วิสาขบูชา
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
วิสาขบูชา
การอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากกว่าจะมีผู้มีสั่งสมบุญญาภินิหารบำเพ็ญบารมีจนถึงขั้นจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าได้แต่ละครั้งแต่ละพระองค์นั้น เป็นสิ่งที่ยากยิ่งนัก แม้แต่พระพุทธเจ้าที่เป็นปัญญาธิกะอย่างพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันนี้ ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าประเภทที่ยิ่งด้วยปัญญา สร้างบารมีอย่างเร็วที่สุด ก็ยังต้องใช้เวลาถึง ๔ อสงไขย แสนกัป พระบารมีจึงเต็มเปี่ยมได้
การอุบัติขึ้นของบุคคลที่หาได้ยากยิ่งนักในโลก ย่อมมีความมหัศจรรย์ผิดมนุษย์สามัญธรรมดา การที่วันที่ทรงประสูติ วันที่ทรงตรัสรู้ และวันที่ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ได้ตรงกับวันเพ็ญเดือน ๖ เหมือนกันทั้งสามวัน จึงนับว่าเป็นสิ่งที่อัศจรรย์ ที่มีแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ได้ ซึ่งในประวัติศาสตร์แห่งมนุษยชาติก็มีแต่พระองค์เท่านั้นเพียงพระองค์เดียวจวบถึงปัจจุบัน
การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า เป็นการเกิดขึ้นของแสงสว่างแห่งปัญญา ที่โลกถูกปกคลุมด้วยอวิชชาอย่างมืดมิด ดุจดังการเกิดขึ้นของดวงอาทิตย์ที่นำแสงสว่างและความอบอุ่นมาสู่โลก
ความมืดมิดด้วยโมหะและอวิชชา ที่ท่วมทับหัวใจของเหล่าสรรพสัตว์มาเป็นเวลานาน ไม่มีผู้ใดสามารถล่วงรู้ได้เลยว่า หนทางที่จะหลุดพ้นออกไปจากคุกอันยิ่งใหญ่คือวัฏฏสงสารนี้จะเดินไปทางใด จนกระทั่งพระองค์ได้ตรัสรู้อริยสัจสี่ จึงได้ประกาศเส้นทางอันประเสริฐคืออริยมรรค แล้วแจกแจงแสดงธรรมโปรดไนยสัตว์ จึงทำให้มีผู้สามารถหลุดรอดออกจากคุกอันยิ่งใหญ่ ได้รับอิสรภาพทางจิตใจ พบกับแสงสว่างในชีวิตจำนวนมากมาย ต่อเนื่องกันมาไม่ขาดสาย จนบัดนี้เป็นเวลาถึง ๒,๖๐๐ ปีแล้ว
พระธรรมอันประเสริฐของพระองค์ ได้ช่วยเยียวยารักษาจิตใจของมวลมนุษยชาติ จากหัวใจที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก ได้คลายจากความเศร้าโศก จากหัวใจที่มีแต่ความทุกข์ ความพิรี้พิไรรำพัน ได้คลายจากความพิรี้พิไรรำพัน จากหัวใจที่เต็มไปด้วยความคับแค้น ได้คลายจากความอึดอัดคับแค้น พระธรรมของพระองค์ได้ช่วยปลอบประโลมและช่วยเยียวยารักษาหัวใจของมนุษยชาติได้อย่างอัศจรรย์
หากไม่มีพระองค์อุบัติมาสู่โลกนี้แล้วตรัสรู้ สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเทวดา จะไม่สติปัญญาพอที่จะรู้ได้เลยว่า "สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง" จะไม่มีทางเข้าใจได้เลยว่า "สรรพสิ่งในโลกนี้หรือโลกไหน ล้วนไม่มีความเป็นตัวตนที่แท้จริง สรรพสิ่งล้วนเป็นสิ่งที่จิตดวงนี้ไม่ควรเข้าไปยึดมั่นถือมั่นทั้งสิ้น" พระธรรมอันลุ่มลึกและอัศจรรย์เช่นนี้ ย่อมมีแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นจึงจะตรัสรู้แล้วสามารถนำมาแจกแจงแสดงเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ให้รู้เห็นตามได้ในภายหลัง พระองค์จึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อสัตว์โลกทั้งปวงที่ไม่มีใครเสมอเหมือนได้เลย
สิ่งที่เราจะพึงถือเอาสาระจากวันวิสาขบูชา นอกจากการระลึกถึงว่าวันนี้เป็นวันที่พระองค์ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ตามที่เรามักพูดกันจนติดปากและชินหู เราพึงยกจิตของเราให้สูงขึ้นตามรอยพระบรมครูของโลกด้วยการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนาให้ยิ่งขึ้น ความทุกข์ ความติดข้อง ความหมองมัว แม้จะมีมากมายเพียงใด จงดำรงสติตั้งมั่นไว้ พร้อมทั้งเข้าใจและปล่อยวางให้ทุกสิ่งเกิดและดับโดยตัวมันเอง
อย่าปล่อยใจของเราให้จมอยู่กับความหม่นหมอง จงมีศรัทธาว่าสักวันหนึ่งท้องฟ้าอันเป็นสีทอง จะมาเยือนชีวิตของเราเป็นแน่ แม้จะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าสักเพียงใดก็ขอจงอย่าท้อแท้ จงกล้าเผชิญต่อความผันแปร ไม่มีการคุกเข่ายอมพ่ายแพ้ต่ออุปสรรคขวากหนามใดๆ
จงน้อมใจเอาพระบารมีของพระพุทธองค์ปกเกล้าเข้าคุ้มครอง ยามหม่นหมองหรืออ่อนแอ จงมีศรัทธาต่อพระพุทธองค์และคุณธรรมความดีไว้เสมอ หากวันนี้จำต้องพลั้งพลาดล้มลง ก็ของจงเข้มแข็งลุกขึ้นมาใหม่ แล้วแข็งใจก้าวเดินต่อไป ในที่สุดความสำเร็จและความภาคภูมิใจย่อมเข้ามาสู่ชีวิตของเรา
จงน้อมเอาวันวิสาขบูชาในปีนี้ เป็นปีแห่งความกล้าหาญและบากบั่นในการสร้างความดีและบุญบารมีให้ยิ่งขึ้น อย่าให้สิ่งใดหรือบุคคลใดมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินบนหนทางแห่งความดีของเราได้ หากวันนี้ยังมีขวากหนามยากที่จะก้าวเดินไป ก็จงเข้มแข็งหยุดยืนเพื่อรวบรวมกำลังใจสักครู่ เพื่อก้าวต่อไปที่มั่นคงกว่าเดิม
วิสาขบูชามิใช่เพียงวันที่ให้เราจำได้ว่าเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานเท่านั้น แต่วิสาขบูชาคือวันที่เราจะกล้าแกร่งและเข้มแข็งในการทำความดีและสร้างบุญบารมีให้สูงส่งยิ่งขึ้น วิสาขบูชาคือวันที่เราจะสลัดทิ้งเสียซึ่งทุกข์ตรมและความเศร้าหมองทั้งปวง แล้วมีชีวิตใหม่ด้วยความเป็นผู้มีสติและปัญญา
คลื่นมรสุมที่ถาโถมเข้ามาสู่ชีวิตแม้จะมีกี่ระลอก แต่นาวาชีวิตของเราลำนี้ของเราก็ฝ่ามรสุมเหล่านั้นมาได้เสมอทุกครั้ง มรสุมลูกนี้ที่กำลังมาเยือน เราก็จะผ่านได้เช่นทุกครั้งไป จงมีสติตั้งมั่นไว้ เดี๋ยวไม่นาน คลื่นลมก็สงบลง แล้วเราก็จะได้สัมผัสกับท้องฟ้าหลังฝนและหลังพายุ ที่งามจับตายิ่งกว่ายามใด
วิสาขบูชาคือวันที่พระองค์ตรัสรู้และชนะหมู่มารคือสรรพกิเลสทั้งปวง วันนี้จะเป็นวันที่ดวงใจของเราได้เกิดใหม่พบกับความสดใส อันเป็นดวงใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความหวังและกำลังใจ เพราะสามารถเอาชนะใจของตนเองได้และชนะต่ออุปสรรคขวากหนามทั้งปวง
พระพุทธองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้ชนะสรรพกิเลสจนดวงพระหฤทัยผ่องแผ้วปราศจากธุลีคือความเศร้าหมองใดๆไปก่อนพวกเราแล้ว ขอให้พวกเราได้น้อมจิตน้อมใจเอาความบริสุทธิ์และพระเมตตากรุณาของพระองค์ให้มาสถิตอยู่ในดวงใจของเรา
แล้วเราจะเดินตามรอยพระพุทธองค์ไปด้วยการเจริญสติสมาธิภาวนา จนกว่าจิตดวงนี้จะเต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งสติและปัญญา เข้าถึงความสะอาด สว่าง สงบ ไม่มีความทุกข์ความเศร้าหมองใดมาแผ้วพานอีกเลยตลอดสาย
นี้คือสาระแห่งวันวิสาขบูชา ที่เราทั้งหลายได้พากันมาแสดงออกซึ่งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงขออนุโมทนามา ณ ที่นี้ โดยทั่วกัน
คุรุอตีศะ
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗