พาใจกลับบ้าน
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
พาใจกลับบ้าน
สังคมในตอนนี้ ผู้คนส่วนใหญ่จะปล่อยใจให้อยู่กับเรื่องราวในภายนอก จนตัวเองไม่มีความสงบสุขภายในจิตใจ หัวใจหวั่นไหวไปกับความโกรธแค้น อาฆาตพยาบาท ความเกลียดชัง บางคนก็อยู่กับความผิดหวังและซึมเศร้ากับเรื่องราวที่ถาโถมเข้ามา จนกระทั่งแทบไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจของตัวเองมีสภาพอย่างไร บางคนก็มีความทุกข์เหมือนว่าหัวใจจะแตกสลาย ไม่มีที่จะยืนหรือที่พักผ่อนแม้แต่น้อย
เราปล่อยใจให้ไหลไปกับกระแสคลื่นที่คนอื่นโน้มน้าวและชักจูงให้เราคล้อยตามมากเกินไป จนลืมไปว่าเมื่อเรามีความทุกข์บีบคั้นจิตใจอยู่ตอนนี้ คนที่พูดให้เราต้องหัวปั่นและเสียศูนย์จนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่นี้ บางทีเขาก็ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของเขาโดยเอาเราเป็นเครื่องมือ หรือเป็นเพราะเวรกรรมของเขาที่เคยทำไว้ ซึ่งบางเรื่องนั้นก็ไม่มีใครรู้กับเขาว่าเขาได้ก่อกรรมอะไรไว้ และเขาก็ไม่ยอมบอกเรา แต่กลับจะเอากรรมมาให้เรา หรือให้เราแบกทุกข์แทนเขา จนเราเกิดความทุกข์แทบนั่งไม่เป็นสุขอยู่ตอนนี้
จงพาใจกลับบ้านเสียในขณะนี้ พาใจของเรากลับสู่กายที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จะนั่งก็รู้ตัวว่ากำลังนั่ง เดิน ก็รู้ตัวว่ากำลังเดิน คิดมาก ก็รู้ว่ากำลังคิดมาก เสียใจ ก็รู้ว่ากำลังเสียใจ เหงา ก็รู้ว่ากำลังเหงา เบิกบาน ก็รู้ว่ากำลังเบิกบาน เศร้า ก็รู้ว่ากำลังเศร้า โกรธ ก็รู้ว่ากำลังโกรธ หงุดหงิด ก็รู้ว่ากำลังหงุดหงิด อย่างนี้เป็นต้น
ใจของเราได้ถูกสิ่งต่างๆฉุดกระชากลากถู ถูกผู้คนทำให้ใจของเราซึ่งไม่ได้โกรธเกลียดหรือชิงชังใครมาก่อน ก็ต้องเกลียดและโกรธแค้นตามเขาไปด้วย ซึ่งบางกรณีก็เป็นเรื่องเวรกรรมของเขาสองคนที่โกรธแค้นกันเท่านั้น แต่เขาก็ดึงเราไปเป็นพวก ให้เราโกรธเกลียดชิงชังตามเขาไปด้วย
ใจของเราได้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เราได้ตกเป็นทาสการโน้มน้าวชักจูงให้เราโกรธเกลียดชิงชังคนอื่นตามเขาไปด้วยในตอนไหน แต่ก่อนเรานั้นเราก็อยู่ของเราดีๆ แต่ตอนนี้ทำไมเป็นเช่นนี้ไปได้ หากใครมาถามเรา เราก็ตอบเขาไม่ได้เหมือนกัน
นี้เพราะว่าใจของเราได้เตลิดออกจากบ้านไปนานมากเกินไป ใจไม่ได้กลับบ้านนานมากแล้ว บ้านของใจคือ กายนี้และใจนี้ เราไม่ได้ตระหนักรู้และมักลืมเขาไปอยู่เสมอ นี้คือการที่ใจไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลานาน
จงกลับคืนสู่บ้าน คือกายนี้และใจนี้ ให้ใจอยู่กับกุศล อย่าปล่อยใจไปกับอกุศล อย่าให้ใจไหลไปอยู่กับความโกรธเกลียด ความอาฆาตพยาบาท อย่าให้ใจอยู่กับความเคียดแค้นชิงชัง เพราะนั่นคือปากทางไปสู่ความตกต่ำและความเสื่อมสูญจากความสุขในชีวิต และในที่สุดก็ไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ นอกจากตัวเราที่กำลังทุกข์ร้อนอยู่ขณะนี้
กลับบ้านของเรา คือการมีสติระลึกรู้ที่กายที่ใจขณะนี้ เราจะทำอะไรอยู่ก็ตาม จะยืน เดิน นั่ง นอน จะทานข้าว จะอาบน้ำ จะหวีผม จะแต่งตัว จะอ่านหนังสือ หรือกำลังหุงข้าว ก็ให้มีความรู้สึกตัวในขณะนี้ไปด้วย อย่าปล่อยใจให้ไหลไปกับสิ่งอื่นภายนอกตัว รู้ตัวไว้ในขณะนี้ อะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยให้เกิด เราไม่จำเป็นต้องจัดการหรือแก้ไขในทุกเรื่องเสมอไป
อยู่กับตัวเองให้มากขึ้น หัวใจของเราทุกข์ตรมและบอบช้ำมากพอแล้ว เราแบกภาระความหนักหน่วงทั้งปวงมาเนิ่นนาน หลายคนที่เราพยายามเข้าไปจัดการและพยายามช่วยเหลือเหล่านั้น บางครั้งก็เป็นเวรกรรมและผลกรรมจากความเห็นแก่ตัวของเขาก็มี บางคนก็แสนดีและเสียสละอดทน ซึ่งเราก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่และเต็มเปี่ยมอย่างดีที่สุดแล้ว
มองโลกนี้ด้วยความเข้าใจเสมอ อย่าให้พฤติกรรมหรือคำพูดของใครมาทำลายหรือบั่นทอนความสดใสและความดีงามในใจของเราได้ ไม่ว่าเหตุการณ์และเรื่องราวจะมีมากเพียงใด ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องผ่านไปไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่แม้แต่เรื่องเดียว
พาใจของเรากลับบ้าน ใจของเราจะได้มีที่พึ่งพิง ใจดวงนี้จะได้มีความสุข มีความร่มเย็น เราได้ปล่อยใจให้วิ่งหนีออกจากบ้านมานานเกินพอแล้ว นานจนกระทั่งโลกนี้แทบไม่มีที่อยู่
ต่อแต่นี้เราจะไม่ยอมให้ใครมาลากเราออกจากบ้านที่อบอุ่นและมั่นคงของเราได้ ขอดำรงสติตั้งมั่นอยู่เสมอไมว่าจะประสบหรือพบกับเหตุการณ์ใด
เราขอพาใจที่ระหกระเหินมาเนิ่นนาน กลับคืนสู่บ้านคือกายนี้และใจนี้ทุกลมหายใจ ชีวิตที่แท้จริงของเราคือขณะนี้ สิ่งอื่นเป็นเรื่องภายนอกทั้งสิ้น เราจะกลับบ้านของเราตั้งแต่วันนี้และขณะนี้
คุรุอตีศะ
๙ ธันวาคม ๒๕๕๖