รักต้องกล้าแสดงออก

รักต้องกล้าแสดงออก

 


             มักได้ยินคำถามอยู่บ่อยๆว่า “ทำไมคนดีจึงมักอกหัก  ทำไมคนดีจึงมักล้มเหลวในความรัก?” เมื่อได้ยินคำถามเหล่านี้แต่ก่อนก็ไม่ค่อยได้คิดอะไร แต่เมื่อเขียนธรรมะไป ก็เกิดนึกเฉลียวใจในปัญหาข้อนี้ขึ้นมา  เราจึงน่าจะให้เวลากับการพิจารณาในเรื่องนี้กันสักวันหนึ่ง


             คนดี  โดยทั่วไปคือคนมีหิริโอตตัปปะสูง มีความระมัดระวังตนในการที่จะอยู่ในกรอบของศีลธรรม มีความอดทนอดกลั้นมีตบะในการควบคุมตัวเอง มีความละอายใจที่จะปล่อยตัวปล่อยใจให้ไหลไปตามแรงกิเลสตัณหา  นี้คือการใช้ส่วนของสมองมาคอยควบคุมบังคับตนเองให้อยู่ในกฎเกณฑ์ที่สังคมยอมรับ  คนดีทั้งหลายที่เรารู้จักโดยทั่วไปมักหมายถึงคนประเภทนี้


             ความรัก คือความรู้สึกที่แสดงออกผ่านทางหัวใจ ไม่ใช่จากสมองหรือเหตุผลทางศีลธรรมหรือความถูกต้องใดๆ  เรื่องของความรัก เรื่องของหัวใจไม่เกี่ยวกับความดี ความชั่ว ไม่เกี่ยวกับว่าถูกหรือผิด  เรื่องของหัวใจไม่ต้องการเหตุผลหรือขึ้นกับกฎเกณฑ์ใดๆ ไม่เกี่ยวกับฐานะ เกียรติยศ การศึกษา หรือชาติตระกูล  เรื่องความรักเป็นเรื่องของหัวใจสองดวงได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีขีดขั้น ไม่มีช่องว่าง นี้คือหัวใจของคนที่มีความรัก


              ยิ่งความรักระหว่างหนุ่มสาวหรือระหว่างชายหญิง  ซึ่งมีพลังงานอันสำคัญคือสัญชาตญาณความต้องการทางเพศหนุนหลังอยู่ด้วยแล้ว  จึงยากนักที่ความดีและหิริโอตตัปปะจะสู้ไหว  พลังของความรักจึงย่อมมีอานุภาพกว่าหลายเท่าและมีชัยอยู่เรื่อยไป


             ดังนั้นคนดีทั้งหลายที่ประเมินพลังแห่งความรักไว้ต่ำ จึงต้องแพ้พ่ายอย่างราบคาบมานักต่อนัก  คนดีทั้งหลายจึงพากันอกหัก  เพราะเข้าใจผิด ที่คิดจะเอาชนะความรักด้วยความดี


            ส่วนคนดีที่ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของอานุภาพความรัก ความรักของเขาและเธอจะกลายเป็นพลังสร้างสรรค์  เป็นความงดงาม  แต่คนดีที่เผลอเอากฎเกณฑ์ของตนไปใช้กับความรัก  มีโอกาสจะเป็นคนอกหักหรือเป็นคนล้มเหลวในความรักเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป


            ความเป็นคนดีที่เราใช้เป็นบรรทัดฐานในสังคม หรือที่ยึดถือกันเป็นค่านิยมอยู่ในสังคมปัจจุบัน แท้จริงแล้วเป็นความดีในระดับของ “วัฒนธรรมแบบวิคตอเรีย” ที่เริ่มมีต่ออิทธิพลต่อราชสำนักและสังคมของคนชั้นสูงมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๔


            ความดีแบบนี้คือความดีแบบ “ผู้ดี”ที่เรามักเรียกกัน  ความดีแบบเป็นผู้ดีนั้น คือความยึดมั่นในกฎเกณฑ์ในศีลธรรม วัฒนธรรม และประเพณีด้วยการกดข่มอารมณ์ เพื่อให้สังคมยอมรับว่า “เราคือคนดี”เป็นคนสูงส่ง แม้ว่าบางทีอาจไม่ใช่ความดีที่เกิดจากน้ำใสใจจริง เพียงแต่สวมหน้ากากเข้าหากันเท่านั้น  ความดีแบบนี้เป็นเพียงการทำให้ “คนอื่นยอมรับว่าเราดี” แต่ไม่มีความจริงใจต่อคุณความดีอย่างแท้จริง ความดีแบบนี้ย่อมเป็นคนละวิถีของเส้นทางแห่งอริยะ


             พูดอย่างไม่ต้องเกรงใจก็คือว่า ความดีแบบวัฒนธรรมวิคตอเรียหรือความดีแบบผู้ดีนั้น ยังไม่ใช่ความดีที่แท้จริง  ยกเว้นบุคคลนั้นจะประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลในธรรมด้วยความซื่อตรงต่อตัวเองอย่างแท้จริง ทำความดีด้วยความจริงใจ ไม่ใช่เพื่อให้ใครมาตัดสินหรือมาคอยชื่นชมว่าเราดี แต่เป็นการทำความดีเพื่อความดี และมีความสุข มีความเบิกบานจากการทำความดี


             หากเป็นคนดีที่ซื่อตรงต่อความดีได้แบบประการหลังนี้  จึงจะชื่อว่าเป็นคนดีจริง เป็นคนดีของพระอริยเจ้า เป็นคนดีของพระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นที่พึ่งของชาวโลก


             คนดีแบบพุทธะนี้  จะไม่ใช่ความดีที่จอมปลอมอีกต่อไป แต่เขาและเธอจะเป็นคนดีที่สูงส่งทางจิตใจ ที่จะไม่มีวันตกต่ำลงสู่ที่ชั่วอีกแล้ว  ดีอย่างสม่ำเสมอ ดีแบบไม่ขึ้นอยู่กับขี้ปากของใคร ดีแบบไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจ ไม่ว่าจะมีใครสรรเสริญหรือว่ามีใครนินทา


             คนดีที่ดีได้แบบนี้ จะมีความกล้าหาญในความรัก เพราะสติที่มีอยู่ประจำใจจะแยกแยะออกได้ชัดว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ โดยไม่ขึ้นกับคำติคำชมของปุถุชนคนหนาด้วยกิเลสทั้งหลาย


            ส่วนความดีแบบวัฒนธรรมวิคตอเรียหรือแบบผู้ดีนั้น  มักจะหลอกตัวเองและไม่ซื่อตรงต่อหัวใจตัวเอง  บางทีรักผู้หญิงแท้ๆก็แสร้งว่าไม่รักหรือแสร้งทำมายาว่าไม่สนใจ แล้วก็หลงภูมิใจในตัวเองว่ามีความดีอันยิ่งใหญ่ ที่สามารถบังคับหัวใจไม่ให้รักใครตามบัญชาของตัวเองได้  คนดีแบบนี้แหละที่ท่านว่าเป็นคนไม่ซื่อตรงต่อหัวใจ  ไม่เห็นคุณค่าของหัวใจ  ไม่มีความจริงใจให้ใครแม้แต่ความจริงใจที่ควรจะมอบให้แก่ตัวเอง


               มาถึงตรงนี้เราคงพอจะวินิจฉัยได้แล้วว่า เฉพาะคนดีที่ไม่มีความกล้าหาญในการจะมีความรักเท่านั้น  ที่จะเป็นพวกอยู่ในข่ายของคำถามข้างต้นที่ว่า “ทำไมคนดีๆจึงอกหัก? ทำไมมักมีแต่คนดีๆที่ล้มเหลวในความรัก?” คำตอบก็คือว่ารักตัวเองเกินกว่าจะมอบหัวใจให้ความรัก


              ที่ล้มเหลวในความรัก ก็เพราะเขาไม่กล้าหาญพอที่จะรัก เขาไม่มีความจริงใจพอที่จะแสดงออกซึ่งความรัก  และบางทีเขาก็รักตัวเองมากจนเกินไป มากจนกระทั่งกลัวว่าใครจะว่าตนเป็นคนไม่ดี   การเป็นคนดีที่ขาดความซื่อตรงต่อตัวเองเช่นนี้  จะทำให้ชีวิตนี้ขาดความรัก


             ผู้ชายที่เป็นสามีที่ดี ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรมไม่เคยประพฤติสิ่งใดให้นอกลู่นอกทาง  ต้องกล้าที่จะแสดงความหึงหวงเมื่อเห็นภรรยาของตนนั่งรถไปสองต่อสองกับชายอื่น ถ้าเราเกิดความหึงหวงและเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา หากฝ่ายหญิงเถียงขึ้นมาว่า “พี่คิดไปเอง พี่อย่าคิดมาก” ก็ต้องกล้าที่จะถามเธอกลับไปว่า “ตกลงว่าน้องจะเป็นภรรยาของไอ้เจ้าคนนั้น หรือจะเป็นภรรยาของพี่ ถ้าเป็นภรรยาของพี่ก็ต้องเชื่อฟังพี่ในเรื่องนี้” นี้คือสิ่งที่ต้องมีเมื่อเรายังต้องการความรักหรือยังมองเห็นว่าเธอคือภรรยา ไม่ใช่ไปวางเฉยเป็นพระอรหันต์เธอจะทำอะไรก็ไม่ว่า จนกระทั่งเธอนั้นบั่นทอนศักดิ์ศรี บั่นทอนจิตใจ จนเราสูญเสียความมั่นใจ เพราะเธอทำผิดใจเราไปเรื่อยๆ  เธอจะเข้าใจผิดคิดว่าว่า “ไม่เป็นไร” จนกระทั่งเธอเสียคนไปในที่สุด


                เมื่อรู้สึกหึงหวง จงซื่อตรงต่อความรู้สึกหึงหวงที่เกิดขึ้นจริง แต่จงมีสติระลึกในอาการหึงหวงนั้นไปด้วย แล้วก็กล้าพูด กล้าแสดงออกไปด้วยความมีสติ นั่นแหละคือการปฏิบัติธรรม


               สามีที่รักภรรยาแล้วครองตนอยู่ในศีลธรรม ต้องกล้าแสดงออกซึ่งความหึงหวงบ้างเป็นบางครั้ง  แต่หากตัวเองเป็นคนเจ้าชู้ ไม่สนใจศีลธรรมมาก่อน ต้องอดทนอดกลั้น อย่าแสดงอาการหึงหวงจนขาดสติและขาดเหตุผล  นี้คือข้อปฏิบัติที่ต่างกันของแต่ละบุคคลแต่ละชีวิต


                 ผู้ชายที่เป็นคนดีมีศีลธรรมประจำใจ หากรักภรรยาและตามใจภรรยามากเกินไป แทนที่ฝ่ายหญิงจะชื่นชมยกย่อง กลับจะลบหลู่ดูถูกว่าขาดความเป็นผู้นำและอาจลบหลู่ได้ถึงกระทั่งญาติพี่น้องและวงศ์ตระกูล  ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ธรรมชาติสตรีที่ขาดความเป็นกุลสตรีที่แท้จริงนั้น  หากให้อำนาจและตามใจมากเกินไป เธอจะมองเห็นสามีเป็นคนโง่คนหนึ่งและเหลิงอำนาจจนกลายเป็นภรรยาที่เสียคน  สามีจึงต้องกล้าตักเตือนเธอ เธอจึงจะรู้สึกว่าสามีรักเธอ เกิดความอบอุ่นและมีความสุข มีกำลังใจในการทำหน้าที่สร้างสวรรค์ในบ้าน


                  ผู้หญิงที่รักสามี จะกล้าตักเตือนสามีในสิ่งที่ตนเห็นว่าไม่ดี ไม่งาม ไม่ถูกต้อง ข้อนี้จะมีอยู่ประจำนิสัยของภรรยาที่ดีทั่วไป  หากผู้หญิงคนใดที่ได้แต่ตามใจเอาใจสามี แม้เขาจะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง  แสดงว่าภรรยาคนนั้นหลงสามีเกินไป แล้วมักจะต้องเสียใจในภายหลัง


                  คำว่า “ภรรยา” มีคุณค่าและสูงส่งกว่าสตรีทั่วไปสำหรับผู้ชาย ก็ตรงที่กล้าที่จะเป็นหางเสือของเรือ ไม่ใช่ปล่อยให้เรือล่องลอยไปอย่างไร้ทิศทางและจุดหมาย กล้าหาญและมั่นคงในการจะเป็นช้างเท้าหลังยามที่เท้าหน้าตกหลุมหรือพลั้งพลาด  ภรรยาทั้งหลายที่สูงส่งและทรงคุณค่ากว่านางบำเรอทั่วไป ก็เพราะมีหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยรักแท้ ในการเป็นหางเสือของเรือชีวิตให้กับเขา นอกไปจากจากการเอาอกเอาใจปรนนิบัติเขาในหน้าที่ของภรรยาตามปกติทั่วไป


                   ชายหนุ่มที่เป็นคนดีมีศีล จงกล้าแสดงออกซึ่งหัวใจต่อสตรีที่ตนรัก เพราะความรักเป็นสิ่งดีงาม  เราจงกล้าหาญในการที่จะมอบสิ่งดีงามให้แก่สตรีที่เรารัก  ความกล้าหาญในการที่จะอุทิศหัวใจและความรัก จะสร้างคุณสมบัติความเป็นลูกผู้ชายแท้ให้เกิดขึ้นในชีวิตของเรา


                  ชายหนุ่มที่เคยดูหมิ่นเหยียดหยามต่อสตรี  จงเปลี่ยนมุมมองของหัวใจที่มืดและหม่นมัวนั้น ขอให้มองสตรีทั้งหลายในแง่ดีงามให้มากขึ้น  หากยังคิดในแง่ดีอะไรยังไม่ได้ในตอนนี้ อย่างน้อยก็จงคิดว่า เธอก็คือมนุษย์ผู้ยังมีศักดิ์ศรี ดุจเดียวกับสตรีที่เป็นแม่ เป็นพี่สาวน้องสาวของเรา  เพียงคิดได้เช่นนี้ โลกทัศน์ในการมองสตรีในแง่ดีก็จะค่อยๆมีมากขึ้น  เมื่อวิบากกรรมผ่านพ้นไปแล้ว จิตที่ดีงามของเรา จะชักนำให้ได้พบกับสตรีที่มีจิตใจดีงามเป็นรางวัลของชีวิต


                    สตรีผู้รักความเป็นกุลสตรี  จงอย่าหวั่นไหวต่อการรักนวลสงวนตัว อย่าให้ชายใดผู้มีใจกักขฬะหยาบช้า มาทำลายกลีบกุหลาบอันบอบบางและทรงคุณค่าของเรา  หากแม้นว่าชาตินี้จะไม่มีบุรุษใดผู้คู่ควรมาเด็ดกุหลาบไปปักไว้ในแจกัน  เราก็จะขอรักษาคุณความดีและพรหมจรรย์ไว้อย่างคงมั่น  ดุจเดียวกับสตรีผู้เป็นนักบุญทั้งหลายได้ประพฤติมา


                    หากวันใดมีบุรุษผู้มองเห็นคุณค่า เราก็พร้อมที่จะมอบกายและใจเป็นเพชรเม็ดงามประดับชีวิตให้กับเขา  และเราจะละพยศและความถือตัวทั้งปวง หลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเปลี่ยนพลังความเป็นกุลสตรี ให้เป็นพลังแห่งความรัก ความงดงาม หากเกื้อกูลทำสิ่งใดในวงกว้างไม่ได้  เราก็จะพยายามสร้างสวรรค์ในครอบครัวด้วยมือน้อยๆของเรา


                   ลูกผู้ชายต้องมีความกล้าหาญในการแสดงออกซึ่งหัวใจรัก ความเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริงและความเป็นผู้นำจึงจะบังเกิดขึ้น  ลูกผู้หญิงต้องกล้าเปิดใจยอมรับ เมื่อความรักได้เคาะประตูเรียกโดยซื่อตรงต่อหัวใจ  นี้คือหลักที่สภาพบุรุษและสุภาพสตรีทั้งหลายพึงน้อมรับ


                 คนดีที่กล้าแสดงออกซึ่งความรักอันงดงามเช่นนี้  จะเป็นคนดีที่ช่วยสร้างสรรค์โลก จะเป็นคนดีที่ไม่คับแคบและเห็นแก่ความสุขของตัวเอง  จะมีแต่พลังแห่งการช่วยเหลือเกื้อกูล


                ความรักที่ประกอบด้วยคุณงามความดี มีความเข้าอกเข้าใจ เอื้อเฟื้อถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเช่นนี้  ท่านเรียกว่า “มนุษย์สมบัติ”


               มนุษย์สมบัติ คือความรักความอบอุ่น ความสงสารเห็นใจซึ่งกันและกัน ความเข้าอกเข้าใจกันของหญิงชายในครอบครัว  สวรรค์สมบัติ คือความรักที่สูงส่งที่เต็มเปี่ยมด้วยอุดมการณ์ แม้กายจะได้อยู่ใกล้กันหรือไม่ แต่ความรักก็เต็มเปี่ยมและซื่อสัตย์มั่นคงต่อกันเสมอ


              การเป็นคนดี ที่มีความกล้าหาญในความรักเช่นนี้ จะอยู่เหนือความอกหักหรือความล้มเหลวในความรัก เพราะความรักจะสถิตมั่นอยู่ในหัวใจเช่นนี้ตลอดเวลา

 

                                                                                                    คุรุอตีศะ
                                                                                             ๒๙  มกราคม  ๒๕๕๗