ร้ายแค่ไหนก็มีดี

ร้ายแค่ไหนก็มีดี


                                                           
         ในท่ามกลางความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิต  หากพินิจด้วยสติและปัญญาอันแยบคาย เราจะมองเห็นความหมายและความดีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในสถานการณ์อันดูน่าเลวร้ายนั้นได้เสมอ


          ในท่ามกลางชีวิตอันแร้นแค้นยากจน  เราก็ได้ความอดทนบากบั่นและความพากเพียรมาประดับไว้ในชีวิต  ในการสร้างตัวและไขว่คว้าจนกระทั่งสำเร็จในสิ่งที่ใจปรารถนา  หากเราไม่เกิดมาท่ามกลางความยากจน ความอดทนและความบากบั่นของเราคงไม่มีมากขนาดนี้ นี้คือสิ่งดีที่มีอยู่ในท่ามกลางสิ่งเลวร้าย  ที่เราทั้งหลายมักมองข้ามไป


           เพราะเหตุที่มีพ่อขี้เมา  จึงไม่มีทางเลือกอื่นในชีวิต นอกจากจะต้องพากเพียรยืนบนลำแข้งของตัวเองให้ได้  และได้มีโอกาสฝึกใจในการอดทนต่อการดูถูกเหยียดหยามจากบรรดาผู้คนทั้งหลาย จนกระทั่งสร้างอนาคตได้รุ่งเรืองยิ่งใหญ่  ก็เพราะเกิดแรงบันดาลใจในการมีมานะเพื่อเอาชนะการดูถูกดูแคลนของผู้คนนั่นเอง  ท่ามกลางการดูถูกดูแคลนนั้น กลับเป็นแรงแห่งการสร้างฝันให้แก่บุรุษและสตรีในการมีชีวิตที่ก้าวหน้า และเป็นพลังแห่งการฟันฝ่าจนพบความสำเร็จอย่างมากมายหลากหลายชีวิตมาแล้ว


            เพราะได้สามีเจ้าชู้  จึงสำนึกรู้ว่าการจะสร้างอนาคตให้แก่ครอบครัวและแก่ลูกได้  จะต้องใช้ความเข้มแข็งทั้งแรงกายและแรงใจ  จึงจะยืนเป็นหลักให้แก่ครอบครัว  จึงบากบั่นสร้างตัวและอนาคตของครอบครัวโดยไม่ย่อท้อต่อชีวิต  เราจึงกลายเป็นหญิงเหล็กและเป็นยอดหญิงตัวอย่างที่ผู้คนยอมรับในความมีคุณธรรม บางคนก็ยกย่องว่าเป็นหญิงใจประเสริฐ เป็นแม่พระ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย  เพราะความเจ้าชู้ของสามีนั่นเองจึงเป็นสาเหตุให้เรากลายเป็นหญิงแม่พระของผู้คนในวันนี้

 

           เพราะได้มาใช้ชีวิตกับคนขี้หงุดหงิด เจ้าอารมณ์ และใจร้อน เราจึงมีโอกาสฝึกตัวเองให้รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา และรู้จักประคองสติไม่วู่วามและใช้อารมณ์เหมือนกับเขา สุดท้ายก็เป็นผลดีแก่ตัวเรา ทำให้ได้รับความรักความจริงใจและความทุ่มเทอย่างเต็มที่จากคนที่เราเองก็รักเขา และในวงสังคมภายนอกต่างก็ยกย่องนับถือตัวเราว่าเป็นคนใจเย็น หนักแน่น มีความอบอุ่นและเป็นที่พึ่งในยามใครทุกข์ร้อนได้จนทุกวันนี้

 

            นี้คือผลแห่งความดีที่ชายผู้เป็นสามีช่วยเป็นครูฝึกสอนผู้สามารถ สอนวิชาหนักแน่นอดทนนับแต่วันแต่งงานโดยแท้ เราจึงได้รับความรักความชื่นชมทั้งในบ้านและนอกบ้าน ความใจร้อนของเขา ทำให้เราต้องกลายเป็นคนใจดีใจเย็นเป็นคนละคนกับตอนยังไม่ได้ใช้ชีวิตที่ต้องอดทนและเสียสละในครอบครัวแบบทุกวันนี้  จากเคยเป็นคนเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง กลับเป้นคนใจดีใจบุญไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ 


             เพราะไม่มีโอกาสเรียนต่อในชั้นสูงๆเหมือนคนอื่นเขา  ต้องมารับภาระของพ่อแม่โดยถือความกตัญญูเป็นที่ตั้ง  โดยไม่อาจตั้งความหวังในอนาคตหรือไม่อาจมองเห็นความก้าวหน้าแม้แต่น้อย แต่ก็หมั่นทำหน้าที่และสร้างความดีไปทีละน้อยโดยมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน  โดยไม่เคยคิดฝันถึงความรุ่งเรืองเช่นคนอื่น  ขอเพียงหลายชีวิตได้มีความสุขเพราะมือน้อยๆของเราไปแต่ละวันก็พอแล้ว


             เมื่อชีวิตเข้าสู่วัยอันสมควร  ก็มีบุรุษผู้มียศตำแหน่งอันมีเกียรติมารักและขอไปเป็นคู่ชีวิต  ชนิดที่คนทั้งหลายไม่อยากจะเชื่อและไม่น่าเป็นไปได้  แม้แต่ตนเองก็เพิ่งเข้าใจและหายสงสัยเมื่อมีลูกได้หนึ่งคน เมื่อสามีได้ให้เหตุผลในการเลือกเรามาเป็นคู่ครองว่า ไม่ได้เลือกที่ปริญญาเป็นใบๆ แต่เลือกเธอที่ปริญญาใจคือความเป็นคนกตัญญูรู้คุณเป็นหลักและเธอก็น่ารักให้ความอบอุ่นสดใส ทำให้หายเหนื่อยล้าจากการงานและภาระอันหนักหน่วงประจำวัน  นับแต่วันนั้นปมด้อยว่าไม่ได้เรียนสูงเหมือนคนอื่นที่เกาะกินใจมายี่สิบปี ก็หมดสิ้นทันทีจากหัวใจ


              เพราะความเสียใจจากสตรีที่เขาเลือกคบผู้ชายที่ร่ำรวยกว่า แค่เป็นนายสิบไม่อยู่ในสายตาของเธอที่ต้องการเป็นคุณนาย  จากที่เคยเรียนหนังสือไม่ขยันสักเท่าไหร่  ก็ตัดสินใจมุมานะจนสอบเข้าเรียนเตรียมทหารได้  จนกระทั่งเรียนนายเรืออากาศปีสุดท้าย ได้พบกับสตรีคนใหม่ที่เป็นดาวจุฬาฯ และต่อมาได้แต่งงานอย่างเต็มภาคภูมิโดยมีแขกเหรื่อผู้มีเกียรติมากมาย แม้รัฐมนตรีก็ยังมาในงาน อดคิดถึงเธอผู้นั้นที่เคยดูหมิ่นน้ำใจว่า หากไม่มีคำดูหมิ่นทำให้เสียใจในตอนนั้น เราก็คงไม่พบชีวิตที่สำเร็จอย่างเกินความคาดหมายอย่างวันนี้  ในท่ามกลางสิ่งเลวร้าย ก็มีสิ่งดีอยู่ในนั้นเสมอ ชีวิตของเรานี้ได้พิสูจน์อย่างประจักษ์ชัดที่สุดในชีวิตของคนๆหนึ่ง


               หากไม่มีการโยนหนังสือบาลีใส่หน้าจากพระผู้ถือตนว่าเป็นพระมหา พระผู้ถูกโยนหนังสือใส่หน้าคงไม่มีแรงแห่งความอุตสาหะพยายามด้วยเรี่ยวแรงแห่งลูกผู้ชาย  จนกระทั่งสำเร็จเปรียญธรรม ๙ ประโยคเป็นแน่  ความถูกดูหมิ่นและปรามาสว่าไม่มีทางเรียนได้  ทำให้พระรูปที่ถูกปรามาสเรียนจนจบประโยคเก้า  ส่วนผู้ที่โยนหนังสือใส่กลับสอบได้สูงสุดเพียงแค่ประโยค ๕ เท่านั้น นี้คือสิ่งเลวร้าย ย่อมมีสิ่งดีปนอยู่ในนั้นเสมอ  เพียงแต่เราทั้หลายอย่ามัวท้อแท้ต่อคำดูหมิ่นดูแคลนเท่านั้น


                หากเราไม่เจ็บป่วย เราคงไม่เกิดสลดสังเวชสำนึกในคำพระที่ว่า "ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง" เราคงลุ่มหลงไปในทางโลกอีกนานหรืออาจหลงอยู่เช่นนั้นจนตลอดชีวิตเหมือนหลายคนก็ได้ เพราะเราเป็นคนมีนิสัยเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ  ยากนักที่ใครจะกล้าสอนและกล้าตักเตือน  แต่เมื่อเทวทูตคือความเจ็บป่วยเข้ามาเยือน เราจึงมีโอกาสได้เดินบนเส้นทางที่ประเสริฐและปราศจากเวรภัย เป็นเส้นทางที่มีโอกาสสร้างความดีที่หาได้ยากนักที่ไม่อาจบอกใครให้เข้าใจได้  แล้วเราก็พบกับความสุขและความเย็นใจ ได้พบกับความสุขที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญตลอดมา  ขอบคุณโรคภัยที่ทำให้เราได้พบสิ่งที่ทรงคุณค่าสำหรับชีวิตในวันนี้


                ไม่ว่าชีวิตของเราแต่ละคนจะประสบความเลวร้ายในชีวิตในรูปแบบใดก็ตาม  ขอให้เราเชื่อมั่นไว้ประการหนึ่งเถิดว่า  ในท่ามกลางสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย  ย่อมมีสิ่งดีแฝงอยู่ในนั้นเสมอ


                 ขอเพียงเราตั้งสติแล้วพิจารณา  ไม่นานนักเราจะมองเห็นได้เองว่า  แท้จริงแล้วสิ่งดีๆก็สามารถมีอยู่ได้ท่ามกลางสิ่งเลวร้ายหรือน่ากลัวนั่นเอง  ขอจงมีกำลังใจไว้เสมอ

 

                                                                                                 คุรุอตีศะ
                                                                                        ๑๗  ธันวาคม  ๒๕๕๖