ชีวิตต้องได้ผ่านอุปสรรค
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ชีวิตต้องได้ผ่านอุปสรรค
ชีวิตที่ไม่มีอุปสรรค ย่อมเป็นชีวิตที่อ่อนแอ คนที่มีชีวิตที่ราบรื่นมาตลอด ในยามมีปัญหาจะแก้ไขปัญหาให้ตัวเองไม่ได้ นอกจากจะเป็นที่พึ่งให้ตัวเองไม่ได้แล้ว ยังอาจเป็นภาระให้คนอื่นมาช่วยแก้ปัญหาให้อีกด้วย
ชีวิตที่ไม่ได้ผ่านอุปสรรคปัญหา ย่อมเป็นที่พึ่งให้แก่ใครไม่ได้ นอกจากนั้นจะเป็นคนที่ขลาดกลัวและหวาดหวั่นต่ออนาคตอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาและความทุกข์ยากที่จะมาเยือน
ชีวิตที่จะเข้มแข็งและมั่นคงได้ ต้องเป็นชีวิตที่ได้ฝ่าฟันกับปัญหาและอุปสรรคทั้งปวง การกล้าเผชิญปัญหา คือ หนทางแห่งความก้าวหน้า จิตใจที่หาญกล้าและองอาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากบุคคลนั้นคอยเอาแต่หลบเลี่ยงปัญหา ชีวิตเช่นนั้นย่อมไม่เป็นประโยชน์แก่ใคร ทั้งไม่สามารถเป็นที่พึ่งของใครได้ แม้ในคราวคับขันที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตัวเอง
บางคนตลอดชีวิตความเป็นหนุ่ม ได้รับการโอบอุ้มจากพ่อแม่ญาติพี่น้องมาโดยตลอด เมื่ออยากแต่งงานก็สามารถแต่งได้ตามใจ โดยที่ไม่ได้ต่อสู้กับอุปสรรคอันใดที่จะเป็นเครื่องหมายแสดงออกมาที่ชนะใจฝ่ายหญิง แม้แต่สินสอดทองหมั้นก็ได้น้องสาวจัดหามาให้ด้วยความรักต่อพี่ชาย เมื่อแต่งงานก็พาเจ้าสาวขึ้นอยู่บ้านหลังใหม่ที่โอ่โถงกว่าบ้านเดิมของพ่อแม่พี่น้อง ในขณะที่พี่น้องคนอื่นยังอยู่บ้านหลังคาสังกะสี การลงทุนสิ่งใดก็อาศัยเงินทองของพี่น้องที่ไม่ต้องอาศัยการเป็นลูกหนี้ของคนอื่นเหมือนคนทั่วไปแต่อย่างใด พอแต่งงานใหม่ก็ได้อยู่บ้านหลังใหม่สองชั้นด้วยความสุขกว่าคนอื่นกันตามลำพังสองผัวเมีย
ชีวิตที่มีแต่ความราบรื่น เป็นแต่ฝ่ายรับจากคนอื่นและได้รับการโอบอุ้มตลอดมา ในขณะที่ตนเองอยู่บ้านหลังใหญ่สองชั้นอย่างมีความสุข ในขณะที่อีกคู่หนึ่งเริ่มต้นชีวิตด้วยการหนีตามกันมา ทั้งสองถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่ดี จึงจำต้องเริ่มสร้างฐานะจากบ้านหลังคาสังกะสี แล้วก็ก้มหน้าก้มตาปลุกผักปลูกหญ้าเลี้ยงชีวิตกันไปตามประสาคนไม่ดี โดยมีความมุ่งมั่นในใจว่า ในเมื่อเรานี้เป็นคนไม่ดีทำให้พ่อแม่พี่น้องต้องอับอายขายหน้าถูกครหานินทา เราก็จะตั้งหน้าตั้งตาสร้างฐานะเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและวงศ์ตระกูล
วันเวลาผ่านไป คนที่เคยอยู่บ้านหลังคาสังกะสีที่มีพื้นกระดานไม่กี่แผ่น กลายเป็นคนที่มีหัวใจที่เป็นผู้นำและหนักแน่น จนสร้างฐานะได้เป็นปึกแผ่น มิหนำซ้ำยังสามารถช่วยเหลือเกื้อกูลญาติพี่น้องของตนได้อย่างกว้างขวาง ในขณะที่คนที่เริ่มที่ชีวิตคู่อย่างราบรื่นและสุขสบายแต่ต้นนั้น ที่เสวยความสุขจากการแต่งงานไปวันๆ กลับมีฐานะอยู่เท่าเดิมและช่วยเหลืออะไรใครไม่ได้ และชีวิตในบั้นปลายสุดท้าย ยังมีบางสิ่งกลับต้องไปพึ่งพาอาศัยคนที่เคยอยู่บ้านหลังคาสังกะสีเมื่อยี่สิบปีก่อนนั่นเอง
ตัวอย่างชีวิตของคนสองคนตามที่ยกมาแสดงนี้ คงจะมีอีกมากมายทั่วประเทศและทั่วทั้งโลก หากมีความสงสัยขึ้นมาว่า ทำไมคนสองคนนี้จึงมีความสำเร็จในชีวิตแตกต่างกัน ทั้งๆที่คนแรกนั้นมีความพร้อมกว่าคนหลังในทุกด้าน ต้นทุนในการเริ่มต้นสร้างชีวิตก็มีเหนือกว่าอีกฝ่ายทุกอย่าง แต่เหตุใดกลับประสบความสำเร็จด้อยกว่า
คำตอบก็คือว่า เพราะคนที่มีชีวิตพบแต่ความราบรื่นและได้รับการโอบอุ้มตลอดเวลานั้น ศักยภาพในตัวเขาไม่ได้มีโอกาสแสดงออกมา เนื่องจากการฟันฝ่าอุปสรรคและปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นแต่อย่างใด จะเรียกว่าเขายังไม่ได้สร้างชีวิตและสร้างอนาคตที่แท้จริงก็ยังได้ ในขณะที่บุรุษคนหลังต้องฟันฝ่าเอาชนะต่อความอัปยศและความอับอาย เขาจึงมีโอกาสได้แสดงศักยภาพและใช้ชีวิตต่อสู้กับอุปสรรคอย่างสมศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย อานิสงส์แห่งความอดทนและความพากเพียรอันมากมาย จึงส่งผลให้ประสบกับความสำเร็จในชีวิตอันยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
ขอให้มนุษย์ทุกคนผู้มีความพากเพียรทั้งหลาย จงอย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจว่าชีวิตนี้ทำไมช่างมีแต่อุปสรรคและปัญหา ขอให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตว่า คนผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตและบุคคลสำคัญของโลกตลอดมาทุกยุคทุกสมัย ล้วนเป็นผู้ที่มีชีวิตได้ผ่านอุปสรรคและปัญหาอันใหญ่หลวงในชีวิตมาแล้วทั้งสิ้น แต่ท่านเหล่านั้นต่างจากบุคคลธรรมดา ตรงที่ท่านไม่ยอมจำนนต่อปัญหา แต่ท่านนำศักยภาพของตัวเองออกมา เป็นพลังในการฟันฝ่าจนบรรลุผลสำเร็จปรากฏชื่อเสียงแก่ชาวโลก เราเองก็จะเป็นหนึ่งในนั้น
จงนำเอาอุปสรรคและปัญหานั่นแหละ เป็นบันไดในการไต่ขึ้นไปสู่ความสำเร็จทีละขั้น อย่าทอดอาลัยและจำนนต่อปัญหา เพราะปัญหาทุกปัญหา ย่อมมีทางออกในตัวมันเองเสมอ ปัญหาทั้งปวงย่อมคลี่คลายไป เมื่อเราเกิดปัญญามองเห็นทางสว่างในวันใดวันหนึ่ง
กุญแจทุกดอกที่ช่างกุญแจทำขึ้นมา ย่อมต้องมีลูกกุญแจติดพร้อมมาด้วย ฉันใด ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาแก่มนุษย์ทั้งหลาย ธรรมชาติย่อมสร้างลูกกุญแจคือทางออกของปัญหามาในตัวด้วยเสมอ
ขอเพียงเราทั้งหลายอย่าได้สิ้นหวังหรือท้อแท้ต่อสิ่งใด ดังที่กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่า “ชีวิตที่ไร้ปัญหาและอุปสรรค ย่อมเป็นชีวิตที่อ่อนแอและเป็นที่พึ่งแก่ใครไม่ได้”
ว่าวที่จะเหินขึ้นสู้ท้องฟ้า ต้องอาศัยแรงลม ฉันใด บุคคลจะเป็นมนุษย์ที่เข้มแข็งและมีชีวิตที่สมบูรณ์ได้ ต้องได้ฟันฝ่าอุปสรรคและขวากหนามทั้งปวง
หัวใจของมนุษย์ที่จะเข้มแข็งได้ ไม่มีวิธีอื่นใด นอกจากจะได้ ยืนหยัด ต่อสู้ และฟันฝ่าต่ออุปสรรคและปัญหาทั้งปวง หากชีวิตของเราได้ผ่านอุปสรรคและปัญหาที่หนักหน่วงมากเท่าใด ศักยภาพที่แท้จริงอันซ่อนอยู่ภายใน จะออกมาแสดงตัวและเป็นพลังให้แก่ชีวิตของเราเท่านั้น ยิ่งผ่านอุปสรรคมากเพียงใด ความก้าวหน้าในชีวิตจะมากขึ้นเพียงนั้น
อย่ามัวไปนึกอิจฉาหรือน้อยอกน้อยใจ ที่ชีวิตของเรานี้ไม่มีใครเข้าใจหรือมีคนคอยโอบอุ้มสนับสนุนเหมือนคนอื่น แต่จงคิดใหม่ว่า นี้คือโอกาสที่หาได้ยาก ที่เราจะมีโอกาสได้ใช้ความสามารถและใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่
เราจะเป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่ได้พึ่งตัวเอง เป็นชีวิตที่หัวใจดวงนี้ไม่มีความหวั่นเกรงต่ออุปสรรคใดๆ
ชีวิตที่มีแต่คนโอบอุ้มช่วยเหลือหรือเต็มไปด้วยความราบรื่นสะดวกสบาย จะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ไม่ได้ และสักวันหนึ่งชีวิตเช่นนั้นจะต้องได้รับการพิสูจน์ หากไม่เป็นตอนชีวิตวัยกลางคนก็ต้องเป็นตอนวัยแก่เฒ่า เพราะชีวิตนี้เขาย่อมยุติธรรมเสมอ ไม่เคยปล่อยให้ใครมีแต่ความสุขสบายหรือพบแต่ความสมหวังไปฝ่ายเดียว
สำหรับตัวเราจึงนับว่าเป็นคนหนึ่งที่โชคดี ที่เราได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ให้เข้ารับการพิสูจน์เสียแต่วันนี้ เราจงก้มหน้าก้มตาทำใจให้รู้สึกยินดี แม้บางทีหรือบางวันอาจจะมีน้ำตาก็ตาม
ชีวิตที่ไม่ได้ผ่านอุปสรรค ย่อมเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ไม่ได้ ชีวิตที่ไม่มีศัตรู จะเป็นชีวิตที่เข้มแข็งไม่ได้ ขอให้ท่องคำนี้ไว้ แล้วก้าวเดินไปด้วยความมีสติและอดทน
จงจำไว้ว่า คนฉลาดจะพ่ายแพ้ต่อคนที่หนักแน่นอดทน เหมือนนิทานอีสปเรื่องกระต่ายกับเต่า กระต่ายมีความหมายแสดงถึงความฉลาดและความเก่งกล้าสามารถ แต่มักจะประมาทและดูหมิ่นคนอื่นว่าโง่กว่าตน สุดท้ายต้องพ่ายแพ้แก่เต่าคือคนที่เต็มเปี่ยมด้วยความเพียรและความหนักแน่นอดทน ตัวเราเองก็จะมีความพากเพียรและมีความอดทนเช่นเดียวกับเต่าผู้พากเพียรเดินด้วยเท้าสั้นๆทีละน้อยจนกว่าจะถึงจุดหมายในที่สุด
เพชรเม็ดงาม จำต้องได้รับการเจียระไน จึงจะส่องแสงแวววาว อุปสรรค ขวากหนามและปัญหาทั้งปวง คือสิ่งที่จะมาหล่อหลอมและขัดเกลาให้เรากลายเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
วันหนึ่งเมื่ออุปสรรคผ่านไปแล้ว เราจะรู้สึกสำนึกในคุณต่อสิ่งเหล่านั้นในภายหลังว่า แท้จริงแล้ว ที่เรามีวันนี้ได้ ก็เพราะมีสิ่งที่เราเคยคิดว่าเป็นอุปสรรคนั่นเอง
คุรุอตีศะ
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗