ชีวิตนี้มีทางออก
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ชีวิตนี้มีทางออก
อาจมีอยู่บ่อยครั้งที่ชีวิตผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม คนเราส่วนใหญ่มักจะเอาใจไปจดจ่ออยู่กับความผิดพลาดนั้น ย้ำคิดย้ำทำ อันเป็นการยิ่งซ้ำเติมให้ตัวเองเป็นทุกข์ จมอยู่กับความซึมเศร้าเฝ้าแต่เสียใจ และมักจะพยายามเฝ้าเพียรสร้างคำถามเพื่อค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่เสมอ
แม้เราจะรู้ดีว่าคำตอบที่พยายามสรรหามาอธิบายให้กับตัวเองนั้น ไม่อาจทำให้หลุดพ้นจากความเศร้าเสียใจได้ แต่เราก็มักพอใจที่จะพร่ำรำพันและจมอยู่กับความเศร้านั้น เรากลายเป็นทาสของมันอย่างไม่รู้ตัวและติดกับดักแห่งความเสียใจอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
รู้ว่าเสียใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา แม้รู้ทั้งรู้ว่าเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่ทำไมเราจึงยอมเลือกที่จะเป็นทุกข์กับการเสียใจ และทำให้ชีวิตแต่ละวันที่ผ่านไปนับวันแต่จะแย่ลงยิ่งกว่าเดิม
เพราะเราไม่รู้ว่า “เราจะเริ่มต้นใหม่ตรงไหน” ทั้งๆที่รับรู้รสชาติของความขมขื่นมากมายเพียงใด เราจึงทุกข์ระทมไปกับความผิดพลาดของชีวิต แต่ละชั่วโมง แต่ละนาทีที่ผ่านไปจึงมีแต่ตอกย้ำความผิดพลาดให้ตัวเองต้องเจ็บปวดอยู่อย่างนั้น
ลองหันมองวิถีของดอกทานตะวันดูบ้าง ดอกทานตะวันช่างมีแต่ความเบิกบาน เพราะรู้จักที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆกับแสงตะวันที่กำลังฉายฉาน แสงตะวันคือแสงสว่างที่ส่องนำทางให้แก่ชีวิตทุกชีวิต
ทานตะวัน “ยังคงมีชีวิต” แม้ในยามที่ดอกทานตะวันได้ร่วงโรยไปแล้ว ที่ทานตะวันยังคงมีชีวิต ก็เพราะแม้จะร่วงโรยไป แต่ก็ยังคงทิ้งเมล็ดพันธุ์ไว้เพื่อมีทานตะวันดอกใหม่ที่จะงอกงามเจริญเติบโต และรับแสงตะวันได้ใหม่อีกครั้ง
ดังนั้น เมื่อชีวิตเกิดความผิดพลาด เราอย่าปิดโอกาสของตัวเองและหมกจมอยู่แต่กับอดีตที่ผันผ่าน อย่าคิดว่าชีวิตของเราจะเริ่มต้นใหม่อีกไม่ได้ อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการจมอยู่กับความเสียใจ อย่าปล่อยให้ชีวิตล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย เพราะคุณค่าของชีวิตยังมีหลายสิ่งอีกมากมายที่รอให้เป็นส่วนหนึ่งของความสมหวังและความสุข ขอเพียงเราเชื่อมั่นและกล้าเปิดใจต้อนรับมัน
จงใช้ชีวิตให้เป็นดั่งเช่นดอกทานตะวัน เลือกที่จะอยู่อย่างเบิกบานคู่กับแสงตะวันอยู่เสมอ ยามสิ้นแสงตะวันและค่ำคืนมาเยือน ดอกทานตะวันก็พักผ่อนไปกับดวงตะวันที่หยุดพักการส่องแสงชั่วคราวเช่นกัน เมื่อรุ่งอรุณแห่งวันใหม่พร้อมเสียงไก่ขัน ดอกทานตะวันก็ต้อนรับแสงตะวันด้วยความรัก ความเบิกบาน และความเข้าอกเข้าใจต่อกันเหมือนทุกวันเช่นเคย
ดอกทานตะวันพยายามบอกเราว่า แม้จะมีความผิดพลาดและประสบกับเรื่องราวที่ทำให้เสียใจ แต่ชีวิตก็สามารถเริ่มต้นใหม่และมีทางออกเสมอ แม้บางครั้งชีวิตจะอับจนต่อหนทางเพียงใด แสงสว่างแห่งดวงตะวันก็จะคอยส่องทางให้เราพบกับทางออกอย่างแน่นอน
หลายๆครั้งในชีวิตของเรา อาจถูกผู้คนไม่แยแส ถูกเหยียบย่ำและดูหมิ่นดูแคลน ทำให้เรารู้สึกว่าคุณค่าของตัวเราลดน้อยลง แต่ขอให้มั่นใจเถิดว่า ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ได้เกิดขึ้นในชีวิตของเราหรืออะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เราไม่เคยสูญเสียคุณค่าของตัวเราแม้แต่น้อย เราคือคนพิเศษ อย่าลืมคุณค่าของตัวเองในข้อนี้ไปจนตลอดชีวิต
ชีวิตนี้ยังคงเปี่ยมด้วยคุณค่า มีความหมาย และมีทางออกเสมอ ตราบใดที่บนโลกใบนี้ยังคงมีทิศตะวันออก
จงอย่านำเอาความผิดหวังของเมื่อวาน มาบดบังความฝันอันสวยงามของเราในวันพรุ่งนี้
จงลุกขึ้นแล้วสลัดความทุกข์ทั้งมวลออกไปจากหัวใจ ยิ้มน้อยๆในดวงใจ แล้วมอบรอยยิ้มออกไป
เมื่อหัวใจของเรามีความสวยงามขณะใด โลกใบนี้ก็จะสดใสและสวยงามตามหัวใจและรอยยิ้มของเราเสมอ
ดาบสนิรนาม
๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗