ความเป็นคนจริง

ความเป็นคนจริง

 


                        กรวดย่อมอยู่กับกรวด  ทรายย่อมอยู่กับทราย  โคลนตมทั้งหลายย่อมอยู่กับโคลนตมด้วยกัน   ธรรมชาติย่อมจัดสรรทุกสิ่งให้เป็นไปตามความโน้มเอียงหรือตามแรงดึงดูดของสิ่งที่เป็นประเภทเดียวกัน


                        มนุษย์ที่ทำอะไรจริง ก็ย่อมได้พบกับมนุษย์คนจริงด้วยกัน  คนที่เคยอุทิศตนทุ่มเทในชีวิตตลอดมานั้น  สักวันก็ต้องได้พบกับแก่นแท้ของชีวิตและพบกับเพื่อนแท้หรือรักแท้ในวันหนึ่ง


                      คนที่ฉลาดในการเอาตัวเองรอด ไม่เคยทุ่มเทร่วมทุกข์ร่วมสุขอย่างแท้จริง  แม้จะได้อยู่ใกล้บัณฑิตและเต็มไปด้วยความจริงใจมาก่อน  สักวันหนึ่งกรรมจะมาตัดรอน ผลักดันให้เขาเห็นผิดเป็นชอบ ให้หลงผิดหันเหออกจากผู้คนที่มอบความจริงใจให้ตลอดมานั้น  ไปอยู่กับคนที่แสวงหาประโยชน์จากตัวเองแล้วเกิดความผิดหวังเข้าจนได้  อันเป็นผลจากวิบากกรรมที่ตนไม่มีความจริงใจต่อผู้ที่จริงใจและบริสุทธิ์ใจต่อตัวเอง


                       โลกนี้ย่อมมีความยุติธรรมเสมอ  คนที่มีความบริสุทธิ์และความจริงใจ จะมีอานุภาพในตัวเองประการหนึ่งซึ่งคนทั่วไปไม่รู้  นั่นคือ จะมีเทพเจ้าอภิบาลรักษา ในการช่วยคัดกรองผู้คนอันหลากหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต


                      อานุภาพแห่งความบริสุทธิ์ใจ ต่อมาก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งทำให้คนที่ไม่บริสุทธิ์และจริงใจได้เผยธาตุแท้ของเขาปรากฏออกมาจนได้  แล้วข้าวลีบก็ลอยขึ้นมาเหนือน้ำเพื่อจะได้เททิ้งไป  โดยผู้ที่มีความบริสุทธิ์และจริงใจนั้นไม่ต้องมีเจตนาเพื่อจะคัดกรองบุคคลใดออกไปจากชีวิตแม้แต่น้อย


                      ผู้ที่มีความบริสุทธิ์และจริงใจต่อเพื่อนมนุษย์  จึงไม่ควรสะดุดต่อการทำความดี เพียงแค่การได้รับความไม่จริงใจจากใครบางคน  แต่จงภาคภูมิใจที่เราได้มอบกุศลจิตและหัวใจที่ดีงามให้แก่เขาตลอดระยะเวลาที่ได้พบปะหรือมีความสัมพันธ์ต่อกัน


                    จงภูมิใจที่เราทุ่มเทและจริงใจ  ไม่ปล่อยให้อกุศลครอบงำจิตใจ จนกระทั่งต้องพลั้งเผลอไปใช้ความไม่จริงใจหรือมายาเสแสร้งเหมือนใครอื่น อันเป็นการก่อเวรกรรมติดตัวต่อไปในวันข้างหน้า   จงภูมิใจที่เราปลอดภัยจากบาปกรรรมและรักษาความบริสุทธิ์ใจไว้ได้


                    จงภูมิใจว่าเราเป็นภรรยาที่ทุ่มเทและไว้วางใจในครอบครัวมาตลอด การมอบความจริงใจและทุ่มเทหัวใจอย่างเต็มที่ว่าเขาผู้นี้คือสามีของเรา  เราจึงไว้วางใจเขาในการที่จะกล้าแสดงออกซึ่งอารมณ์และความรู้สึกต่างๆ


                    กล้าที่จะบ่นจะว่าในสิ่งที่ไม่ถูกอกถูกใจของเรา  กล้าที่จะแสดงความตระหนี่ถี่เหนียวตามนิสัยที่แท้จริงของเราที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด เพื่อที่เขาจะได้อบรมสั่งสอนเราให้เราเป็นคนใจกว้างขึ้น  รู้จักที่จะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้มากขึ้น หรือเพื่อให้เขาช่วยดัดนิสัยที่เอาแต่ใจของเราหรือคิดเอาแต่ได้ ซึ่งเราเองก็ไม่ค่อยรู้ตัวว่ามีนิสัยเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้เราจึงได้มอบความไว้วางใจและแสดงความรู้สึกอันแท้จริงออกมา


                  จงภูมิใจว่าเป็นสามีที่ทุ่มเทพละกำลังทุกอย่างมาแต่ต้น เพื่อสร้างรังรักน้อยๆ ตั้งแต่วันที่พ่อนกและแม่นกช่วยกันคาบหญ้าด้วยจะงอยปากมาทีละเส้น  จากที่วันแรกนั้นยังไม่มีอะไร จนบัดนี้ได้มีรังน้อยอันอบอุ่นตามอัตภาพ หากจะมีเสียงคำพูดที่ดูหมิ่นว่าเราเป็นพ่อบ้านไม่ค่อยทันสมัย ไม่ทันสังคมหรือไม่มีมนุษยสัมพันธ์ เพราะตลอดหลายปีมานั้น มัวแต่มุ่งมั่นทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัว เราก็ยินดีให้คนเขาดูหมิ่นได้ว่าเป็นคนไม่มีเพื่อนฝูง  หรือหากภรรยาจะหวั่นไหวไปกับคำของชาวบ้าน  เราก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ  เพราะเวลาในชีวิตทั้งหมดเราแทบไม่ได้มีให้แก่ใคร  ความบริสุทธิ์และความจริงใจเช่นนี้ย่อมคือปริญญาชีวิตของเรา


                  คนจริงย่อมได้พบกับคนจริง  กรวดย่อมอยู่กับกรวดเป็นหมวดหมู่  ทรายย่อมอยู่รวมกันในกองทราย  โคลนตมทั้งหลายก็ย่อมอยู่กับโคลนตมด้วยกัน

 

                 หากมีความจริงใจ  แม้บางครั้งเราอาจจะทำในเรื่องที่ช่างดูโง่เขลาหรืองี่เง่า  แต่ความจริงใจและสุจริตใจนั้นจะเป็นดุจเทพเจ้าปกป้องคุ้มครองเรา  ให้เราแคล้วคลาดปลอดภัย ได้พบกับผู้ทรงคุณธรรมความดี


                บุคคลผู้มีคุณชาติแห่งความเป็นคนจริง  จะแสวงหาความก้าวหน้าแบบทางโลกก็เจริญรุ่งเรืองไม่แพ้ใคร  เมื่อใดบุญบารมีในทางธรรมมาถึง  ก็พร้อมสละชีวิตทางโลกได้ ดุจการสลัดรองเท้าคู่เก่าทิ้ง อย่างไม่มีการห่วงหาอาลัยอาวรณ์


                หัวใจของปุถุชนชาวโลกทั่วไป  มักกล้าที่จะทำทุกอย่างได้เสมอเพื่อให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ  โดยไม่คำนึงว่าจะมีบาปกรรมติดตัวหรือไม่  ขอให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนาเป็นพอ


                 หัวใจพระโพธิสัตว์และพระอริยบุคคล  กล้าที่จะสละทุกสิ่งเพื่อแลกกับการสร้างบารมีและการหลุดพ้นแห่งจิต   หัวใจเด็ดเดี่ยว กล้าสละได้แม้ชีวิต เพื่อบูชาคุณความดีหรือสัจธรรม


                 ปุถุชนมักมีความกล้าที่จะทำชั่วทำผิดเพื่อให้ได้บางสิ่งมาสู่ตัวเอง  ส่วนพระโพธิสัตว์และพระอริยะ กล้าที่จะสละทุกสิ่งออกไป  จนนำไปสู่ดวงจิตที่ไร้อัตตา  นี้คือความกล้าที่ต่างกันแบบตรงกันข้าม เหมือนทิศตะวันตกกับทิศตะวันออก


                ในทางโลก  ต้องมีปริญญา มียศ มีตำแหน่ง มีทรัพย์สินเงินทอง มีฐานะอันมั่งคั่ง จึงจะได้รับการยอมรับและถือว่าประสบความสำเร็จ  แต่ถ้าบุคคลจะเดินเส้นทางแห่งอริยะอย่างแท้จริง ต้องยอมสละทุกสิ่งที่ชาวโลกชื่นชมและแสวงหาเหล่านั้น  ขุมทรัพย์จึงจะปรากฏขึ้นมา


                พระเจ้าแผ่นดิน  วีรบุรุษ และผู้มีอำนาจวาสนาในทางโลกทั้งหลาย  เมื่อความแตกดับหรือความตายใกล้เข้ามา  ล้วนกล่าวถ้อยคำทำนองเดียวกันว่า “หากหายจากความเจ็บป่วยหรือรอดจากความตาย  จะขอออกบวชอยู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ไปจนตลอดชีวิต”


              แม้แต่สายัณห์  สัญญา ขุนพลเพลงผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลก็กล่าวถ้อยคำนี้ เมื่อทราบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย จอมพลสฤษฎิ์  ธนะรัชต์  ผู้ทรงอำนาจที่สุดในยุคนั้น ก็ยังกล่าวคำนี้ก่อนจะถึงแก่อสัญกรรม


             เกิดมาเป็นคน  จงมีคุณชาติแห่งความเป็นคนจริงอย่างน้อยสักอย่างหนึ่งให้จงได้  ผู้ยิ่งใหญ่ในทางโลกทั้งหลายที่ชีวิตในบั้นปลายหัวใจร่ำร้องเรียกหาพระ  ก็เพราะหัวใจของเขาได้พบกับสัจธรรมของชีวิตอย่างเด่นชัดแล้วว่า  แท้จริงแล้วสิ่งที่ต่อสู้ดิ้นรนแสวงหาตลอดมา ไม่มีสิ่งใดติดตามตัวเองไปได้แม้แต่สิ่งเดียวเมื่อความตายมาถึง


            อุตส่าห์ไขว่คว้ามาแทบตาย  สุดท้ายกลับเป็นโมฆะมีแต่ความว่างเปล่า  ชีวิตของพระอริยเจ้าอันเป็นชีวิตของผู้สละแล้วต่างหากคือสิ่งประเสริฐที่สุด


             บุคคลที่เคยยิ่งใหญ่เหล่านี้หากได้กลับมาเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาติใหม่  เขาจะหันหลังให้กับเกียรติยศ อำนาจ และความร่ำรวยทั้งปวง จะออกบวชมุ่งสู่เส้นทางแห่งความหลุดพ้นไม่ไยดีต่อวิถีของชาวโลก  จะเบื่อหน่ายต่อคนร่ำรวย คนมียศมีตำแหน่ง อันเป็นสิ่งที่ตนเคยมีมาก่อนยิ่งกว่าคนทั้งหลายที่ได้พบในชาตินี้


             จงจดจำไว้เสมอว่า เมื่อเหลาะแหละหยิบโหย่ง เห็นแก่ตัวหรือแสวงหาแต่ความสบาย  แม้จะพบกับคนที่ทุ่มเทและจริงใจ  สักวันหนึ่งเราก็จะคลาดไปจากคนที่ให้ความจริงใจ พลัดไปสู่โลกแห่งความเห็นแก่ตัวและไร้ความจริงใจตามความยุติธรรมของกฎแห่งกรรม


              ในทางตรงกันข้าม  หากเรามีความบริสุทธิ์และมีความจริงใจ  แม้เราจะทุ่มเทให้แก่คนที่ไม่มีความจริงใจให้เรา  อานุภาพแห่งความจริงใจนั้นก็ไม่ได้สูญหายไปไหน  แต่จะมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองในการที่จะเป็นแรงผลักดันให้ชีวิตของเราสูงส่งขึ้น  จนกระทั่งได้พบกับคนที่จริงใจ  อันทำให้ชีวิตของเราพบกับความเต็มเปี่ยมด้วยคุณชาติแห่งความเป็นคนจริงในที่สุด

 

                                                                                           คุรุอตีศะ
                                                                                  ๒๐  มีนาคม  ๒๕๕๗