จงเห็นอกเห็นใจกัน
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
จงเห็นอกเห็นใจกัน
ในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราจงหันหน้าเข้ามาคุยกันและเห็นอกเห็นใจให้มากขึ้นดีกว่า การโกรธแค้นอาฆาตพยาบาทชิงชัง นอกจากจะนำมาซึ่งความทุกข์ระทมของทั้งสองฝ่ายแล้ว ยังทำให้หัวใจที่เคยดีงามและเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาที่มีมาแต่เดิมของเรา ต้องพลอยเสื่อมโทรมและจมอยู่กับความซึมเศร้า ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งแก่ตัวเองและคนอื่นแม้แต่น้อย
เราจงพากันเริ่มตั้งสติทบทวนการกระทำของตัวเองเสียแต่วันนี้ อย่าให้ความผิดพลาดที่เคยมีต้องถลำลึกมากไปกว่านี้ จงสละเสียซึ่งทิฐิมานะที่เคยมี โดยยอมรับความจริงเสียแต่วันนี้ว่าเราทุกคนต่างมีโอกาสที่จะผิดพลาดกันได้เสมอ ไม่มีใครถูกอยู่ฝ่ายเดียว และในขณะเดียวกัน ก็ไม่มีใครผิดอยู่ฝ่ายเดียวเช่นกัน ด้วยความคิดที่ตั้งไว้บนพื้นฐานแห่งเมตตาจิตอย่างนี้เท่านั้น ความเห็นอกเห็นใจกันจึงจะตามมา
ผู้ที่เป็นสามี จงเห็นอกเห็นใจต่อภรรยา ที่เธอต้องมาตกระกำลำบาก ต้องพลอยทุกข์พลอยสุขกับเราไปกับเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆไม่เคยเว้นแต่ละวัน ทั้งที่แต่ก่อนตอนที่เธอยังอยู่กับพ่อแม่ญาติพี่น้อง ยังไม่ได้มาอยู่กับตัวเรานั้น เธอมีความสุขสะดวกสบายไม่ต้องมีสิ่งใดอนาทรร้อนใจขนาดเท่าทุกวันนี้ จากแต่ก่อนเธอรูปร่างหน้าตาสดใสสวยงามเหมือนนางฟ้า พอมาอยู่กับเรา ความทุกข์ระทมทำให้เธอไม่สามารถสดใสและสดสวยเหมือนเดิมได้ และบางวันความทุกข์อกยุ่งใจ ก็บีบคั้นให้เธอต้องกลายร่างจากนางฟ้ากลายเป็นนางยักษิณี เพราะฉะนั้น เราต้องมีเมตตาสงสารและเห็นอกเห็นใจเธอให้มากกว่าเดิม
ผู้ที่เป็นภรรยาก็จงมีความเห็นอกเห็นใจต่อสามีของเรา จากแต่ก่อนเขาเป็นหนุ่มน้อยมีชีวิตอิสรเสรีไม่เคยรู้จักความรับผิดชอบอันใด แต่ตัวเรานี้ได้ใช้เวทมนต์คือความสวยและความสาวมัดหัวใจเขาจนสำเร็จ แล้วจับเขามาขังไว้ในคุกอันประดับประดาด้วยความสวยงามในนามว่า "ครอบครัว" จนกระทั่งทุกวันนี้ จากคนที่ทระนงองอาจและใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรีไม่เคยสยบต่อสตรีนางใด แต่สุดท้ายก็มาจำนนต่อเราจนได้ แล้วยังยินดีรับใช้เราในฐานะเจ้าบ่าวด้วยความเต็มใจอีกด้วย จะหาสตรีใดในโลกหล้าโชคดีเกินกว่าตัวเราเป็นไม่มีอีกแล้ว ดังนั้น แม้เขาจะเป็นนักโทษที่เกเรหรือพยายามจะแหกคุกบ้างก็จงเห็นใจว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะถึงอย่างไรเขาก็ยังยอมรับว่าเราผู้คุมผู้ยิ่งใหญ่และเขายังมีความจงรักภักดีต่อเราเสมอ
ผู้ที่มีอำนาจเป็นใหญ่หรืออยู่เบื้องบน ขอจงเห็นอกเห็นใจประชาชนผู้มีความทุกข์ยาก การที่เขาแข็งข้อหรือกระด้างกระเดื่องไม่ยอมสยบอยู่ภายใต้อำนาจของเราเหมือนเมื่อก่อน อาจจะไม่ใช่เพราะเขาต้องการเป็นใหญ่อย่างที่เราเข้าใจไปฝ่ายเดียวก็ได้ แต่อาจเกิดจากการถูกเอาเอารัดเอาเปรียบ ถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของความมนุษย์และประสบต่อความอยุติธรรมมากเกินไป ดังนั้น จงเพ่งมองให้เห็นความคับแค้นในหัวใจของผู้อยู่ใต้ปกครองและดำเนินการทุกอย่างตามทำนองคลองธรรม และประกอบด้วยเมตตาธรรมไว้เสมอ ความเมตตาและความสุจริตใจหวังดีต่อเพื่อนมนุษย์ จะคุ้มครองเราไม่ให้ใช้อำนาจไปในทางที่ผิดพลาดและต้องเสียใจในภายหลัง
ในส่วนของผู้อยู่ใต้การปกครองหรือประชาชนผู้อยู่ในระดับรากหญ้า ก็จงทำอะไรด้วยความมีสติและมีความยับยั้งชั่งใจไว้เสมอ อย่าทำอะไรด้วยความเคียดแค้นชิงชังไปฝ่ายเดียว จะยิ่งฉุดตัวเราให้ตกต่ำมากขึ้น จงมีความเห็นอกเห็นใจผู้ที่ท่านอยู่ในฐานะมีเกียติหรืออยู่เบื้องบน ว่าจะให้ท่านที่เคยอยู่ในข้างบนมาอยู่ในสภาพเดียวกับฐานะของตนนั้น ย่อมเป็นความระทมขมขื่นยากที่คนรากหญ้าจะเข้าใจนัก
เพียงแค่การลาออกจากราชการอันมีเกียรติแล้วออกบวชเป็นพระธุดงค์อย่างเต็มใจ ยังต้องพบกับความขมขื่นและความบีบคั้นมากมายกว่าพระ ป.๔ที่บวชจากชาวบ้านธรรมดาหลายเท่า ซึ่งชาวบ้านทั่วไปจะไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกนี้
ในทำนองเดียวกัน คนจนทั้งหลายจะไม่มีวันเข้าใจความทุกข์ของคนรวยหรือคนที่มีฐานะอันสูงส่งแล้วตกต่ำลงมา ว่ามีความทุกข์และต้องเผชิญต่อความบีบคั้นของหัวใจสาหัสเพียงใด ดังนั้น คนจนหรือคนรากหญ้าหากเข้าใจได้อย่างนี้ จะมีความเมตตาและเกิดความเห็นอกเห็นใจคนร่ำรวยและคนที่อยู่ในฐานะอันสูงส่งในสังคมได้
คนทั้งหลายมักเข้าใจว่ามีแต่ตัวเองเท่านั้นที่ได้รับความอยุติธรรมและถูกเบียดเบียน แต่ในประวัติศาสตร์ของโลก คนที่เคยรู้สึกว่าตนถูกเบียดเบียนกลั่นแกล้งหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม เมื่อต่อสู้และแย่งชิงได้อำนาจมา คนจำพวกนั้นกลับเบียดเบียนและมีความอยุติธรรมต่อคนที่ตนเองปกครองหนักกว่าคนกลุ่มเดิมด้วยซ้ำ เพราะจิตใจถูกบ่มเพาะสะสมไว้แต่ความเกลียดชังตลอดมา ดังนั้น พวกเราทั้งหลาย จึงต้องทำอะไรบนพื้นฐานแห่งเมตตาธรรมและยึดคำสอนของพระพุทธองค์ไว้เสมอ ทั้งผู้ปกครองและผู้อยู่ใต้ปกครองจึงจะเคารพนับถือกันด้วยความจริงใจและอยู่ร่วมกันด้วยความร่มเย็นเป็นสุข
คนรวยจงเห็นอกเห็นใจคนจน อย่าดูหมิ่นเหยียดหยามคนจนว่าเขามีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ไม่เท่าเทียมกับตน เพราะเมื่อวันใดบุญกุศลที่ทำไว้แต่อดีตของเราหมด เราก็อาจทำมาค้าขายไม่ได้ผลกำไรเหมือนเมื่อก่อนและมีฐานะตกต่ำลงมาได้ เราร่ำรวยนั้นดีแล้ว แต่เราจะไม่ดูถูกใคร จงทำไว้ในใจอยู่เสมอว่า คนที่เขายากจนต่ำต้อยในวันนี้ เขาอาจเฟื่องฟูร่ำรวยขึ้นมาในวันหนึ่งก็ได้ เราจะไม่ประมาทใครเป็นอันขาด แม้เราสุขสบายทุกวันนี้ เราก็จะไม่ประมาทในชีวิต จะหมั่นสร้างกุศลและต่อบุญไว้เสมอ ใครดำรงชีวิตด้วยความเป็นผู้มีสติปัญญาเช่นนี้ จะดำรงฐานะและความสุขของตนไว้ได้มั่นคงไปจนตลอด
แม้คนจนก็สามารถดำรงจิตของตนที่จะเกิดความเห็นอกเห็นใจคนรวยกว่าตนก็ได้ แทนที่จะปล่อยใจเอาแต่นึกอิจฉาริษยาคนรวยหรือคนมีเกียรติมีฐานะที่สูงกว่าตน อันเป็นการสร้างอกุศลจิตอย่างเดียวซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไร แทนที่จะเอาแต่รำพึงรำพันน้อยอกน้อยใจในโชคชะตา จงหันมาสวดมนต์ยังจะเป็นการเพิ่มบารมีมากกว่า และหากสติเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและความสงบใจเกิดขึ้นมา โชคดีทั้งหลายที่เคยหายหน้า จะได้ถึงเวลามาเยี่ยมเยียนชีวิตของเราเสียที
จงมีความเห็นอกเห็นใจคนรวย ที่เขาก็มีความทุกข์ต่อการระวังรักษาสมบัติไม่เป็นอันกินอันนอนยิ่งกว่าเราผู้มีทีวีเพียงเครื่องเดียว จะเปลี่ยนเครื่องรับทีวีจากระบบอะนาล็อกไปเป็นระบบดิจิตอล ตามที่เขากำลังฮือฮากัน ก็ยังทำไม่ได้จนบัดนี้ เพราะอย่าว่าแต่เครื่องรับทีวี เพียงแต่เงินค่าเทอมของลูกในเทอมหน้านี้ ก็ยังมองไม่เห็นหรือนึกไม่ออกว่า ยังมีอะไรที่จะพอนำไปโรงรับจำนำได้บ้าง
คนรวยเขานอนไม่หลับและเป็นทุกข์ว่าจะบริหารจัดการทรัพย์สินอันมากมายให้ลงตัวได้อย่างไร แต่เรานอนไม่หลับเพราะนึกไม่ออกว่าพรุ่งนี้จะจำนำอะไร ดังนั้น เราจึงต่างเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน
อย่าคิดว่าในโลกนี้มีแต่เรามีความทุกข์อยู่คนเดียว ยังมีผู้ประสบความสูญเสียและพบกับโศกนาฏกรรมอันหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าตัวเราอยู่แทบทุกมุมโลก ดังนั้น จงคลายจากความทุกข์และความโศกแล้วมารู้จักภาวนารักษาเยียวยาจิตใจของเราในแต่ละวันให้มากขึ้น
เราอาจยากจนและไม่เท่าเทียมคนอื่นสำหรับวัตถุในภายนอก แต่เราจะไม่จนใจและยากจนความดีงามในหัวใจของเราเป็นอันขาด
ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในท่ามกลางมรสุมของชีวิตสักเพียงใด แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่เคยเหือดหายไปจากดวงใจ สิ่งนั้นก็คือเมตตาธรรมและความเห็นอกเห็นใจ ที่เราจะมีให้แก่เพื่อนมนุษย์อยู่เสมอ
คุรุอตีศะ
๒๑ เมษายน ๒๕๕๗