กว่าจะรู้เดียงสา

กว่าจะรู้เดียงสา

 


            ชีวิตกว่าจะรู้อะไรเป็นอะไร  บางทีก็ต้องใช้เวลาตั้งครึ่งชีวิตกว่าจะได้เรียนรู้และเข้าใจ  บางคนต้องใช้เวลาเรียนนานทั้งชีวิตจึงจะเข้าใจก็มี  และสำหรับหลายคนนั้น  ตลอดทั้งชีวิตก็ยังไม่อาจทำความเข้าใจ และได้ตายไปกับความไม่เข้าใจในหลายๆเรื่องก็มีไม่น้อย


             บางชีวิตเริ่มต้นครอบครัวด้วยการที่ฝ่ายชายให้เกียรตินับแต่เริ่มตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน  ฝ่ายหญิงก็เลยเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและจัดการงานทุกอย่างด้วยความเรียบร้อยทุกประการ  ชาวบ้านและผู้คนทั้งหลายต่างพากันชมว่าเป็นผู้หญิงเก่งทั้งในบ้านนอกบ้าน  อยู่ไปนานๆความเก่งเหล่านั้นได้ทำให้ตนเองเกิดความเหลิงอำนาจ จนกระทั่งนึกดูหมิ่นสามีของตัวเองอยู่ในใจลึกๆว่าไม่เป็นผู้นำและไม่มีความสามารถเหมือนสามีของบ้านอื่น


              กว่าจะรู้ว่าที่ตัวเองมีโอกาสแสดงความสามารถจนเป็นที่ชื่นชมของคนทั้งหลาย ก็เพราะสามีของตนเป็นสุภาพบุรุษที่ให้เกียรติสตรีและได้มอบหมายหน้าที่ให้ทำด้วยความไว้วางใจ โดยที่เขารักเราอย่างแท้จริงโดยปราศจากเงื่อนไขว่าใครจะมีบทบาทมากกว่ากัน


             แต่เรานั้นไปหลงคำสรรเสริญเยินยอของชาวบ้าน จนกระทั่งมาดูหมิ่นสามีตัวเองว่าไร้ความเป็นผู้นำ  กว่าจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเพียงแต่ยกย่องให้เกียรติเราเท่านั้น แต่ศักยภาพความเป็นผู้นำในฐานะลูกผู้ชายเขามีอยู่เต็มตัว  กว่าจะรู้เดียงสาในเรื่องนี้ เราก็พลาดไปมากแล้วจนเกือบจะสายเกินไป


             บางชีวิตได้ภรรยาโดยไม่ได้เตรียมตัวและไม่ได้ตั้งใจมาก่อน  แต่เมื่อได้เสียกันแล้ว ในฐานะที่ตนเป็นสุภาพบุรุษที่รู้ตัวและสำนึกว่าได้ไปทำลายหญิงสาวผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสา  จึงยอมรับแล้วเลี้ยงดูยกย่องว่าเป็นภรรยา หลังจากนั้นก็ตั้งใจฟันฝ่าพากันสร้างฐานะเพื่อเอาชนะการดูถูกเหยียดหยามของญาติพี่น้องและผู้คน  จนกระทั่งเวลาผ่านไปอันยาวนาน ก็สามารถสร้างหลักฐานจนลืมตาอ้าปากได้  มีฐานะและมีเกียรติปรากฏต่อใครๆ จนผู้คนทั้งหลายต่างพากันลืมอดีตไปหมดแล้วในสิ่งที่ผ่านมา


              เมื่อถึงวันที่ชีวิตที่ผ่านพ้นคนดูถูก  เราไม่เคยนึกเฉลียวใจมาก่อนเลยแม้แต่น้อยว่า เด็กสาวตัวน้อยๆที่ดูไร้เดียงสาในสายตาของใครๆในอดีต เธอจะผูกอาฆาตและจองเวรตระกูลของเราไว้เมื่อสมัยเธอถูกเหยียบย่ำและเหยียดหยามเมื่อครั้งกระโน้น  จนกระทั่งเธอได้ทำลายเกียรติและทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลด้วยการไปมีคนใหม่ด้วยอำนาจแห่งการจองเวร  เราไม่เคยนึกเลยว่าเธอจะทำตัวตกต่ำเพื่อให้ผู้อื่นต้องเจ็บช้ำได้ถึงเพียงนั้น

 

              กว่าจะรู้เดียงสาว่า แท้จริงแล้วมนุษย์ผู้ที่ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาสมัยรุ่นสาว อาจมีความอาฆาตพยาบาทและกลายเป็นนักทำลายในยามที่ได้อำนาจอย่างคาดไม่ถึงก็ได้  กว่าจะรู้น้ำใจที่แท้จริงก็จนกระทั่งทุกสิ่งได้สายไปเสียแล้ว  แต่ก็เป็นผลดีที่ทำให้เราซาบซึ้งและเข้าใจในความไม่แน่นอนของสรรพสิ่งยิ่งขึ้น


                  เรื่องราวอันมากมายของหลายคนหลายชีวิต ล้วนเป็นสิ่งที่เกินกว่าที่เจ้าของชีวิตจะลิขิตให้เป็นไปดั่งใจของตนได้  ดังนั้น  สิ่งที่สำคัญจึงไม่ใช่ต้องคอยให้สิ่งใดสมหวังดังใจ  แต่คือการประกอบการบุญการกุศลและและประคองใจให้อยู่กับชีวิตจริงในขณะนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด


                   เราไม่อาจเอาหัวใจของเราไปมอบให้ใครได้อย่างที่เพลงทั้งหลายชอบร้อง เพราะความจริงแล้วไม่มีใครมอบหัวใจให้ใครได้ นอกจากพูดเพื่อบ่งบอกความรู้สึกภายในที่มีต่อกันเท่านั้น  และที่เรามาพบกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน และแต่งงานกัน  ก็เพราะ “กฎแห่งกรรม”ที่ลิขิตให้เป็นไป เราจงพอใจในทุกสิ่งที่ชีวิตให้มา


                  แต่ละคนล้วนเปรียบดังนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชีวิต อันเป็นมหาวิทยาลัยอันกว้างใหญ่และไร้ขอบเขต มีตัณหาอุปาทานเป็นอธิการบดี  และมีความสุข ความทุกข์ การได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา เป็นศาสตราจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คอยพร่ำสอนทั้งกลางวันและกลางคืน


                 ท่านศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญสอนเราได้เสมอ ไม่มีวันหยุด ไม่มีการปิดภาคการศึกษา  ท่านสอนเราได้ตลอดเวลา โดยไม่คำนึงถึงผู้เรียนแม้แต่น้อยว่าจะสอบตกกี่ครั้งก็ตาม


                  ตัวเรานี้จะขอเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชีวิตที่เจียมตัวกับเขาสักคนหนึ่ง ไม่หวังว่าจะได้ที่หนึ่ง สอง สาม หรือได้เกียรตินิยมแม้แต่น้อย เพราะรู้สึกว่าแต่ละวิชาช่างเรียนยากนักสำหรับเรา มักจะได้รางวัลคือน้ำตาพร้อมทั้งสอบตกวิชานั้นๆเสียทุกที  คงเป็นเพราะตัวเรานี้สมองทึบมากกว่าใคร ต้องใช้ความอุตสาหะมากกว่าคนอื่นสองเท่า  จึงจะเข้าใจในแต่ละบทเรียน แต่ละรายวิชา


                 เพื่อนที่แสนดีและซื่อสัตย์ที่อยู่เคียงข้างเราเสมอ กลับไม่ใช่มนุษย์อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่คือน้ำตาที่หลั่งไหลยามหัวใจน้อยๆดวงนี้ถูกบีบคั้นต่างหาก  แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ทำให้หัวใจของเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น  ความสุขและความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ล้วนมาทำให้หัวใจดวงนี้มีความแตกฉานในชีวิตมากกว่าแต่ก่อน


                 เราจะขอเป็นนักเรียนประเภท “เรียนดีแม้จะยากจน”  จะขยันหมั่นเพียรและอดทนในการเล่าเรียนเสมอแม้จะได้ชื่อว่าเป็นคนหัวทึบ แต่สิ่งหนึ่งที่เราพอจะอวดใครต่อใครได้ก็คือ การไม่ยอมเลิกเรียนไม่ว่าจะยากจนหรือหมองหม่นสักเพียงใด  จนกว่าจะเข้าใจในบทเรียนแห่งชีวิตตามอย่างพระอริยเจ้าทั้งหลาย


                 เราขอสัญญาว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยอันยิ่งใหญ่นี้เรื่อยไป  จนกว่าหัวใจดวงนี้จะรู้เดียงสาและไม่มีคราบน้ำตาให้ใครๆเห็นอีกแล้ว

 


                                                                                             คุรุอตีศะ
                                                                                      ๒๑  มกราคม  ๒๕๕๗