ความสุขของวันนี้

ความสุขของวันนี้

 

                ในท่ามกลางความร้อนระอุของเดือนเมษายน  ก็ยังมีวันฝนตกลงมาให้ความชุ่มฉ่ำ  ชีวิตจะประสบปัญหามากมายสักเพียงใด  ก็ย่อมมีวันที่สดใสร่มเย็นมาเยือน

 

                วันที่มีฝนตก ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงฤดูฝนเสมอไป  ความสุขในชีวิต ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันที่บางอย่างสำเร็จตามความมุ่งหมาย    ในท่ามกลางมรสุมและขวากหนามอันมากมาย  เราย่อมหาความสุขได้ในแต่ละก้าวของสองเท้าที่ก้าวเดิน

 

                ทำไมจะต้องรอความสุขเมื่อมีผู้คนมากหน้าหลายตามาช่วยเหลือเกื้อหนุน  เมื่อเรายังมีมือเท้าและพลังใจของตนเองเป็นต้นทุน  ความสุขความอบอุ่นจึงไม่ขึ้นกับว่าจะมีคนมาคอยแวดล้อมและเข้าใจ

 

                ทำไมจะต้องรอให้มีเพื่อนจึงจะมีความสุข  เราสามารถมีความสุขกับการได้อยู่เป็นเพื่อนกับคนมีความทุกข์และคอยช่วยเหลือเขาก็ได้  ความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะได้อะไร  แต่ขึ้นอยู่กับน้ำใจที่เรามอบให้ใครได้หรือไม่ท่ามกลางความแห้งแล้งแห่งมิตรไมตรี

 

               เราพบกับความสุขในวันนี้  แม้เป็นวันที่ไม่มีใครอยู่เคียงข้าง  เพราะอย่างน้อยก็ยังมีหิ่งห้อยตัวน้อยๆคอยส่องแสงเป็นเพื่อนอยู่ข้างทาง  ในอ่างน้ำก็ยังมีเสียงเขียดน้อยส่งเสียงขอบคุณที่มีอ่างเก่าๆไว้ให้เขาได้พักพิง

 

               ทำไมจะต้องมีกิจกรรมมากมายจึงจะมีความสุข  ความรื่นเริงย่อมเกิดได้แม้ในยามมองปลาที่แหวกว่ายในสระน้ำ      ผู้คนมากมายผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป แต่กบเขียดและฝูงปลาทั้งหลายไม่เคยจากเราไปไหนแม้แต่วันเดียว

 

                มีผู้คนไถ่ถามหาความเจริญ  ฉันก็ยังแปลกใจว่าทุกวันนี้ไม่มีความเจริญที่ตรงไหน  ต้นตะเคียนทองที่แต่ก่อนสูงเพียงเข่าต้องรดน้ำแทบทุกวัน  บัดนี้สูงตระหง่านเท่าต้นยางต้องแหงนคอตั้งบ่าเมื่อมองหายอดของมัน

 

                 มีผู้คนบอกว่าสถานที่นี้ช่างมีแต่ปัญหาวุ่นวายนัก   สำหรับฉันแล้วปัญหาและความวุ่นวายมีน้อยกว่าเมื่อก่อนหลายสิบเท่า   จากแต่ก่อนวันๆเอาแต่คอยห้ามปรามคนทะเลาะกัน  แต่ทุกวันนี้นั้น ได้มีโอกาสปลอบใจผู้คนเกินกว่าร้อยคนทุกวัน  แล้วจะว่าสถานที่แห่งนี้นั้นวุ่นวายได้อย่างไร

 

                ทำไมจะต้องรอวันให้ปัญหาทุกอย่างหมดสิ้นไปเสียก่อน  เพราะปัญหาทั้งปวงเหล่านั้นนั่นเองที่ช่วยหล่อหลอมให้เข้มแข็งในวันนี้ได้   หากไม่มีเขาเหล่านั้นมาเป็นบททดสอบอันสำคัญทางจิตใจ  เราคงไม่เกิดแรงบันดาลใจอันมากมายที่อยากช่วยเหลือเกื้อกูลผู้คน

 

                มรสุมของชีวิตอันมากมายที่เผชิญมาตั้งแต่เด็ก  ทำให้หัวใจดวงนี้แกร่งเหมือนเพชรที่ใครไม่สามารถทำลายได้   ทำให้มองเห็นความทุกข์ของผู้คนทั้งหญิงชาย  ซึ่งหากชีวิตเต็มไปด้วยความสบาย  จะไม่เกิดจิตสำนึกห่วงใยผู้คนที่กว้างไกลมากกว่าครอบครัวของตัวเอง

 

                  ขอขอบคุณความทุกข์ยากที่ผ่านมาในชีวิต  ที่ช่วยลิขิตให้ผ่านพ้นความรักอันจอมปลอมทั้งปวงได้  ความยากจนและความที่ไม่มีอะไร  ทำให้พบแต่คนที่จริงใจและมีความห่วงใยอย่างแท้จริง

 

                   ขอบคุณที่วันนี้ยังมีลมหายใจอยู่   ขอบคุณที่หัวใจยังมีกำลังในการต่อสู้ต่ออุปสรรคต่างๆ  ขอบคุณทุกชีวิตที่พานพบตลอดแห่งเส้นทาง  ทุกชีวิตที่ได้เกี่ยวข้องทั้งสิ้นล้วนมีส่วนช่วยหล่อหลอมให้มีวันนี้

 

                   ขอให้ทุกดวงใจทุกชีวิตที่ได้ทักทายกันบนตัวอักษร  แม้ท่านทั้งหลายจะอยู่แห่งใดบนโลกใบนี้  ขอจงได้รับเอาความปรารถนาดีและขอให้มีกำลังใจในชีวิตไว้เสมอ

 

                      ผู้ที่เริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่  จงกล้าหาญและมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ดวงใจของเราปรารถนาต่อไป  ดุจเดียวกับตะเคียนทองต้นสูงใหญ่  ที่แต่ก่อนมีเพียงต้นและใบสูงเพียงหัวเข่าเท่านั้นเอง

 

                     ผู้ที่มีการเดินทางของชีวิตมาครึ่งทางแล้ว  จงพายเรือและคัดหางเสือเรือลำน้อยของเรามุ่งตรงไปข้างหน้า   อย่าหวั่นไหววอกแวกต่อคลื่นลมและพายุที่พัดผ่านมา  จงมีสติอันมั่นคงเฉพาะหน้า แล้วตั้งหน้าตั้งตาพายเรือไปสู่จุดหมายอันอีกไม่ไกล

 

                      ผู้ที่เรือชีวิตผ่านมรสุมมามากมายใกล้จะถึงฝั่ง  ขอจงมีความระมัดระวังสันดอนและหินโสโครกที่อาจมีอยู่ในน้ำตื้น  ความบากบั่นพากเพียรที่บำเพ็ญมาตลอดวันตลอดคืน  คือปริญญาชีวิตที่จะนำพาเราไปสู่ความรู้แจ้งที่ รู้ ตื่น และเบิกบาน

 

                     ขอให้เราทั้งหลายจงมีความสุขกันในวันนี้  อย่าปล่อยให้หัวใจของเราเอาแต่รอความสุขในวันข้างหน้า   ความสุขย่อมมีอยู่ ณ ขณะนี้ตลอดเวลา  เพียงหยุดการสอดส่ายสายตาแล้วมองเข้ามาด้านใน

 

                    ครอบครัวของเราทุกวันนี้มีความสุขแล้ว   อย่าไปรอว่าจะต้องรวยเสียก่อนหรือยิ่งใหญ่เสียก่อนจึงจะมีความสุขได้   อย่าไปรอให้ปัญหาทุกอย่างเมื่อไรจะหมดไป  แต่จงมีความสุขท่ามกลางปัญหาต่างๆได้  นั่นแหละคือยอดคน

 

                    สามีของเราอาจไม่ร่ำรวยหรือยิ่งใหญ่เท่าคนอื่น  แต่เขาก็ทำทุกอย่างเต็มความสามารถและให้ความสุขความอบอุ่นใจแก่เราได้  ภรรยาของเราอาจทำกับข้าวไม่เก่งเหมือนแม่ครัวตามร้านอาหารทั่วไป แต่เพียงเธอหัดมาทำอาหารให้เรารับประทานได้ ก็นับว่าเป็นความรักและภักดีที่หาได้ยากและน่าภาคภูมิใจยิ่งแล้ว  ทั้งๆที่ตลอดชีวิตในวัยสาวตอนอยู่กับพ่อแม่ เธอไม่เคยเหลือบมองตะหลิวหรือทัพพีแม้แต่วันเดียว

 

                    ลูกของเราอาจเกเรหรือเรียนไม่เก่งอย่างที่เราคาดหวัง  แต่เขาก็ยังมีความสามารถอย่างอื่นที่ไม่ใช่การเรียนหนังสือที่เราภูมิใจได้   หากจะมองไม่เห็นความดีสักน้อยแม้ว่าจะมองหาอย่างไร  ก็ขอจงภูมิใจว่าอย่างน้อยเขาก็ยังมาเกิดเป็นลูกของเรา ไม่ยอมไปเกิดเป็นลูกของใคร  ช่างเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจมิใช่น้อย

 

                    ความสุขของวันนี้  มีให้เราชื่นชมอยู่เสมอ  ขอเพียงเราไม่เอาความสุขไปขึ้นอยู่กับวันที่ยังไม่มาถึง  ข้าวก็ยังพอมีกิน  แผ่นดินก็ยังมีให้เดิน  แดดก็ยังพอมีส่อง  แล้วโลกและชีวิตของเราในวันนี้ จะไม่มีความสุขได้อย่างไร

 

 

                                                                            คุรุอตีศะ

                                                                   ๖  เมษายน  ๒๕๕๗