รักต้องกล้าแสดงออก
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
รักต้องกล้าแสดงออก
มักได้ยินคำถามอยู่บ่อยๆว่า “ทำไมคนดีจึงมักอกหัก ทำไมคนดีจึงมักล้มเหลวในความรัก?” เมื่อได้ยินคำถามเหล่านี้แต่ก่อนก็ไม่ค่อยได้คิดอะไร แต่เมื่อเขียนธรรมะไป ก็เกิดนึกเฉลียวใจในปัญหาข้อนี้ขึ้นมา เราจึงน่าจะให้เวลากับการพิจารณาในเรื่องนี้กันสักวันหนึ่ง
คนดี โดยทั่วไปคือคนมีหิริโอตตัปปะสูง มีความระมัดระวังตนในการที่จะอยู่ในกรอบของศีลธรรม มีความอดทนอดกลั้นมีตบะในการควบคุมตัวเอง มีความละอายใจที่จะปล่อยตัวปล่อยใจให้ไหลไปตามแรงกิเลสตัณหา นี้คือการใช้ส่วนของสมองมาคอยควบคุมบังคับตนเองให้อยู่ในกฎเกณฑ์ที่สังคมยอมรับ คนดีทั้งหลายที่เรารู้จักโดยทั่วไปมักหมายถึงคนประเภทนี้
ความรัก คือความรู้สึกที่แสดงออกผ่านทางหัวใจ ไม่ใช่จากสมองหรือเหตุผลทางศีลธรรมหรือความถูกต้องใดๆ เรื่องของความรัก เรื่องของหัวใจไม่เกี่ยวกับความดี ความชั่ว ไม่เกี่ยวกับว่าถูกหรือผิด เรื่องของหัวใจไม่ต้องการเหตุผลหรือขึ้นกับกฎเกณฑ์ใดๆ ไม่เกี่ยวกับฐานะ เกียรติยศ การศึกษา หรือชาติตระกูล เรื่องความรักเป็นเรื่องของหัวใจสองดวงได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีขีดขั้น ไม่มีช่องว่าง นี้คือหัวใจของคนที่มีความรัก
ยิ่งความรักระหว่างหนุ่มสาวหรือระหว่างชายหญิง ซึ่งมีพลังงานอันสำคัญคือสัญชาตญาณความต้องการทางเพศหนุนหลังอยู่ด้วยแล้ว จึงยากนักที่ความดีและหิริโอตตัปปะจะสู้ไหว พลังของความรักจึงย่อมมีอานุภาพกว่าหลายเท่าและมีชัยอยู่เรื่อยไป
ดังนั้นคนดีทั้งหลายที่ประเมินพลังแห่งความรักไว้ต่ำ จึงต้องแพ้พ่ายอย่างราบคาบมานักต่อนัก คนดีทั้งหลายจึงพากันอกหัก เพราะเข้าใจผิด ที่คิดจะเอาชนะความรักด้วยความดี
ส่วนคนดีที่ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของอานุภาพความรัก ความรักของเขาและเธอจะกลายเป็นพลังสร้างสรรค์ เป็นความงดงาม แต่คนดีที่เผลอเอากฎเกณฑ์ของตนไปใช้กับความรัก มีโอกาสจะเป็นคนอกหักหรือเป็นคนล้มเหลวในความรักเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป
ความเป็นคนดีที่เราใช้เป็นบรรทัดฐานในสังคม หรือที่ยึดถือกันเป็นค่านิยมอยู่ในสังคมปัจจุบัน แท้จริงแล้วเป็นความดีในระดับของ “วัฒนธรรมแบบวิคตอเรีย” ที่เริ่มมีต่ออิทธิพลต่อราชสำนักและสังคมของคนชั้นสูงมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๔
ความดีแบบนี้คือความดีแบบ “ผู้ดี”ที่เรามักเรียกกัน ความดีแบบเป็นผู้ดีนั้น คือความยึดมั่นในกฎเกณฑ์ในศีลธรรม วัฒนธรรม และประเพณีด้วยการกดข่มอารมณ์ เพื่อให้สังคมยอมรับว่า “เราคือคนดี”เป็นคนสูงส่ง แม้ว่าบางทีอาจไม่ใช่ความดีที่เกิดจากน้ำใสใจจริง เพียงแต่สวมหน้ากากเข้าหากันเท่านั้น ความดีแบบนี้เป็นเพียงการทำให้ “คนอื่นยอมรับว่าเราดี” แต่ไม่มีความจริงใจต่อคุณความดีอย่างแท้จริง ความดีแบบนี้ย่อมเป็นคนละวิถีของเส้นทางแห่งอริยะ
พูดอย่างไม่ต้องเกรงใจก็คือว่า ความดีแบบวัฒนธรรมวิคตอเรียหรือความดีแบบผู้ดีนั้น ยังไม่ใช่ความดีที่แท้จริง ยกเว้นบุคคลนั้นจะประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรมด้วยความซื่อตรงต่อตัวเองอย่างแท้จริง ทำความดีด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพื่อให้ใครมาตัดสินหรือมาคอยชื่นชมว่าเราดี แต่เป็นการทำความดีเพื่อความดี และมีความสุข มีความเบิกบานจากการทำความดี
หากเป็นคนดีที่ซื่อตรงต่อความดีได้แบบประการหลังนี้ จึงจะชื่อว่าเป็นคนดีจริง เป็นคนดีของพระอริยเจ้า เป็นคนดีของพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นที่พึ่งของชาวโลก
คนดีแบบพุทธะนี้ จะไม่ใช่ความดีที่จอมปลอมอีกต่อไป แต่เขาและเธอจะเป็นคนดีที่สูงส่งทางจิตใจ ที่จะไม่มีวันตกต่ำลงสู่ที่ชั่วอีกแล้ว ดีอย่างสม่ำเสมอ ดีแบบไม่ขึ้นอยู่กับขี้ปากของใคร ดีแบบไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ไม่ว่าจะมีใครสรรเสริญหรือว่ามีใครนินทา
คนดีที่ดีได้แบบนี้ จะมีความกล้าหาญในความรัก เพราะสติที่มีอยู่ประจำใจจะแยกแยะออกได้ชัดว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ โดยไม่ขึ้นกับคำติคำชมของปุถุชนคนหนาด้วยกิเลสทั้งหลาย
ส่วนความดีแบบวัฒนธรรมวิคตอเรียหรือแบบผู้ดีนั้น มักจะหลอกตัวเองและไม่ซื่อตรงต่อหัวใจตัวเอง บางทีรักผู้หญิงแท้ๆก็แสร้งว่าไม่รักหรือแสร้งทำมายาว่าไม่สนใจ แล้วก็หลงภูมิใจในตัวเองว่ามีความดีอันยิ่งใหญ่ ที่สามารถบังคับหัวใจไม่ให้รักใครตามบัญชาของตัวเองได้ คนดีแบบนี้แหละที่ท่านว่าเป็นคนไม่ซื่อตรงต่อหัวใจ ไม่เห็นคุณค่าของหัวใจ ไม่มีความจริงใจให้ใครแม้แต่ความจริงใจที่ควรจะมอบให้แก่ตัวเอง
มาถึงตรงนี้เราคงพอจะวินิจฉัยได้แล้วว่า เฉพาะคนดีที่ไม่มีความกล้าหาญในการจะมีความรักเท่านั้น ที่จะเป็นพวกอยู่ในข่ายของคำถามข้างต้นที่ว่า “ทำไมคนดีๆจึงอกหัก? ทำไมมักมีแต่คนดีๆที่ล้มเหลวในความรัก?” คำตอบก็คือว่ารักตัวเองเกินกว่าจะมอบหัวใจให้ความรัก
ที่ล้มเหลวในความรัก ก็เพราะเขาไม่กล้าหาญพอที่จะรัก เขาไม่มีความจริงใจพอที่จะแสดงออกซึ่งความรัก และบางทีเขาก็รักตัวเองมากจนเกินไป มากจนกระทั่งกลัวว่าใครจะว่าตนเป็นคนไม่ดี การเป็นคนดีที่ขาดความซื่อตรงต่อตัวเองเช่นนี้ จะทำให้ชีวิตนี้ขาดความรัก
ผู้ชายที่เป็นสามีที่ดี ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรมไม่เคยประพฤติสิ่งใดให้นอกลู่นอกทาง ต้องกล้าที่จะแสดงความหึงหวงเมื่อเห็นภรรยาของตนนั่งรถไปสองต่อสองกับชายอื่น ถ้าเราเกิดความหึงหวงและเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา หากฝ่ายหญิงเถียงขึ้นมาว่า “พี่คิดไปเอง พี่อย่าคิดมาก” ก็ต้องกล้าที่จะถามเธอกลับไปว่า “ตกลงว่าน้องจะเป็นภรรยาของไอ้เจ้าคนนั้น หรือจะเป็นภรรยาของพี่ ถ้าเป็นภรรยาของพี่ก็ต้องเชื่อฟังพี่ในเรื่องนี้” นี้คือสิ่งที่ต้องมีเมื่อเรายังต้องการความรักหรือยังมองเห็นว่าเธอคือภรรยา ไม่ใช่ไปวางเฉยเป็นพระอรหันต์เธอจะทำอะไรก็ไม่ว่า จนกระทั่งเธอนั้นบั่นทอนศักดิ์ศรี บั่นทอนจิตใจ จนเราสูญเสียความมั่นใจ เพราะเธอทำผิดใจเราไปเรื่อยๆ เธอจะเข้าใจผิดคิดว่าว่า “ไม่เป็นไร” จนกระทั่งเธอเสียคนไปในที่สุด
เมื่อรู้สึกหึงหวง จงซื่อตรงต่อความรู้สึกหึงหวงที่เกิดขึ้นจริง แต่จงมีสติระลึกในอาการหึงหวงนั้นไปด้วย แล้วก็กล้าพูด กล้าแสดงออกไปด้วยความมีสติ นั่นแหละคือการปฏิบัติธรรม
สามีที่รักภรรยาแล้วครองตนอยู่ในศีลธรรม ต้องกล้าแสดงออกซึ่งความหึงหวงบ้างเป็นบางครั้ง แต่หากตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ ไม่สนใจศีลธรรมมาก่อน ต้องอดทนอดกลั้น อย่าแสดงอาการหึงหวงจนขาดสติและขาดเหตุผล นี้คือข้อปฏิบัติที่ต่างกันของแต่ละบุคคลแต่ละชีวิต
ผู้ชายที่เป็นคนดีมีศีลธรรมประจำใจ หากรักภรรยาและตามใจภรรยามากเกินไป แทนที่ฝ่ายหญิงจะชื่นชมยกย่อง กลับจะลบหลู่ดูถูกว่าขาดความเป็นผู้นำและอาจลบหลู่ได้ถึงกระทั่งญาติพี่น้องและวงศ์ตระกูล ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ธรรมชาติสตรีที่ขาดความเป็นกุลสตรีที่แท้จริงนั้น หากให้อำนาจและตามใจมากเกินไป เธอจะมองเห็นสามีเป็นคนโง่คนหนึ่งและเหลิงอำนาจจนกลายเป็นภรรยาที่เสียคน สามีจึงต้องกล้าตักเตือนเธอ เธอจึงจะรู้สึกว่าสามีรักเธอ เกิดความอบอุ่นและมีความสุข มีกำลังใจในการทำหน้าที่สร้างสวรรค์ในบ้าน
ผู้หญิงที่รักสามี จะกล้าตักเตือนสามีในสิ่งที่ตนเห็นว่าไม่ดี ไม่งาม ไม่ถูกต้อง ข้อนี้จะมีอยู่ประจำนิสัยของภรรยาที่ดีทั่วไป หากผู้หญิงคนใดที่ได้แต่ตามใจเอาใจสามี แม้เขาจะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แสดงว่าภรรยาคนนั้นหลงสามีเกินไป แล้วมักจะต้องเสียใจในภายหลัง
คำว่า “ภรรยา” มีคุณค่าและสูงส่งกว่าสตรีทั่วไปสำหรับผู้ชาย ก็ตรงที่กล้าที่จะเป็นหางเสือของเรือ ไม่ใช่ปล่อยให้เรือล่องลอยไปอย่างไร้ทิศทางและจุดหมาย กล้าหาญและมั่นคงในการจะเป็นช้างเท้าหลังยามที่เท้าหน้าตกหลุมหรือพลั้งพลาด ภรรยาทั้งหลายที่สูงส่งและทรงคุณค่ากว่านางบำเรอทั่วไป ก็เพราะมีหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยรักแท้ ในการเป็นหางเสือของเรือชีวิตให้กับเขา นอกไปจากจากการเอาอกเอาใจปรนนิบัติเขาในหน้าที่ของภรรยาตามปกติทั่วไป
ชายหนุ่มที่เป็นคนดีมีศีล จงกล้าแสดงออกซึ่งหัวใจต่อสตรีที่ตนรัก เพราะความรักเป็นสิ่งดีงาม เราจงกล้าหาญในการที่จะมอบสิ่งดีงามให้แก่สตรีที่เรารัก ความกล้าหาญในการที่จะอุทิศหัวใจและความรัก จะสร้างคุณสมบัติความเป็นลูกผู้ชายแท้ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
ชายหนุ่มที่เคยดูหมิ่นเหยียดหยามต่อสตรี จงเปลี่ยนมุมมองของหัวใจที่มืดและหม่นมัวนั้น ขอให้มองสตรีทั้งหลายในแง่ดีงามให้มากขึ้น หากยังคิดในแง่ดีอะไรยังไม่ได้ในตอนนี้ อย่างน้อยก็จงคิดว่า เธอก็คือมนุษย์ผู้ยังมีศักดิ์ศรี ดุจเดียวกับสตรีที่เป็นแม่ เป็นพี่สาวน้องสาวของเรา เพียงคิดได้เช่นนี้ โลกทัศน์ในการมองสตรีในแง่ดีก็จะค่อยๆมีมากขึ้น เมื่อวิบากกรรมผ่านพ้นไปแล้ว จิตที่ดีงามของเรา จะชักนำให้ได้พบกับสตรีที่มีจิตใจดีงามเป็นรางวัลของชีวิต
สตรีผู้รักความเป็นกุลสตรี จงอย่าหวั่นไหวต่อการรักนวลสงวนตัว อย่าให้ชายใดผู้มีใจกักขฬะหยาบช้า มาทำลายกลีบกุหลาบอันบอบบางและทรงคุณค่าของเรา หากแม้นว่าชาตินี้จะไม่มีบุรุษใดผู้คู่ควรมาเด็ดกุหลาบไปปักไว้ในแจกัน เราก็จะขอรักษาคุณความดีและพรหมจรรย์ไว้อย่างคงมั่น ดุจเดียวกับสตรีผู้เป็นนักบุญทั้งหลายได้ประพฤติมา
หากวันใดมีบุรุษผู้มองเห็นคุณค่า เราก็พร้อมที่จะมอบกายและใจเป็นเพชรเม็ดงามประดับชีวิตให้กับเขา และเราจะละพยศและความถือตัวทั้งปวง หลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเปลี่ยนพลังความเป็นกุลสตรี ให้เป็นพลังแห่งความรัก ความงดงาม หากเกื้อกูลทำสิ่งใดในวงกว้างไม่ได้ เราก็จะพยายามสร้างสวรรค์ในครอบครัวด้วยมือน้อยๆของเรา
ลูกผู้ชายต้องมีความกล้าหาญในการแสดงออกซึ่งหัวใจรัก ความเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริงและความเป็นผู้นำจึงจะบังเกิดขึ้น ลูกผู้หญิงต้องกล้าเปิดใจยอมรับ เมื่อความรักได้เคาะประตูเรียกโดยซื่อตรงต่อหัวใจ นี้คือหลักที่สภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลายพึงน้อมรับ
คนดีที่กล้าแสดงออกซึ่งความรักอันงดงามเช่นนี้ จะเป็นคนดีที่ช่วยสร้างสรรค์โลก จะเป็นคนดีที่ไม่คับแคบและเห็นแก่ความสุขของตัวเอง จะมีแต่พลังแห่งการช่วยเหลือเกื้อกูล
ความรักที่ประกอบด้วยคุณงามความดี มีความเข้าอกเข้าใจ เอื้อเฟื้อถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเช่นนี้ ท่านเรียกว่า “มนุษย์สมบัติ”
มนุษย์สมบัติ คือความรักความอบอุ่น ความสงสารเห็นใจซึ่งกันและกัน ความเข้าอกเข้าใจกันของหญิงชายในครอบครัว สวรรค์สมบัติ คือความรักที่สูงส่งที่เต็มเปี่ยมด้วยอุดมการณ์ แม้กายจะได้อยู่ใกล้กันหรือไม่ แต่ความรักก็เต็มเปี่ยมและซื่อสัตย์มั่นคงต่อกันเสมอ
การเป็นคนดี ที่มีความกล้าหาญในความรักเช่นนี้ จะอยู่เหนือความอกหักหรือความล้มเหลวในความรัก เพราะความรักจะสถิตมั่นอยู่ในหัวใจเช่นนี้ตลอดเวลา
คุรุอตีศะ
๒๙ มกราคม ๒๕๕๗