ความลำบากช่วยสร้างคน
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ความลำบากช่วยสร้างคน
ไม่ต้องการความลำบาก ก็อย่าอยากมีความก้าวหน้า ไม่อยากพบกับปัญหา ก็อย่าคิดอ่านสร้างสรรค์อะไร หากต้องการชีวิตที่ก้าวหน้าและสดใส ต้องฝึกใจให้แข็งแกร่ง ด้วยการกล้าเผชิญกับปัญหาเสียแต่วันนี้ นี้คือกฎเกณฑ์พื้นฐานของการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และการมีชีวิตที่คุ้มค่าตลอดมาทุกยุคสมัย
หากเราพอใจจะรับเอาแต่ความสบาย ก็จงอย่าได้คิดอ่านทำการงานอะไร และเมื่อเห็นใครเขาก้าวหน้าและประสบความสำเร็จก็อย่าได้คิดอิจฉาริษยา หรือทอดถอนใจว่า “ชีวิตของเรานี้ช่างอาภัพ”เป็นอันขาด เพราะนั่นคือความยุติธรรมที่ชีวิตมอบให้อย่างเท่าเทียมกับผู้อื่นแล้ว
ชีวิตที่ผ่านความทุกข์ยากลำบาก คือปริญญาบัตรอันแท้จริงในการวัดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ไม่เคยมีใครรู้สึกเคารพนับถือบุคคลที่รักแต่ความสบายหรือกินแรงของคนอื่น ชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบไม่เคยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่หัวใจของใคร ชีวิตที่มีแต่ความสบายไม่เคยเป็นตัวอย่างให้แก่ใครได้ ทั้งไม่ได้เป็นชีวิตที่ให้ประโยชน์ต่อใครและไม่มีคุณค่าอะไรประดับไว้ให้แก่โลก
จงน้อมรับเอาความยากลำบากที่กำลังเกิดขึ้น มาเป็นพลังสร้างสรรค์ความดีงามและเพิ่มพูนคุณธรรมในหัวใจของเรา ในขณะที่ทุกคนทอดทิ้งหมดอาลัยไม่ยอมเปลืองตัวและละทิ้งให้เราเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง นั่นคือโอกาสที่มาถึงแล้วที่เราจะได้บำเพ็ญบารมีและสร้างความดีอย่างยิ่งยวด
โอกาสในการสร้างคุณความดีอย่างยิ่งยวดมิได้เกิดขึ้นได้ง่ายนัก บางคนกลับไม่เคยมีโอกาสนั้นตลอดชีวิตก็มี ส่วนเราคือผู้โชคดี ที่โอกาสอันยิ่งใหญ่มาถึงแล้วอย่างไม่ต้องแสวงหาให้เหนื่อยยากอีก
เพียงเรากล้าหาญ กล้ารับผิดชอบ กล้าเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ด้วยความมีสติ พร้อมกับมีหัวใจที่ไม่ไหวหวั่น เพียงเท่านั้นชัยชนะและความสำเร็จก็รอเราอยู่ค่อนทางแล้ว
เอาความยากลำบากนี้แหละเปลี่ยนให้เป็นตัวบารมี เอาโอกาสที่ทุกคนทิ้งให้เราเผชิญกับปัญหาโดยลำพังนี้ เป็น “หนทางแห่งความดี” ที่เราจะทำได้อย่างยิ่งยวดและเต็มที่
เราจะไม่มีวันต้องคุกเข่าให้กับอุปสรรคปัญหาใดๆ เพราะความมั่นใจและความมีศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยมว่า “แท้จริงแล้วสิ่งเหล่านี้คือปูนที่โบกไว้ให้ดูขรุขระในภายนอก แต่เนื้อแท้ที่อยู่ข้างในนั้นคือทองคำอันอร่าม รอให้เรากะเทาะเข้าไปเท่านั้น”
เกิดเป็นคน อย่าได้กลัวความลำบาก เพราะนั่นคือมหาวิทยาลัยที่ทุกคนต้องสอบผ่าน จึงจะเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้
อย่าเข้าใกล้ผู้ที่มีหัวใจรักแต่ความสบาย และอย่าคลุกคลีกับคนที่มีหัวใจที่อ่อนแอ เพราะเขาจะทำลายและดึงดูดพลังที่เข้มแข็งของเราไป
จงศรัทธาและเชื่อมั่นว่า “ชีวิตย่อมทรงความยุติธรรมเสมอ” แม้ว่าจะมีผู้รู้และนักปราชญ์ประกาศต่อเรา ไม่ให้เรายอมแพ้และกล้าเผชิญกับความลำบาก แต่นั่นก็เป็นเพียงช่วงต้นของละครชีวิตเท่านั้น ที่บุคคลจะต้องมีชีวิตที่ทุกข์ยากลำบากเช่นนั้น
เมื่อเขาได้ยอมรับเอาความลำบากมาไว้อย่างเต็มเปี่ยม และกล้ารับผิดชอบ กล้าเผชิญด้วยความไม่ย่อท้อ หลังจากนั้นความลำบากจะแปรสภาพจากแร่ธาตุธรรมดากลายเป็นทองคำ ละครชีวิตของเขาตอนต่อไปจากนั้น เขาจะพบกับความสบายยิ่งกว่าคนรักสบายสิบเท่า นี้คือความยุติธรรมของชีวิต
ไม่เคยมีบุรุษหรือสตรีใดไม่ว่าจะอยู่ ณ มุมใดของโลก ที่ประสบความก้าวหน้าและความสำเร็จได้โดยไม่ผ่านความลำบาก ทุกคนทุกท่านล้วนอาศัยความยากลำบากและอุปสรรคปัญหาอันมากมายนั่นเอง ในการเป็นสะพานเพื่อก้าวขึ้นสู่ที่สูงจนปรากฏให้คนทั้งหลายยอมรับได้ ทุกชีวิตที่ประสบความสำเร็จล้วนสำนึกและขอบคุณต่อความทุกข์ยากลำบากทั้งปวงในการช่วยหล่อหลอมให้พบความสมหวังในวันนี้ทั้งสิ้น
หากจะต้องคุกเข่าต่อความทุกข์ยากลำบาก เราจะไม่คุกเข่าเพราะความจนมุมหรือท้อแท้สิ้นหวังต่อปัญหาหรือความลำบากนั้น แต่เราจะคุกเข่าเพราะสำนึกและขอบคุณความลำบากที่เราผ่านมาในแต่ละวัน ได้มีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างเราให้มีวันนี้ต่างหาก
เพราะหัวใจดวงนี้ซาบซึ้งและทราบชัดแล้วว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แท้จริงแล้วเราได้อาศัยความลำบากที่เราเคยนึกเกลียดชังหนักหนานั่นเอง ช่วยสร้างชีวิตและหัวใจที่เข้มแข็ง จนสามารถยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้ได้ อย่างไม่เคยนึกกลัวความลำบากใดในชีวิตอีกแล้ว
คุรุอตีศะ
๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๖