เพราะไม่รู้มาก่อน

เพราะไม่รู้มาก่อน

 


             เพราะไม่รู้มาก่อน  ว่าได้ทำในสิ่งที่บั่นทอนหัวใจของเขาตลอดมา  เราไม่เคยรู้เลยว่า ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน  การที่เราเป็นคนขยันและจัดแจงการงานได้ดีเป็นเลิศ  เขาก็ไว้วางใจในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเรา  แต่การชอบเอาแต่ผู้ชายมาช่วยงานเพื่อความทันอกทันใจ โดยเอาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า “ไม่ได้คิดอะไร”แม้เขาจะเตือนและห้ามปรามอยู่บ่อยครั้ง  เราก็วางใจว่าเขาเป็นคนดีจึงไม่เคยระวัง  ไม่เคยรู้เลยว่ามีเหตุการณ์อยู่หลายครั้ง ที่ทำให้เขาคิดมากและเก็บกดเสมอมา


              เราเอาความสำเร็จของงานเป็นใหญ่  เป็นผู้หญิงเก่งและมีความมั่นใจ  แต่การชอบทำงานคลุกคลีกับผู้ชาย โดยที่เขาไม่เคยได้ทำงานใกล้ชิดกับผู้หญิงคนใด  จึงได้ทำร้ายจิตใจของเขามาเนิ่นนาน  เรามีความสุขกับการได้พบปะผู้คน  แต่เขาต้องอดทนอยู่กับปมด้อยและมีสังคมแคบๆอยู่แต่ภายในบ้าน  การงานต่างๆเราทำเองทั้งหมด โดยคิดว่าเพื่อให้เขาสบาย  แต่ที่ไหนได้  เขาไม่เคยรู้สึกภูมิใจกับการเป็นนกในกรงที่เรามอบให้แม้แต่น้อย  โดยที่หัวใจเขาเรียกร้องอิสรภาพตามวิสัยของผู้ชายตลอดเวลา เราไม่เคยนึกเฉลียวใจเลยว่า การทำเช่นนั้นคือการได้จำกัดศักยภาพของเขา เพื่อให้เขามีชีวิตและสังคมทั้งหมดเป็นของเราคนเดียว


              เราได้ทำให้เขาเกิดความหึงหวงทีละน้อย  โดยที่เขาอธิบายเหตุผลอะไรไม่ได้  เพราะเขาเป็นผู้ชายที่มีศีลธรรมประจำใจ  เราไม่เคยรู้ตัวเลยว่า ขณะที่เขามองเห็นเราทำงานอยู่ท่ามกลางผู้ชาย  ได้บั่นทอนจิตใจและบั่นทอนความมั่นใจในตัวเองของเขาตลอดมา


             ในที่สุด เราเพิ่งรู้ว่า ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมา  เราได้สร้างความหึงหวงอันลึกซึ้งขึ้นในหัวใจของเขามาตลอด  จากที่เคยทะเลาะกันหลายครั้งที่เขาพยายามบอก แต่เราก็ดื้อรั้นและเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่ผิดมาเสมอ  บัดนี้ เขาได้จากเราไปทั้งโดยหัวใจและโดยนิตินัยที่ไม่สามารถนำอะไรกลับคืนมา  นี้ก็เพราะไม่รู้ว่า  เราได้ทำลายความรักความไว้วางใจของเขาทีละน้อย ความเป็นคนดีของเขา ทำให้เราพลาดพลั้งดูหมิ่นว่าเขาไม่เป็นผู้นำและมีสามีที่โง่  ท้ายที่สุดเราต้องร้องไห้โฮ  เมื่อมีผู้หญิงอื่นมองเห็นเขาเป็นเจ้าชายที่แสนฉลาดและเปี่ยมด้วยความสามารถแทนตัวเรา


              เพราะไม่รู้มาก่อน  ว่าการที่เรามีความทะเยอทะยาน  ในการจะเติมเต็มความฝันด้วยการสอบเรียนต่อปริญญาโท  เราได้ให้เหตุผลและอธิบายเพื่อให้เขาเข้าใจ  แล้วเราก็ดีอกดีใจที่เขาอนุญาตให้เราเรียนต่อปริญญาโทได้  ส่วนเขามีหน้าที่เลี้ยงลูกชายสองคนที่กำลังซุกซนไป พร้อมทั้งยินดีและพอใจที่จะเสียสละอยู่กับความรู้แค่เพียงปริญญาตรีตามเดิม


              จากที่เคยมีเวลาให้แก่กัน มีความสุขตามประสาพ่อแม่ลูก ความผูกพันเริ่มเหินห่าง เพราะเราต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ในการทำรายงานต่างๆแทบทุกวัน บางครั้งก็ต้องไปร่วมกิจกรรมสัมมนา คลุกคลีกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่มีทั้งหญิงและชายทั้งหลาย  ในขณะที่เขากลับจากทำงานต้องมีหน้าที่เลี้ยงลูกไป  ต้องปัดกวาดบ้านช่องทำความสะอาดและดูแลอาหารในครอบครัว


               เรามีความสุขสนุกสนานที่ได้ออกสังคม พบหญิงชายมากหน้าหลายตา  จนแทบไม่มีเวลาได้ทำหน้าที่ของความเป็นภรรยาและให้ความสุขแก่เขา  ในขณะที่เรากำลังก้าวหน้าทางการศึกษา  ส่วนเขาต้องบากหน้าจากที่ทำงานไปรับ-ส่งลูกทั้งเช้าเย็น  เขาไม่ค่อยได้รับความสุขจากสิ่งที่สามีควรจะได้จากภรรยาสุดที่รัก  มิหนำซ้ำยังต้องทำงานหนักในหน้าที่ของแม่บ้านแทนเรา  เราเพลิดเพลินกับการเรียนและคบหาเพื่อนฝูง  บางคืนก็นั่งแช็ทกับเพื่อนผู้ชาย แทนที่จะนั่งคุยกับเขา   เราอยู่ในโลกของเราในฐานะผู้มีการศึกษาชั้นสูง  โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของเขาแม้แต่น้อย  ผู้ซึ่งเป็นทั้งพ่อบ้าน  แม่บ้าน  ต้องเลี้ยงลูกในวัยที่ต้องการความอบอุ่น


               จนวันหนึ่งเราจึงรู้ว่า  การเรียนต่อปริญญา ได้ทำให้เราต้องเสียน้ำตาอย่างใหญ่หลวงครั้งสำคัญในชีวิต  เพราะเขาไปมีความสุขกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่ตัวเรา และผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพียงลูกน้องของเขาที่ความรู้ยังไม่ถึงม.๓ด้วยซ้ำ เราจึงต้องมีชีวิตจมอยู่แต่กับคำถามพร้อมกับการจบปริญญาโทท่ามกลางน้ำตา

 
               นี้ก็เพราะเราไม่รู้ว่า การเรียนต่อปริญญาคือการเลือกที่จะไม่เอาความรักความอบอุ่นในครอบครัว  แต่เราทั้งสองไม่มีความรู้ในความจริงข้อนี้มาก่อน  เรามั่นใจว่าสามีรักและตามใจเอาอกเอาใจและแสนดีมาตลอด

 

             ส่วนเขามาจากฐานะครอบครัวอันยากจนต่ำต้อยและมีปมด้อยมาก่อน เขาจึงไม่กล้าที่จะขัดใจเรา เพราะเท่ากับไม่ส่งเสริมความก้าวหน้าของศรีภรรยาของตน  กว่าจะรู้ว่าการจบปริญญาที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา คือการได้สตรีเด็กสาวมาช่วยทำหน้าที่แทนภรรยาเป็นของแถมด้วยอีกคนหนึ่ง ก็จนถึงวันที่เหตุการณ์ต่างๆล่วงเลยมามาก จนยากที่ฝ่ายใดจะแก้ไขได้แล้ว...กว่าจะรู้ว่า ปริญญาที่มีค่าคือปริญญาชีวิตต่างหาก.....


               ชีวิตก็มักเป็นเช่นนี้  เพราะเราทุกคนไม่รู้ว่า มีสิ่งใดบ้างที่ทำลงไปแล้วจะส่งผลต่อวันข้างหน้าอย่างไร  บางครั้งเรื่องที่เราคิดว่า “ไม่เป็นอะไร” แท้จริงกลับเป็นเรื่องใหญ่ที่เราคิดไม่ถึง


               อยากบอกแก่ลูกผู้หญิงทุกคนว่า  แท้จริงแล้วบุรุษทั้งหลายมีหัวใจที่เปราะบางต่อความรักมากกว่าสตรีเสียอีก  ความหึงหวงของผู้ชาย ย่อมเกิดขึ้นได้ง่ายและลึกซึ้งกว่าผู้หญิงหลายเท่า  เราทั้งหลายอย่าได้วางใจและดูเบา  ยิ่งผู้ชายที่มีความองอาจสามารถ ยิ่งมีความหึงหวงมากกว่าผู้ชายธรรมดาหลายเท่า  ยิ่งผู้ชายที่มีความเป็นลูกผู้ชายเพียงใด  เขายิ่งไม่ต้องการให้มีใครมาพัวพันใกล้ชิดสตรีที่เขารัก แม้แต่สายตาชื่นชมจากชายอื่นด้วยซ้ำ


                ดังนั้น กุลสตรีที่มีสติปัญญา  จึงมีไหวพริบอันเกิดขึ้นตามบุญบารมีเฉพาะตัวว่า จะต้องระมัดระวังตัวไม่ให้สนิทสนมกับชายอื่น อันทำให้บุรุษที่ตนมอบใจให้เกิดความรู้สึกขุ่นมัว สตรีเช่นนี้แหละที่ท่านเรียกว่า “กุลสตรีที่เป็นนางแก้ว” ที่บุรุษทั้งโลกต่างแสวงหาเพื่อมาประดับไว้เป็นมิ่งขวัญและกำลังใจของตัว

 

                สตรีเช่นนี้แหละที่ท่านว่าหากชายใดได้ครอบครองแล้ว เขาจะเกิดกำลังใจในการสร้างตัว และนำเกียรติยศความยิ่งใหญ่มาสู่ตัวเองและสตรีอันเป็นที่รักของเขาในเวลาอันรวดเร็ว  สตรีใดที่ปรารถนาจะได้พบบุรุษผู้เช่นนี้  ท่านจึงสอนให้รักษาความเป็นกุลสตรีและรักนวลสงวนตัวไว้ เพื่อรอวันบุรุษผู้คู่ควรและกล้าหาญนำเพชรเม็ดงามไปประดับชีวิตของเขา  หากรักอิสระไม่ต้องการอาศัยชายใด ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามสบาย


               ผู้ชายทั้งหลายที่ไม่ยอมตกลงปลงใจหรือจริงจังกับสตรีคนใดโดยง่าย  ก็เพราะเมื่อลูกผู้ชายที่แท้จริงได้บอกรักใคร หรือตกลงรับสตรีใดมาเป็นคู่ครอง  ใจของเขาจะมั่นคงและผุดผ่อง บังเกิดความแน่วแน่เป็นสมาธิในการบากบั่นสร้างอนาคตเพื่อคนที่เขารัก


                  เขาจะเกิดความภาคภูมิใจที่มีคนมองเห็นคุณค่าในตัวเขา และชีวิตนี้มีสตรียอมให้เขาครอบครอง เขาจะต้องได้แสดงความเป็นเจ้าของ  ไม่ต้องการเห็นชายอื่นมาคลุกคลีเกี่ยวข้อง โดยไม่ต้องรอให้มีความสนิทสนมกันแต่อย่างใด นี้คือหัวใจของผู้ชายที่สตรีทั้งหลายอาจไม่เคยรู้


              ผู้ชายส่วนใหญ่  จึงมักพอใจที่จะไม่ผูกพันกับสตรีใดให้จริงจัง  เพราะเขาไม่มีหวังที่จะได้พบสตรีที่มีโลกนี้อยู่เพื่อเขาคนเดียว

 
              ธรรมชาติของผู้ชายนั้นจะไม่เอาความรักเป็นใหญ่เหมือนผู้หญิง  ร่างกายของสตรีย่อมเป็นเพียงเครื่องสนองอารมณ์มากกว่า ส่วนสตรีใดที่เขาจะยกย่องว่าเป็นภรรยา  โบราณท่านจึงว่าสตรีผู้นั้นมีบุญมาก  หัวใจของผู้ชายส่วนใหญ่มักจะเกิดความรักตามมาทีหลังทั้งสิ้น


              ที่ว่ามีบุญก็เพราะว่า ธรรมชาติของใจผู้ชายนั้น ต้องการแสวงหาความสุขทางเพศไปเรื่อยๆและดูถูกผู้หญิงตามที่ผู้หญิงทั้งหลายรู้สึกนั่นแหละ  การที่เขาจะทิ้งอิสรภาพแล้วหยุดชีวิตไว้ที่ผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง  จึงนับว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับเขา

 

              ผู้หญิงคนใดที่ทำให้ผู้ชายมาเห็นคุณค่าของตัวเองที่เกินกว่าร่างกายได้  จนเขาสมัครใจที่จะมีเราเพียงคนเดียว  จึงถือว่าสตรีนั้นมีบุญมาก  เพราะมีความสามารถยกใจของบุรุษนั้นให้สูงส่งขึ้นจนเขามีใจรักที่แท้จริง  ตัวเรานี้มิได้เป็นหญิงมีคุณค่าเพียงแค่สนองอารมณ์ของชาย เรานี้เป็นหญิงที่มีวาสนาอันยิ่งใหญ่  ที่มีโอกาสได้อยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจ ให้บุรุษอาชาไนยก้าวเดินไปตามอุดมการณ์


              ขอให้สตรีทั้งหลายที่มีวาสนาได้ครองคู่กับบุรุษ  แม้เขาจะเป็นคนโง่หรือคนฉลาด จะเป็นคนมีความสามารถหรือเป็นคนไม่เอาไหน  ก็ขอให้เราจงภาคภูมิใจและไม่ลบหลู่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้ชายของเขาเป็นอันขาด


              การที่เราได้มีโอกาสได้ครองคู่อยู่กับเขา และเขาเลี้ยงดูยกย่องให้เกียรติเราให้ปรากฏแก่ใครๆ  นั่นคือเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ที่เราไม่อาจมองข้าม  แม้เราจะเก่งและมีความสามารถเพียงใด  ก็จงมีความเจียมตัวเจียมใจอย่าคิดว่าตนเองเหนือกว่าเขาเป็นอันขาด


             ความเก่งกล้าสามารถในการทำงานแม้จะมีมากสักเพียงใด  แต่สำหรับหัวใจของผู้ชาย ความเก่งกล้าเหล่านั้นทั้งหลาย  ไม่มีคุณค่าเท่ากับการระมัดระวังตนไม่สร้างความหึงหวงให้เกิดขึ้นในใจของเขาเพียงครั้งเดียว


             ความเก่งของผู้หญิงย่อมมีคุณค่าในครอบครัว ก็ตรงที่อยู่บนพื้นฐานแห่งความรักและความเคารพที่สตรีมีให้แก่บุรุษเท่านั้น  แต่ถ้าความเก่งกล้านั้นไม่ได้อยู่บนพื้นฐานจากความเคารพและเชื่อฟังที่เธอมอบให้กับสามี  บางทีความเหนื่อยยากสายตัวแทบขาดของเธอ อาจมีผลเป็นโมฆะสำหรับหัวใจของเขาก็ได้


              หากเราต้องการความรักและต้องการนั่งอยู่ในหัวใจของเขาตลอดไป  อย่าได้ประพฤติสิ่งใดให้เขาเกิดความระแวงแคลงใจ  อย่าปล่อยให้หัวใจของเขาถูกบั่นทอนเพราะความหึงหวงเป็นอันขาด


            หากเรารู้ว่าเราไม่อาจประพฤติตนเช่นนี้ได้  เราจงอย่าหวังว่าชีวิตนี้เราจะได้พบกับชายใด ที่เราจะฝากชีวิตและหัวใจไว้กับเขาได้  เราจงตัดสินใจที่จะอยู่คนเดียวไปจนวันตาย  นั่นคือชีวิตที่จะสบายสำหรับเรา


             แต่ในความเป็นจริงแล้ว  สตรีทุกคนล้วนปรารถนาที่จะได้พบชายในดวงใจ  ที่เราพร้อมจะมอบกายใจและภักดีต่อเขาไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่  แต่ก็น้อยนักที่สตรีใดจะพบชายเช่นนั้นได้  แม้แต่บุรุษทั้งหลายก็น้อยนักจะได้พบนางในฝันเช่นกัน  โลกมนุษย์ใบนี้นั้น  จึงมีแต่ความโศกเศร้าและจาบัลย์   บรรดาเพลงทั้งหลายที่ร้องออกมานั้น จึงมีแต่เพลงผิดหวังถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์


               บุรุษใดที่ได้ครองคู่กับสตรีที่เก่งกล้าสามารถ  จงภูมิใจเถิดว่าเรานี้เป็นผู้ชายที่มีวาสนา ที่ชาตินี้มีโอกาสได้ภรรยาที่มีสติปัญญาและมีบุญ  เราไม่ควรพยายามจำกัดหรือลดความสามารถของเธอลง แต่จงส่งเสริมให้เธอสร้างสรรค์โลกนี้อย่างเต็มความสามารถ  แล้วเราจงเป็นผู้ชายผู้องอาจที่คอยปกป้องดูแลเธออย่างแสนภูมิใจ


               สตรีใดที่ได้ครองคู่กับผู้ชายที่องอาจสามารถ  จงอย่าน้อยใจว่าขาดอิสรภาพและหนักใจกับความขี้หึงของเขา  จงภาคภูมิใจที่เขาแสนรักและมองเห็นคุณค่าของตัวเรา  แล้วขอเอาความรักและความภักดีนี้เป็นพลังสนับสนุนเขาไปจนวันตาย  อย่างน้อยชีวิตหนึ่งเราก็ได้มีวาสนาได้ครองคู่กับบุรุษผู้พร้อมสมบูรณ์ทั้งกายและใจ  ที่สตรีทั้งหลายต่างปรารถนาที่จะได้พบสมบัติเช่นนี้กันทุกคน  เราจะขออดทนและแน่วแน่ในการเดินทางชีวิตที่เลือกแล้วและมีความสุขกับปัจจุบัน

 
                  ขอผู้คนทั้งหลายที่มีชีวิตที่ผิดพลาดเพราะมีหลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน  ทั้งบุคคลที่ชีวิตลุ่มๆดอนๆทั้งหลาย  จงเข้มแข็งและก้าวเดินต่อไป  อย่ายอมให้มีสิ่งใดมาเป็นอุปสรรคในเส้นทางที่ก้าวเดิน


                  เราทุกคนล้วนเดินไปบนเส้นทางที่ไม่เคยเดินมาก่อนทั้งสิ้น  เราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะได้พบเจอกับอะไร  แต่ชีวิตก็ยังต้องมีอยู่เพื่อเรียนถูกเรียนผิดต่อไป  จนกว่าหัวใจดวงนี้จะปล่อยวางได้จากสิ่งร้อยรัดทั้งปวง


                  จะผิด จะพลาด จะล้ม สักกี่หน  เราก็จะยืนขึ้น ฝืนทน แล้วก้าวเดินต่อไป  ด้วยความเชื่อมั่นและวางใจ  ว่าชีวิตอันสดใสของวันใหม่กำลังใกล้เข้ามา

 
 

                                                                                                   คุรุอตีศะ
                                                                                             ๑  กุมภาพันธ์  ๒๕๕๗