ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้

 ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้


                                                                             
           หากต่อไปเรายากจนลงจนหมดตัว เราจะอยู่อย่างไร  หากสิ่งที่เราหวังไว้เกิดล้มเหลวขึ้นมา เราจะรับได้ไหม  หากคู่ครองของเรานอกใจ  เราจะทนไหวไหม  และหากเราจะต้องตายในอีกไม่นาน ภาระต่างๆจะสะสางอย่างไร  แล้วแต่จิตใจจะปรุงแต่งให้เกิดความวิตกกังวลนานา


            ไม่ว่าเราจะวิตกทุกข์ร้อนสักปานใด  แต่สิ่งที่เราจะทำได้อย่างแท้จริง ก็เพียงแค่ทำเท่าที่ทำได้เท่านั้น  ไม่สามารถจะทำอะไรได้มากกว่านั้น  เพราะชีวิตจริงในปัจจุบัน เราก็มีแค่สองมือและสองเท้าเพียงเท่านี้


             หากแม่ของเราจะต้องนอนป่วยเป็นอัมพาต แล้วเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนและจะต้องดูแลกันอย่างไร จะต้องทนต่อความอับอายและเป็นภาระสักแค่ไหน  แต่ไม่ว่าจะหวาดหวั่นและนึกกลัวเพียงใด แต่สุดท้ายเราก็ทนได้เหมือนทุกเรื่องที่เคยอายแสนอายและหนักแสนหนักมาก่อนนั่นเอง


              เมื่อก่อนจะเข้าไปอยู่ในวัด  เราต่างครุ่นคิดด้วยความอึดอัดและคิดไม่ตกว่า ชีวิตจะกินอะไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่ไม่มีการหารายได้ ใครๆก็อาจดูถูกว่ามาอาศัยวัดกิน  เราคงทนไม่ได้ต่อคำดูหมิ่นเหยียดหยามเช่นนั้น ใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นต่อการตัดสินใจ ในการที่จะใช้ชีวิตอย่างคนไม่มีอนาคต


              วันเวลาผ่านไป   สิ่งที่เคยคิดว่าจะอยู่ไม่ได้และความวิตกต่างๆนานาอย่างมากมายเมื่อก่อนนั้น  มาถึงชีวิตปัจจุบันบัดนี้เรากลับลืมไปเกือบหมดแล้ว  พร้อมทั้งยังสงสัยตัวเองสมัยนั้นด้วยซ้ำว่า ทำไมจึงคิดมากไว้ล่วงหน้าได้มากมายถึงขนาดนั้น  หากเรารู้ว่าชีวิตจะได้รับรสแห่งความสุขในทางธรรมเหมือนอย่างปัจจุบัน เราจะไม่อกสั่นและหวาดวิตกให้สูญเสียพลังแม้แต่นิดเดียว


               หากเราเรียนไม่จบตามขั้นตอน  เราจะเป็นอย่างไรหนอ  แล้วอนาคตเราจะทำอะไรต่อไป ครุ่นคิดอยู่ตั้งหลายวัน  สุดท้ายก็คิดได้  ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปและดำรงอยู่ด้วยลมหายใจตามเดิม ส่วนการจะหารายได้หรือจะมีใครมาส่งเสริม ก็สุดแต่บุญกรรมจะนำพาและลิขิตให้เป็นไป  เพียงแต่เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แม้บางทีอาจจะนั่งกอดเข่าร้องไห้  ก็ขอสัญญาว่าจะพยายามคร่ำครวญอย่างนานไม่ให้เกินสามวัน หลังจากนั้นก็จะลุกขึ้นยืนสู้โดยไม่มีการงอมืองอเท้า เพื่อบากบั่นสร้างอนาคตจนกว่าจะสำเร็จเป็นที่นับถือของคนทั้งหลายให้จงได้


               หากคู่ครองของเราไปมีคนอื่น  เราจะทนสะอื้นไหวหรือไม่หนอ แล้วหัวใจของเราจะแหลกสลายเป็นผุยผงหรือไม่  แล้วเราจะไปนั่งร้องไห้กับใคร หากหัวใจต้องเผชิญวันนั้นขึ้นมาจริงๆ


               ก็ทนเท่าที่ทนได้  แล้วก็ร้องไห้เท่าที่พอจะร้องไหว  ก็จะลองใช้บริการของน้ำตาให้เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากบ้าง หากสิ่งนั้นมีเวรกรรมต้องเกิดขึ้นจริง หลังจากที่มอบกายมอบใจและมอบทุกสิ่งให้มนุษย์ด้วยกันมาช้านาน แต่เขาก็ไม่ยอมอยู่เป็นคู่ทุกข์คู่ยากจนวันตายเหมือนที่เราคาดหมายและปรารถนา กลับมาทำให้เรามีน้ำตาแทนที่จะสร้างความอิ่มใจให้สมกับที่เราคาดหวังตลอดมา


               แต่ก็ขอสัญญาว่าจะร้องไห้จนหมดน้ำตาไม่ให้นานเกิน ๗  วัน  หลังจากนั้นก็จะศึกษาพระธรรม หาโอกาสรักษาศีลอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสมบารมี หลังจากแต่ก่อนได้แต่มองเขาไปวัดใส่ชุดขาว อยากไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ไป  แล้วก็จะก้าวสู่ชีวิตใหม่ ที่ไม่ขอมอบหัวใจให้มนุษย์หน้าไหนอีกแล้ว แต่จะขอมอบดวงใจไว้กับพระรัตนตรัยและก้าวเดินบนหนทางสายพระอริยเจ้าจนกว่าชีวิตนี้จะดับลง


                ชีวิตคนเรานี้จะต้องมีอะไรให้มากนัก  เพียงแค่ได้รู้จักว่าโลกนี้มีทั้งความสมหวังผิดหวัง มีทั้งรอยยิ้ม มีทั้งน้ำตา และเมื่อตื่นนอนตอนเช้าลืมตาขึ้นมา  ยังมีพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้ามอบแสงสว่างให้แก่เราอยู่ทุกวัน  และเมื่อเดินเข้าห้องน้ำจะแปรงฟัน  ก็ยังมียาสีฟันและมีน้ำล้างหน้า ไม่ถึงกับอดน้ำเหมือนชาวตะวันออกกลางที่อยู่แถบทะเลทราย  เพียงเท่านี้ชีวิตก็มีความหมายและมีคุณค่าต่อการได้ดำรงอยู่แล้วมิใช่หรือ?


               สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติสุข  ธุรกิจและการค้าของเราตกต่ำและลำบาก นอนก่ายหน้าผากพร้อมทั้งตารื้นด้วยน้ำตาไม่อยากทำอะไรมาหลายคืนหลายวัน  แล้วเครดิตของข้าพเจ้าจะเหลือเท่าไหร่ แล้วชีวิตจะทำกันยังไงต่อไป  ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจ  มองเห็นวันขึ้นปีใหม่เป็นวันของน้ำตา มากกว่าจะมองเห็นรอยยิ้มของตัวเองในกระจกเหมือนทุกปี  แล้วอย่างนี้เราจะทำยังไงกับชีวิตดีหนอ


                คำตอบคือว่า ก็อยู่ต่อ และเมื่อถึงเวลาก็ไปหุงข้าวแล้วกินให้อิ่มท้อง เพื่อจะได้มีแรงคิดต่อ เพราะหัวสมองต้องใช้พลังงาน  หลังจากนั้นก็ถูบ้าน ทำตัวเป็นคนใช้สักวัน  หลังจากวางตนเป็นเถ้าแก่เงินล้านและโก้หรูตลอดมา  ก็ดั้งเดิมเราเองก็ใช่ว่าจะรู้จักใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า เอาแต่เที่ยวเกกมะเหรกเกเรมาไม่น้อย  ขนาดจะแต่งงานได้ภรรยากับเขาสักคน ก็ยังไม่มีใครเชื่อถือว่าจะตั้งครอบครัวตั้งหลักฐานเหมือนคนอื่นเขาได้แม้แต่พ่อของตัวเอง


               แต่บัดนี้เรากลายเป็นคนเก่งมีคนยกย่องเรียกเราว่าเสี่ย จนเผลอตัวยึดอกด้วยความภูมิใจก็หลายหน  เราสร้างชีวิตจากไม่มีอะไร จนบัดนี้มีทรัพย์สินตั้งหลายล้าน  แล้วเราจะยังต้องการอะไรมากกว่านี้อีก  ชีวิตที่ติดลบในเบื้องต้น จนบัดนี้มีคนรู้จักและนับถือกันทั้งเมือง แล้วจะมาเสียใจว่าตัวเองไร้ค่านั่นมิใช่วิสัยของมนุษย์ใจสิงห์คนเดิมแม้แต่น้อย ดังนั้นเราก็อยู่ต่อ แล้วบากบั่นต่อไป สุดท้ายชีวิตย่อมจะก้าวสู่เส้นชัยโดยใช้เวลาและใช้กำลังใจอีกนิดเดียว


                เราจะพบกับชีวิตที่เป็นความสุขหรือทุกข์เพียงใด  จะมีมรสุมกี่ระลอกกี่ครั้งกี่หนสักแค่ไหน  จงรวบรวมกำลังใจเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคทั้งปวงให้ได้


                หากตอนนี้รู้สึกว่าภาระทั้งหลายช่างรุมเร้าและดูเหมือนหนักหน่วงจนแทบจะหมดกำลังใจ ก็ท่องคาถาที่ไม่เหมือนใคร โดยท่องไว้ในใจอยู่เสมอว่า "ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้" แล้วคาถานี้จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจและพบกับโชคลาภอันยิ่งใหญ่ที่ใครๆอาจคาดไม่ถึง


                 "ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้"  จะให้ทำอะไรได้มากกว่านี้อีกล่ะ  รักษาจิตใจของเราให้ดี แล้วหมั่นเจริญสติไว้เสมอพร้อมทั้งสร้างบุญกุศลอย่าให้ขาด ในที่สุดคาถานี้จะเกิดอำนาจแล้วทรงอานุภาพให้เราผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาทั้งปวงไปได้ในที่สุด


                    หนักใจในเรื่องอะไรหรือเหมือนจะแบกรับปัญหาไม่ไหว  ก็ท่องคาถานี้ไว้ "ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้" แล้วต่อไปชีวิตก็จะพบกับความสำเร็จดังประสงค์  เพราะอานุภาพของคาถา "ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้" นี้ ช่วยค้ำจุนจิตใจและช่วยคลี่คลายปัญหาจนพบกับความสมหวังดังปรารถนาในที่สุด

 

                                                                                                    คุรุอตีศะ
                                                                                            ๑๙  ธันวาคม  ๒๕๕๖