ช้างศึกในสงคราม

ช้างศึกในสงคราม

 

                  การมีชีวิตอยู่ท่ามกลางผู้คนของบุคคลผู้บำเพ็ญบารมี  จะเลือกเอาแต่สิ่งดีๆ ที่ถูกอกถูกใจหาได้ไม่   แต่ต้องอดทนอดกลั้นและต้องใช้สติปัญญายิ่งกว่าคนธรรมดาอย่างน้อยสองเท่า  จึงจะทำให้การบำเพ็ญบารมีนั้นๆเกิดผลสำเร็จและชนะอุปสรรคทั้งปวง


                  คนธรรมดาทั่วไปไม่ว่าใครก็ตาม  ล้วนปรารถนาความสำเร็จ ความสมหวัง พบแต่สิ่งดีๆ พบแต่คนดีๆด้วยกันทั้งสิ้น  การได้เสวยสุขที่ได้รับแต่สิ่งที่ดีและประณีตเช่นนั้น  ท่านเรียกชีวิตเช่นนั้นว่า “เทวดาหรืออยู่ในสวรรค์”  แต่เมื่อเทวดาเหล่านั้นประสงค์จะลงมาสร้างบุญกุศลหรือบำเพ็ญบารมีต่อ  ก็ต้องลงมาเกิดในมนุษยโลกเพื่อการบำเพ็ญบารมีของตน


                 สวรรค์นั้น  เป็นภูมิสถานสำหรับเสวยผลแห่งกรรมดีของสัตว์  แต่เมื่อหมดบุญที่เคยทำไว้ ก็ต้องลงมาเกิดใหม่เพื่อสร้างความดีในโลกมนุษย์  เพราะสวรรค์เป็นเพียงภูมิสำหรับเสวยผลแห่งกรรมดี  แต่ไม่ใช่สถานที่สำหรับสร้างบารมีหรือบำเพ็ญบุญกุศล


                แม้แต่พระโพธิสัตว์เจ้าที่มีบารมีใหญ่กว่าคนสามัญทั่วไป  เวลาจะบำเพ็ญบารมีทั้งสิบให้ยิ่งยวดขึ้นไป  ก็ยังต้องลงมาอาศัยโลกมนุษย์นี้ในการบำเพ็ญบารมีให้สำเร็จ


                การเสวยผลแห่งกรรมดีที่มีแต่ความสุข มีแต่สิ่งดีและประณีต มีแต่สิ่งอันเลิศ คือการมีชีวิตอยู่แบบเทวดาหรือในสรวงสวรรค์

 

               แต่สำหรับมนุษย์ผู้อธิษฐานบำเพ็ญบารมีนั้น  จะต้องได้อยู่ท่ามกลางสังคมที่มีทั้งคนดีและคนชั่ว  จะต้องพบกับการเบียดเบียนเอารัดเอาเปรียบ จะต้องได้พบกับคนที่ปราศจากคุณธรรม  จะต้องได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่พิการไม่สมประกอบ  จะได้พบกับสิ่งที่ไม่ชอบมากกว่าสิ่งที่ชอบ  เพราะนั่นคือวิถีแห่งการบำเพ็ญบารมี  หรือวิถีแห่งการอนุเคราะห์เกื้อกูล


                เทวดาที่ลงมาสร้างบารมีหรือมนุษย์ที่เกิดมาใหม่เพื่อสร้างบารมี  โดยเนื้อแท้ภายในจิตใจจะเป็นคนที่ซื่อตรงต่อความดี  มีอัธยาศัยประณีต  รักในการสร้างบุญกุศลเป็นพื้นนิสัย  แต่ชะตาชีวิตจะถูกลิขิตให้ไปอยู่ท่ามกลางผู้คนที่สังคมคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการ  เช่น อยู่ท่ามกลางคนพิการ คนบ้า คนยากจน คนไม่สมประกอบ คนกำพร้า คนมีปมด้อยในชีวิต

 

                ต้องต่อสู้กับสังคมที่ไม่ค่อยมีคุณธรรมหรือไร้คุณธรรม  ได้ใช้ชีวิตท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่ขาดศีลธรรม  เพราะการอยู่ในสังคมและสิ่งแวดล้อมเช่นนั้น  ต้องใช้กำลังใจอันใหญ่หลวงและต้องมีขันติบารมีกว่าการอยู่ท่ามกลางคนดีหรือสิ่งแวดล้อมที่ดีหลายเท่า  เมตตาบารมีอันยิ่งใหญ่ย่อมเกิดขึ้นมาได้ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมและผู้คนที่สังคมทอดทิ้งและทุกข์ยากเหล่านั้น


                    พระพุทธองค์ผู้ทรงมีอภินิหารอันยิ่งใหญ่  มีดวงพระหฤทัยมุ่งเกื้อกูลสัตว์โลกยิ่งกว่าพวกเราทั้งหลาย  แม้กระนั้นพระองค์ก็ยังทรงถูกชาวเมืองโกสัมพีขับไล่และด่าด้วยถ้อยคำอันหยาบคาย  เพราะชาวเมืองเชื่อคำยุยงของนางมาคัณฑิยา  จนกระทั่งท่านพระอานนท์ทนไม่ไหวกราบทูลขอให้พระองค์เสด็จไปเมืองอื่นแทนที่จะถูกชาวเมืองรุมด่าทุกวันเช่นนี้  แต่พระองค์กลับตรัสว่า....


                   “อานนท์  เราตถาคตเปรียบเหมือนพญาช้างซึ่งก้าวลงสู่สงคราม   การอดทนต่อลูกศรที่ยิงมาจากทิศทั้งสี่  เป็นภาระหน้าที่ของช้างที่ย่างก้าวเข้าสู่สงคราม ฉันใด  การอดทนอดกลั้นต่อการล่วงเกินของผู้คนทั้งหลาย  ย่อมเป็นภาระหน้าที่ของเราตถาคต ฉันนั้น   เพราะว่า  ในโลกนี้คนส่วนใหญ่  เป็นผู้ไม่มีศีล”


                   นี้คือน้ำพระหฤทัยของผู้ทรงมหากรุณาธิคุณของชาวโลก  พระองค์ทรงตรัสกับพระอานนท์ให้ยอมรับความจริงในการอยู่ท่ามกลางผู้คนว่า  เป็นหน้าที่ของพระองค์ที่ต้องอดกลั้นต่อการล่วงเกินของปุถุชนคนไม่มีศีล  เหมือนพญาช้างศึกที่ก้าวลงสู่สงคราม  ก็ต้องอาจหาญและยอมรับลูกศรที่ยิงมาจากทิศทั้งสี่  เพราะปุถุชนคนส่วนใหญ่ในโลกนี้ เป็นคนไม่มีศีล  ไม่มีคุณธรรม 

 

                 พวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว  อะไรผิดอะไรถูก  พวกเขามีความทุกข์ความมืดมนจากโมหะอวิชชา  จะไปถือสาพวกเขาไม่ได้  นี้คือน้ำพระทัยและวิสัยของพระโพธิสัตว์  ซึ่งแม้เราจะทำอย่างท่านไม่ได้  แต่สามารถ “โอปนยิโก” น้อมเข้ามาเป็นกำลังใจในการสร้างคุณงามความดีและบำเพ็ญบุญบารมีต่อไปได้


                  เมื่อตั้งใจทำในสิ่งที่ดี เป็นบุญ เป็นกุศล  เราต้องมีคุณสมบัติแห่งความอดทนและมีเมตตาอย่างมากในการอยู่ท่ามกลางผู้คนทั้งหลาย  ต้องอดทนในสิ่งที่คนอื่นทนไม่ได้  ต้องทำในสิ่งที่คนทั่วไปทำไม่ได้หรือไม่อยากทำ การสร้างบารมีในแต่ละขั้นจึงจะสำเร็จ  จึงจะสมศักดิ์ศรีของช้างศึกที่ก้าวลงสู่สงคราม


                 เมื่อตัดสินใจทำความดี  ตั้งใจอธิษฐานบำเพ็ญบารมี  เราจะต้องไม่หวาดหวั่นต่อลูกศรที่ข้าศึกระดมยิงมาจากทิศทั้งสี่  เพราะการยิงลูกศรเป็นหน้าที่ของข้าศึก  แต่ความกล้าความบากบั่นอดทนต่อสิ่งต่างๆคือหน้าที่ของเรา


                การสร้างความดี  อาจมีการท้อแท้บ้างในบางครั้ง  เพราะเหมือนช้างโดนลูกศรเป็นธรรมดาต้องได้รับความเจ็บปวด  แต่เมื่อบากบั่นอุตสาหะทำสงครามต่อไป  เมื่อประสบชัยชนะ พญาช้างย่อมได้รับเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ชดเชยความเจ็บปวดนั้นหลายเท่า  เรายอมเจ็บปวดบ้างในวันนี้  เพื่อความดีอันยิ่งใหญ่ในวันหน้า   นี้คือชีวิตของบุคคลที่เกิดมาเพื่อสร้างคุณงามความดี


               เราจะไม่เป็นเพียงเทวดาผู้รักความสบายเอาแต่คิดเสวยสุขในสวรรค์  แต่จะเป็นเทวดาผู้ฉลาดทรงปัญญาที่มุ่งสร้างบารมีเป็นสำคัญ   พร้อมที่จะเหนื่อยยากมุ่งทำประโยชน์เกื้อกูลผู้คนให้กว้างไกล


              อดทนได้เสมอต่อการล่วงเกินใดๆ อดทนได้ต่อความเข้าใจผิดทั้งปวง เพราะเรามิใช่ช้างน้อยที่เอาแต่เดินเที่ยวชมเล่นในป่าใหญ่  แต่คือช้างตัวที่ได้รับเกียรติได้รับคัดเลือกให้ทำหน้าที่อันเกรียงไกร  นั่นคือการเป็นช้างศึกที่ได้รับความไว้วางใจ ในการนำพระราชาผู้กล้าหาญก้าวลงสู่สงคราม


              ความสุขของพญาช้างก็คือความภาคภูมิใจ ที่สามารถอดทนอดกลั้นต่อความแหลมคมของลูกศรของข้าศึกได้  แล้วกลายเป็นพญาช้างที่ชนะศึกอย่างเด็ดขาดในสงคราม

 

              ชีวิตของผู้บำเพ็ญบารมีและเกิดมาเพื่ออนุเคราะห์เกื้อกูลชาวโลกก็เช่นนั้น

 

                                                                                               คุรุอตีศะ
                                                                                        ๗  มกราคม  ๒๕๕๗