ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้
หากต่อไปเรายากจนลงจนหมดตัว เราจะอยู่อย่างไร หากสิ่งที่เราหวังไว้เกิดล้มเหลวขึ้นมา เราจะรับได้ไหม หากคู่ครองของเรานอกใจ เราจะทนไหวไหม และหากเราจะต้องตายในอีกไม่นาน ภาระต่างๆจะสะสางอย่างไร แล้วแต่จิตใจจะปรุงแต่งให้เกิดความวิตกกังวลนานา
ไม่ว่าเราจะวิตกทุกข์ร้อนสักปานใด แต่สิ่งที่เราจะทำได้อย่างแท้จริง ก็เพียงแค่ทำเท่าที่ทำได้เท่านั้น ไม่สามารถจะทำอะไรได้มากกว่านั้น เพราะชีวิตจริงในปัจจุบัน เราก็มีแค่สองมือและสองเท้าเพียงเท่านี้
หากแม่ของเราจะต้องนอนป่วยเป็นอัมพาต แล้วเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนและจะต้องดูแลกันอย่างไร จะต้องทนต่อความอับอายและเป็นภาระสักแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะหวาดหวั่นและนึกกลัวเพียงใด แต่สุดท้ายเราก็ทนได้เหมือนทุกเรื่องที่เคยอายแสนอายและหนักแสนหนักมาก่อนนั่นเอง
เมื่อก่อนจะเข้าไปอยู่ในวัด เราต่างครุ่นคิดด้วยความอึดอัดและคิดไม่ตกว่า ชีวิตจะกินอะไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่ไม่มีการหารายได้ ใครๆก็อาจดูถูกว่ามาอาศัยวัดกิน เราคงทนไม่ได้ต่อคำดูหมิ่นเหยียดหยามเช่นนั้น ใจเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นต่อการตัดสินใจ ในการที่จะใช้ชีวิตอย่างคนไม่มีอนาคต
วันเวลาผ่านไป สิ่งที่เคยคิดว่าจะอยู่ไม่ได้และความวิตกต่างๆนานาอย่างมากมายเมื่อก่อนนั้น มาถึงชีวิตปัจจุบันบัดนี้เรากลับลืมไปเกือบหมดแล้ว พร้อมทั้งยังสงสัยตัวเองสมัยนั้นด้วยซ้ำว่า ทำไมจึงคิดมากไว้ล่วงหน้าได้มากมายถึงขนาดนั้น หากเรารู้ว่าชีวิตจะได้รับรสแห่งความสุขในทางธรรมเหมือนอย่างปัจจุบัน เราจะไม่อกสั่นและหวาดวิตกให้สูญเสียพลังแม้แต่นิดเดียว
หากเราเรียนไม่จบตามขั้นตอน เราจะเป็นอย่างไรหนอ แล้วอนาคตเราจะทำอะไรต่อไป ครุ่นคิดอยู่ตั้งหลายวัน สุดท้ายก็คิดได้ ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปและดำรงอยู่ด้วยลมหายใจตามเดิม ส่วนการจะหารายได้หรือจะมีใครมาส่งเสริม ก็สุดแต่บุญกรรมจะนำพาและลิขิตให้เป็นไป เพียงแต่เราจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ แม้บางทีอาจจะนั่งกอดเข่าร้องไห้ ก็ขอสัญญาว่าจะพยายามคร่ำครวญอย่างนานไม่ให้เกินสามวัน หลังจากนั้นก็จะลุกขึ้นยืนสู้โดยไม่มีการงอมืองอเท้า เพื่อบากบั่นสร้างอนาคตจนกว่าจะสำเร็จเป็นที่นับถือของคนทั้งหลายให้จงได้
หากคู่ครองของเราไปมีคนอื่น เราจะทนสะอื้นไหวหรือไม่หนอ แล้วหัวใจของเราจะแหลกสลายเป็นผุยผงหรือไม่ แล้วเราจะไปนั่งร้องไห้กับใคร หากหัวใจต้องเผชิญวันนั้นขึ้นมาจริงๆ
ก็ทนเท่าที่ทนได้ แล้วก็ร้องไห้เท่าที่พอจะร้องไหว ก็จะลองใช้บริการของน้ำตาให้เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากบ้าง หากสิ่งนั้นมีเวรกรรมต้องเกิดขึ้นจริง หลังจากที่มอบกายมอบใจและมอบทุกสิ่งให้มนุษย์ด้วยกันมาช้านาน แต่เขาก็ไม่ยอมอยู่เป็นคู่ทุกข์คู่ยากจนวันตายเหมือนที่เราคาดหมายและปรารถนา กลับมาทำให้เรามีน้ำตาแทนที่จะสร้างความอิ่มใจให้สมกับที่เราคาดหวังตลอดมา
แต่ก็ขอสัญญาว่าจะร้องไห้จนหมดน้ำตาไม่ให้นานเกิน ๗ วัน หลังจากนั้นก็จะศึกษาพระธรรม หาโอกาสรักษาศีลอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสมบารมี หลังจากแต่ก่อนได้แต่มองเขาไปวัดใส่ชุดขาว อยากไปบ้างแต่ก็ไม่ได้ไป แล้วก็จะก้าวสู่ชีวิตใหม่ ที่ไม่ขอมอบหัวใจให้มนุษย์หน้าไหนอีกแล้ว แต่จะขอมอบดวงใจไว้กับพระรัตนตรัยและก้าวเดินบนหนทางสายพระอริยเจ้าจนกว่าชีวิตนี้จะดับลง
ชีวิตคนเรานี้จะต้องมีอะไรให้มากนัก เพียงแค่ได้รู้จักว่าโลกนี้มีทั้งความสมหวังผิดหวัง มีทั้งรอยยิ้ม มีทั้งน้ำตา และเมื่อตื่นนอนตอนเช้าลืมตาขึ้นมา ยังมีพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้ามอบแสงสว่างให้แก่เราอยู่ทุกวัน และเมื่อเดินเข้าห้องน้ำจะแปรงฟัน ก็ยังมียาสีฟันและมีน้ำล้างหน้า ไม่ถึงกับอดน้ำเหมือนชาวตะวันออกกลางที่อยู่แถบทะเลทราย เพียงเท่านี้ชีวิตก็มีความหมายและมีคุณค่าต่อการได้ดำรงอยู่แล้วมิใช่หรือ?
สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติสุข ธุรกิจและการค้าของเราตกต่ำและลำบาก นอนก่ายหน้าผากพร้อมทั้งตารื้นด้วยน้ำตาไม่อยากทำอะไรมาหลายคืนหลายวัน แล้วเครดิตของข้าพเจ้าจะเหลือเท่าไหร่ แล้วชีวิตจะทำกันยังไงต่อไป ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้มใจ มองเห็นวันขึ้นปีใหม่เป็นวันของน้ำตา มากกว่าจะมองเห็นรอยยิ้มของตัวเองในกระจกเหมือนทุกปี แล้วอย่างนี้เราจะทำยังไงกับชีวิตดีหนอ
คำตอบคือว่า ก็อยู่ต่อ และเมื่อถึงเวลาก็ไปหุงข้าวแล้วกินให้อิ่มท้อง เพื่อจะได้มีแรงคิดต่อ เพราะหัวสมองต้องใช้พลังงาน หลังจากนั้นก็ถูบ้าน ทำตัวเป็นคนใช้สักวัน หลังจากวางตนเป็นเถ้าแก่เงินล้านและโก้หรูตลอดมา ก็ดั้งเดิมเราเองก็ใช่ว่าจะรู้จักใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า เอาแต่เที่ยวเกกมะเหรกเกเรมาไม่น้อย ขนาดจะแต่งงานได้ภรรยากับเขาสักคน ก็ยังไม่มีใครเชื่อถือว่าจะตั้งครอบครัวตั้งหลักฐานเหมือนคนอื่นเขาได้แม้แต่พ่อของตัวเอง
แต่บัดนี้เรากลายเป็นคนเก่งมีคนยกย่องเรียกเราว่าเสี่ย จนเผลอตัวยึดอกด้วยความภูมิใจก็หลายหน เราสร้างชีวิตจากไม่มีอะไร จนบัดนี้มีทรัพย์สินตั้งหลายล้าน แล้วเราจะยังต้องการอะไรมากกว่านี้อีก ชีวิตที่ติดลบในเบื้องต้น จนบัดนี้มีคนรู้จักและนับถือกันทั้งเมือง แล้วจะมาเสียใจว่าตัวเองไร้ค่านั่นมิใช่วิสัยของมนุษย์ใจสิงห์คนเดิมแม้แต่น้อย ดังนั้นเราก็อยู่ต่อ แล้วบากบั่นต่อไป สุดท้ายชีวิตย่อมจะก้าวสู่เส้นชัยโดยใช้เวลาและใช้กำลังใจอีกนิดเดียว
เราจะพบกับชีวิตที่เป็นความสุขหรือทุกข์เพียงใด จะมีมรสุมกี่ระลอกกี่ครั้งกี่หนสักแค่ไหน จงรวบรวมกำลังใจเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคทั้งปวงให้ได้
หากตอนนี้รู้สึกว่าภาระทั้งหลายช่างรุมเร้าและดูเหมือนหนักหน่วงจนแทบจะหมดกำลังใจ ก็ท่องคาถาที่ไม่เหมือนใคร โดยท่องไว้ในใจอยู่เสมอว่า "ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้" แล้วคาถานี้จะช่วยสร้างขวัญกำลังใจและพบกับโชคลาภอันยิ่งใหญ่ที่ใครๆอาจคาดไม่ถึง
"ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้" จะให้ทำอะไรได้มากกว่านี้อีกล่ะ รักษาจิตใจของเราให้ดี แล้วหมั่นเจริญสติไว้เสมอพร้อมทั้งสร้างบุญกุศลอย่าให้ขาด ในที่สุดคาถานี้จะเกิดอำนาจแล้วทรงอานุภาพให้เราผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาทั้งปวงไปได้ในที่สุด
หนักใจในเรื่องอะไรหรือเหมือนจะแบกรับปัญหาไม่ไหว ก็ท่องคาถานี้ไว้ "ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้" แล้วต่อไปชีวิตก็จะพบกับความสำเร็จดังประสงค์ เพราะอานุภาพของคาถา "ก็เพียงแค่เท่าที่ทำได้" นี้ ช่วยค้ำจุนจิตใจและช่วยคลี่คลายปัญหาจนพบกับความสมหวังดังปรารถนาในที่สุด
คุรุอตีศะ
๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๖