ขอเพียงกล้าก้าวเดิน

ขอเพียงกล้าก้าวเดิน

 


                  การเดินทางในภายนอก เราสามารถเตรียมการเดินทางได้ เตรียมค่าใช้จ่าย เตรียมที่พัก เตรียมอาหาร เราเตรียมได้แทบทุกอย่าง หลังจากได้เตรียมการจนมั่นใจดีแล้ว เราจึงออกเดินทาง แล้วทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เราต้องการ  การเดินทางทั่วไปจึงต้องมีการเตรียมการเป็นธรรมดา


                สำหรับเส้นทางชีวิต  เราไม่อาจอาศัยการเตรียมการแบบนั้นได้เสมอไป บางคนเตรียมการทุกอย่างมากมาย แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ออกเดิน  บางคนกลับเดินไปถึงจุดหมายโดยไม่ได้มีการเตรียมการอะไรเลย


               เมื่อยี่สิบปีก่อน  พระภิกษุหนุ่มในวัยสามสิบปี  ต้องการปลีกตัวออกจากความวุ่นวายในคณะสงฆ์อันตนหวังไว้ด้วยภาพอันสวยหรูว่า เป็นดินแดนที่จะสร้างสรรค์ให้ผู้คนได้เดินตามรอยพระอริยเจ้าตามที่เคยศึกษามา แต่เมื่อปรากฏว่าภาพอันสวยหรูที่ตนวาดไว้นั้น ไม่ได้เป็นตามที่หวังแต่อย่างใด


                หลังจากตระเวนค้นหาสถานที่ตั้งหลายแห่งและหลายจังหวัด เมื่อกาลเข้าพรรษาใกล้เข้ามา  ท่านได้มุ่งหน้ากลับถิ่นเกิดด้วยความหวังอีกเช่นเดียวกันว่า จะต้องได้รับการต้อนรับและความอบอุ่นหลังจากที่ตนได้จากไปตั้งแต่อายุสิบหกปี


                แต่สิ่งที่ได้รับจากการต้อนรับจากคนทั้งหลายก็คือ จากที่บอกให้ญาติที่ไว้ใจช่วยทำกระท่อมหลังเล็กๆพอคุ้มแดดคุ้มฝนไว้ให้ ในสวนของบ้านที่ร้าง เพื่อจะพักอาศัยสักสามเดือนก็จะจาริกธุดงค์ต่อไป  แต่ก็ไม่มีใครทำให้แม้แต่คนเดียว


               เมื่อมาถึงสถานที่ในเวลาบ่าย  ไม่มีสิ่งใดต้อนรับไว้แม้แต่น้อย พ่อถึงกับร้องไห้ที่เห็นพระลูกชายมาอยู่ในสภาพสิ้นไร้ไม้ตอก ถามขึ้นตามประสาความเป็นห่วงของพ่อที่มีต่อลูกว่า “จะกลับไหม?”


               พระหนุ่มผู้เคยมีทั้งวุฒิการศึกษา มีหน้าที่การงานอันมีเกียรติ สอบเข้ารับราชการในสายงานได้ที่สามของประเทศ แต่บัดนี้ไม่มีอนาคต ไม่มีสิ่งใด ฉันอาหารมังสวิรัติ เงินบาทเดียวก็ไม่มี รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ เพราะความเป็นผู้เคร่งพระวินัยปรารถนาเดินตามรอยพระอรหันต์ ได้แต่ตอบสั้นๆแก่พ่อว่า “จะอยู่นี่ แม้ว่าจะไม่มีอะไรก็ตาม” พ่อก็ยอมจำนนไม่รบเร้าตั้งคำถามอะไรอีกด้วยความที่รู้ใจพระลูกชายว่า เมื่อมุ่งหน้าทำสิ่งใด จะต้องทำให้สำเร็จ เป็นอย่างนั้นมาเสมอ


               วันรุ่งขึ้นท่านเอาบาตรพระธุดงค์ออกมาอธิษฐานแล้วเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ออกเดินบิณฑบาตรอบหมู่บ้านปรากฏว่าได้ข้าวสามทัพพี เพราะธรรมเนียมที่ได้รับการอบรมมา การบิณฑบาตที่จะได้อาหารที่บริสุทธิ์จะไม่มีการบอกล่วงหน้า แต่ให้เดินไปด้วยอาการสำรวมมีสติในการเข้าสู่หมู่บ้าน การจะได้อาหารหรือไม่แล้วแต่ศรัทธาและโอกาสที่จะได้ทำบุญของใครๆ แต่การปฏิบัติในถิ่นนั้นทั่วไป ต้องไปแจ้งผู้ใหญ่และให้คนไปประกาศเขาจึงจะออกใส่บาตรกัน ด้วยความที่ธรรมเนียมที่ผิดกัน ที่ท่านนั้นไม่เคยรู้มาก่อนเพราะจากไปตั้งแต่ยังเด็ก สุดท้ายก็เลยได้ข้าวสามทัพพีที่ไม่มีกับข้าวแต่อย่างใดทั้งที่เป็นถิ่นเกิดของตัวเอง


                 พ่อได้เดินมาถามด้วยความห่วงใยอีกว่า “จะอยู่ได้ไหม?” พร้อมกับมีสีหน้าที่หวาดหวั่นต่ออนาคตเป็นที่สุด พระหนุ่มได้ตอบว่า “ได้ก้าวเดินออกมาแล้ว จะไม่มีการหวนกลับอีก แม้จะอดตายอยู่ตรงนี้ และตากฝนอยู่ใต้ต้นมะม่วงจนตลอดพรรษา ก็จะอยู่จนกว่าจะพ้นพรรษา”  แล้วท่านก็ก้มหน้าฉันอาหารในบาตรที่ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ที่สุดมื้อแรกนั้นโดยไม่วิตกต่อสิ่งใด  ได้แต่คิดอยู่ในใจว่า  หากบุญบารมีจะได้อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ไซร้ หากที่ตรงนี้จะได้เป็นที่พึ่งของคนอื่นต่อไป จะต้องมีคนมาสร้างบารมีค้ำจุนให้สิ่งต่างๆเดินต่อไปในภายหน้าได้


                  หลังจากจำวัดตากฝนตากน้ำค้างท่ามกลางงู ตะขาบ แมลงป่องด้วยความหลับสนิทตลอดทั้งคืน ตกตอนบ่ายในวันถัดมา ก็มีคณะของบุคคลได้มาช่วยกันสร้างกุฏิหลังแรกราคา ๕๐๐ บาทถวายโดยใช้เวลา ๕ ชั่วโมง  นั่นคือสถานที่อันผาสุกที่สุดในชีวิต ที่ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา แม้ไม่ได้กางกลดตลอดพรรษาเพราะหลังคาต่ำเกินไป แต่ก็ไม่มียุงมารบกวนแม้แต่น้อย  สวรรค์บนดินได้เริ่มต้นขึ้นจากการไม่มีสิ่งใด นอกจากกำลังใจที่เต็มเปี่ยมเท่านั้น


                  วันเวลาผ่านไปยี่สิบปีบริบูรณ์  กระท่อมหลังนั้นไม่เหลือร่องรอยให้ใครเห็นอีกแล้ว บัดนี้มีกุฏิเพิ่มขึ้นในสถานที่แห่งนั้นมากมาย จนเลือกไม่ถูกว่าจะอยู่หลังไหน จึงจะฉลองศรัทธาของเจ้าภาพได้ทั่วถึง  จากที่มีคนปั่นจักรายานมาทำบุญเพียง ๑ บาท บัดนี้ เคยมีคนนำเงินมาถวาย ๑ ล้าน เพื่อสร้างสาธารณประโยชน์แก่คนทั้งหลาย  จากแต่ก่อนมีแต่คนเลี้ยงควายผ่านเข้ามา  บัดนี้ปรากฏว่าแทบไม่เคยมีวันใดที่จะไม่มีรถเก๋งยี่ห้อทันสมัยมาเยี่ยมเยียน


                 เส้นทางของชีวิตมักไม่มีการเตรียมพร้อม และส่วนใหญ่ชีวิตก็มักไม่ค่อยอนุญาตให้เราเตรียมการสิ่งใด  เพราะถ้าเตรียมการได้แบบการเดินทางท่องเที่ยวทั่วไป ผู้คนทั้งหลายก็คงไม่มีความวิตกกังวลมากมายอย่างที่กำลังเป็นกันอยู่  นี้คือเสน่ห์ของชีวิตที่เราควรยอมรับ


                 บางคนเริ่มต้นชีวิตคู่โดยไม่ได้มีการเตรียมการอะไรเลย  บางคนค่ารถค่าเดินทางที่จะพากันหนีตามกันมาในวันนั้นแทบไม่มี บางคนสร้างรังรักจากไม่มีอะไร ได้แต่กินไข่ต้ม ต้มไข่ และไข่ต้มเป็นอาทิตย์ก็มี  ต่อมาภายหลังกลับมีรถราคาเป็นล้านจอดในบ้านตั้งสามคัน แล้วยังมีอำนาจบารมีช่วยฝากงานให้ญาติพี่น้องลูกหลานเป็นที่พึ่งของใครต่อใคร


                 “ขอเพียงกล้าที่จะก้าวเดิน” สิ่งนี้สำคัญที่สุด  หากกำลังใจพร้อมแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างจะมีความพร้อมตามมา  ใจดวงนี้แหละจะเนรมิตทุกสิ่งให้เกิดขึ้นตามมาในภายหลัง


                  จงกล้าที่จะก้าวต่อไปเถิด หากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่หัวใจของเราปรารถนา  เราอาจไม่ต้องถึงขั้นนอนตากฝนท่ามกลางอสรพิษร้ายเหมือนพระภิกษุหนุ่มรูปดังกล่าวข้างต้น   เราอาจไม่ต้องถึงขั้นทุกข์ยากแบบหนุ่มสาวที่รักกันแล้วเอาอนาคตเป็นเดิมพัน ต้องกินแต่ไข่ต้มทุกวันในการเริ่มสร้างตัว


                  ขอเพียงเรากล้าก้าวเดินด้วยความไว้วางใจตนเอง  อนาคตของเราอยู่ในกำมือของเรานี้เอง  อุปสรรคในวันนี้  คือความสำเร็จที่รอเราอยู่ข้างหน้า  ขอจงกล้าก้าวเดินต่อไป

 


                                                                                                    คุรุอตีศะ
                                                                                             ๒๘  มกราคม  ๒๕๕๗