ที่อัศจรรย์ก็คือคำตอบที่ปรากฏอยู่นั้นเขียนด้วยลายมือของเธอเอง
เธอพยายามนั่งนึกทบทวนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อห้องนี้ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้นอกจากเธอคนเดียวเท่านั้น เมื่อตั้งสติทบทวนทีละขั้นๆ จึงจำได้ว่า เมื่อคืนนี้เธอรู้สึกว่าเธอฝันถึงโจทย์ข้อนั้นและพบคำตอบที่แสวงหามานาน แล้วจำได้ว่าในความฝันนั้น เธอได้เดินไปที่โต๊ะทำงานตัวนั้น แล้วเอาดินสอจดคำตอบลงไว้ในกระดาษแผ่นนั้น
เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกผู้นี้เธอก็อธิบายไม่ได้ ได้แต่จดบันทึกไว้ในสมุดบันทึกประจำวัน แต่ต่อมาคนรุ่นหลังได้วิจัยจนค้นพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับมาดามมารี คูรี่นั้น คืออานุภาพของจินตนาการที่เผยตัวออกมาเมื่อได้เหตุปัจจัยอันเหมาะสมนั่นเอง
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับนักปฏิบัติธรรมที่บรรลุสมาธิจนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ผู้ที่เคยมีชีวิตประจำวันเช่นปุถุชนคนทั่วไป ต่อมาในวันหนึ่งเกิดอภิญญารู้เห็นสิ่งลี้ลับขึ้นมา ก็ทำนองประสบการณ์ที่นอกเหตุเหนือผลของมาดามมารี คูรี่ คือเมื่อจิตเกิดอาการผ่อนคลายและปล่อยวางอย่างเต็มที่ สิ่งเหล่านี้จะเผยตัวออกมา
มาดามมารี คูรี่ ค้นพบสูตรทางคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ แต่ผู้มีบารมีทางธรรมที่เคยสั่งสมอบรมบารมีมาข้ามภพข้ามชาติ ย่อมสามารถบรรลุสมาธิและได้อภิญญา หรือบางท่านมีบารมีสุกงอมแก่กล้า ท่านก็บรรลุเป็นพระอริยบุคคลชั้นใดชั้นหนึ่งในพระพุทธศาสนา ตามสมควรแก่เหตุปัจจัยและตามวาสนาบารมีของแต่ละคน
การบำเพ็ญสมาธิหรือการปฏิบัติธรรม จะต้องคร่ำเคร่งพากเพียรเอาจริงเอาจังและทำตามวิธีขั้นตอนต่างๆก็เฉพาะในตอนเบื้องต้นที่อินทรีย์ยังไม่ได้สัดส่วนสมดุลเท่านั้น แต่เมื่อใดที่ทุกอย่างลงตัวและได้ที่ จิตจะต้องผ่อนคลาย มีความเป็นกลาง มีความว่างและปล่อยวางเพื่อให้จินตนาการเผยตัวออกมาเต็มที่ การบำเพ็ญสมาธิหรือการเจริญสติก็ดี จึงจะบรรลุผล
ฉะนั้น สำหรับผู้มีสติปัญญาอันแยบคาย เมื่อทราบเหตุผลและกลไกความลี้ลับของจิตเช่นนี้ จึงได้ค้นพบเคล็ดลับวิธีอันสำคัญ คือ แทนที่จะสูญเสียเวลาและเหนื่อยยากในการปฏิบัติให้ตัวเองเคร่งเครียดลำบากเช่นนั้น ก็เริ่มหันมาดูจิตและกลมกลืนสอดคล้องไปกับสรรพสิ่ง จิตก็เริ่มมีสติแววไวมากขึ้น อันเป็นการยกก้อนหินที่ปิดปากถ้ำมานานให้เคลื่อนออกไป แล้วปล่อยให้อากาศอันบริสุทธิ์สดชื่นไหลเข้ามา นี้คือวิธีเปิดทางให้จินตนาการเจริญงอกงาม
อานุภาพของจินตนาการ มิได้งอกงามเจริญเติบโตเพราะความรู้ ข้อมูลความจำ หรือความสามารถทางสมองอย่างที่เราศึกษาเล่าเรียนกันทางโลก แต่เกิดจากพลังสติที่เราพากเพียรเจริญภาวนาทีละน้อย จนสติค่อยๆมีกำลังมากยิ่งขึ้น
ความรู้คือความทรงจำข้อมูล อันเป็นส่วนของสมองฝั่งซ้าย ส่วนจินตนาการคือตัวแทนแห่งความรัก ความเมตตา ความเอื้ออาทร ความมีมนุษยธรรม ความมีอิสรภาพเสรีภาพ สายใยแห่งความอบอุ่น ความร่มเย็น ความดีงาม ความมีคุณธรรมอยู่ภายในหัวใจ ส่วนนี้คือศักยภาพของสมองฝั่งขวา ซึ่งมีน้อยคนนักที่จะให้ความสำคัญและใส่ใจ
คนเราจะมีความสุขในชีวิตแค่ไหนเพียงไร จึงวัดได้จากอานุภาพแห่งจินตนาการที่ยังเหลืออยู่ในหัวใจของเขา หาใช่วัดจากเงินตรา ความร่ำรวย อำนาจความเป็นใหญ่ อย่างที่ผู้คนในโลกมักเอามาวัดกัน
คนเราในยุคสมัยปัจจุบัน เราฝึกอบรมและเชี่ยวชาญในส่วนของความรู้อันเป็นศักยภาพของสมองฝั่งซ้ายกันมากจนเกินขีดจำกัดมามากโข แต่สิ่งหนึ่งที่แคระแกร็นและแทบไม่มีการเจริญเติบโต สิ่งนั้นก็คือ จินตนาการ อันเป็นศักยภาพแห่งความสุข ความรัก และความงดงาม ที่จำต้องมีคู่กับความรู้ เพื่อการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้อย่างมีความสุขและสมบูรณ์
การเพิ่มพูนและพัฒนาจินตนาการให้มีอานุภาพเพื่อประโยชน์สุขในชีวิต ก็คือการพัฒนาสติสัมปชัญญะให้งอกงามและเข้มแข็งยิ่งขึ้น นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ก็คือคนมีสติมีสมาธิ แต่นำเอาสติและสมาธิไปคิดค้นวัตถุภายนอก แต่สำหรับพระอริยเจ้า ท่านเจริญสติเพื่อพัฒนาจินตนาการภายในให้ได้สัดส่วนที่สมดุล จนกระทั่งเกิดอานุภาพนำไปสู่ความพ้นทุกข์ ที่ดวงจิตพ้นจากราคะ โทสะ และโมหะ พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในที่สุด
นี้คืออานุภาพอันยิ่งใหญ่ของสิ่งๆหนึ่ง ที่ผู้คนส่วนมากในยุคสมัยปัจจุบันมักหลงลืมไป สิ่งนั้นก็คือ อานุภาพของจินตนาการ ที่มีอยู่เสมอมาทุกยุคทุกสมัยและมีอยู่แล้วในตัวของเราทุกคน
คุรุอตีศะ
๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗