ทางที่เลือกแล้ว
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ทางที่เลือกแล้ว
ชีวิตของคนๆหนึ่ง ไม่สามารถจะเดินในหลายเส้นทางได้ ทุกชีวิตล้วนมีสิทธิ์เลือกเดินได้เพียงเส้นทางเดียว คือเส้นทางที่เรากำลังเดินเรื่อยมาจนถึงวันนี้
ชีวิตของเราที่เป็นอยู่ขณะนี้ คือเส้นทางที่เราได้เลือกเดินมาแล้ว แม้ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม หรือสำหรับบางคนนั้น จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามที ว่าเราได้เลือกเดินบนเส้นทางนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่
เมื่อเราตัดสินใจเดินบนเส้นทางนี้ แม้จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ แต่เราก็พากันเดินทางมาได้ตั้งไกล จนเกินกว่าจะย้อนกลับไปตั้งต้นใหม่ได้อีกแล้ว
ชีวิตนับจากวันนี้ จึงต้องเดินต่อไป จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง เดินให้ดี เดินอย่างเต็มที่ เดินด้วยความรู้สึกเต็มเปี่ยมยิ่งกว่าเดิม จากแต่ก่อนนั้น การเดินของเราแต่ละวัน ล้วนเป็นการลากสังขารที่เหมือนซังกะตาย มีแต่ความไร้จุดหมาย ไร้เรี่ยวแรง ไร้พลังตลอดมา
แม้ว่าเส้นทางที่เราเดินอยู่ในวันนี้ สำหรับบางคนอาจเหมือนตกกระไดพลอยโจน ทั้งที่ตนไม่ได้เจตนาหรือตั้งใจมาก่อน ก็อย่ามัวทอดถอนใจหรือเอาแต่คิดอาลัยว่าอาจจะมีทางใหม่ที่ดีกว่าเดิม เพราะว่าสำหรับเรื่องของชีวิตนั้น จะตั้งใจหรือจะจับพลัดจับผลูหรือตกกะไดพลอยโจน ล้วนไม่แตกต่างกัน
เพราะเหตุว่า ตัวชีวิตไม่ได้ขึ้นกับว่าจะเป็นความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หรือต้องรอการอนุมัติจากใครเสียก่อนก็หาไม่ แต่ชีวิตย่อมมีความยิ่งใหญ่ในตัวของชีวิตเอง โดยไม่เคยขึ้นกับใจของใครมาแต่ต้น
เมื่อเราได้ตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตของเราแล้ว วันเวลานับต่อแต่นี้ ย่อมคือการอุทิศชีวิตทั้งมวลเพื่อก้าวไปตามเส้นทางให้สมกับกับที่เรามุ่งมั่นและใฝ่ฝันมาแต่ต้น โดยไม่ต้องไม่มีการเหลียงหลังมองย้อนคืนหรือเสียดายเส้นทางที่เราไม่ได้เลือกทั้งหลายเหล่านั้นอีกต่อไป
เนลสัน แมนเดลา ก่อนจะได้เป็นประธานาธิบดีแอฟริกาใต้คนแรกอย่างเต็มภาคภูมิ และสามารถต่อสู้การเหยียดผิวจากคนผิวขาวจนได้รับชัยชนะ ทำให้แอฟริกาใต้เป็นประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยและทุกคนได้รับสิทธิเสรีภาพ ก็ต้องทนทุกข์ยอมติดคุกเพื่อยืนหยัดในอุดมการณ์ของตัวเอง รวมเวลาที่อยู่ในคุกทั้งสิ้นถึง ๒๗ ปี กว่าที่ทุกคนและชาวโลกจะมองเห็นคุณความดีและประจักษ์ในคุณธรรม เมื่อออกจากคุกได้ไม่นานตอนอายุ ๗๒ ปี ก็ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น จนกระทั่งในที่สุดก็ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมีชื่อก้องไปทั่วโลก คุณความดีขจรขจายไปจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต แล้วได้จากโลกนี้ไปอย่างงดงามในวัย ๙๕ ปี
"..ข้าพเจ้าเชิดชูอุดมคติเรื่องสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและการมีเสรีภาพ ที่ซึ่งทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์ และได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน นี่คือสังคมอุดมคติที่ข้าพเจ้าปรารถนาจะไปให้ถึง เป็นอุดมคติที่ข้าพเจ้าพร้อมจะอุทิศชีวิตให้.."
คำกล่าวของท่านอดีตประธานาธิบดีท่านนี้เป็นที่ตราตรึงใจคนทั้งโลก เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคมทั่วทุกมุมโลก ในขณะอยู่ในคุกท่านยังอุตส่าห์เรียนกฏหมายด้วยระบบการศึกษาทางไกล เพื่อให้รู้กลไกการเอาชนะความอยุติธรรมด้วยสันติวิธี และด้วยหัวใจที่พร้อมแล้วกับเส้นทางที่เลือกเดินตามอุดมคติ ยอมทุกข์ทนอยู่ในคุกเพื่อแลกกับการได้ปลดปล่อยสังคมให้พ้นจากการเหยียดผิวและความอยุติธรรมทั้งมวลถึง ๒๗ ปี จนกระทั่งเป้าหมายที่วางไว้สำเร็จลง และเมื่อเป็นประธานาธิบดีครบวาระ ๒ ครั้ง ก็ลงจากอำนาจไม่มีการยึดติดในตำแหน่งและความเป็นใหญ่ แล้วใช้ชีวิตด้วยความสงบสุขในบั้นปลาย นี้คือชีวิตของรัฐบุรุษของโลกในสมัยปัจจุบัน
คนเรานั้น เมื่อได้เลือกเส้นทางอันเป็นอุดมคติของตัวเองแล้ว จะต้องมีความเด็ดเดี่ยวแล้วทุ่มเทชีวิตทั้งมวลอุทิศให้กับเส้นทางที่ตนเองได้เลือกแล้ว อย่างเช่นท่านเนลสัน แมนเดลา รัฐบุรุษของโลกผู้นี้ ชีวิตของบุคคลที่รู้ชัดในหนทางของตนเองเช่นนี้ ย่อมเดินอย่างมีความสุขและสง่างาม
สำหรับเรา เราก็ขอเดินต่อไปตามทางที่เราได้เลือกแล้วเช่นกัน แม้ทางที่เราเลือกแล้วนั้น อาจไม่ใช่เส้นทางนักการเมืองแบบเนลสัน แมนเดลา แต่ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางแบบใด เราก็จะขอเดินไปจนกว่าจะบรรลุจุดหมาย เพราะเส้นทางนี้คือทางที่ดีที่สุดของเรา
สำหรับบุคคลที่เลือกเส้นทางอันสะอาดและบริสุทธิ์ ที่ไม่ใช่เส้นทางของการเมืองหรือเรื่องของอำนาจ ซึ่งต้องยากลำบากในการต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจมาอยู่ในมือเพื่อทำตามอุดมการณ์ของตน เส้นทางของบุคคลนั้นก็ยังต้องฝ่าฟันและต้องทุ่มเททั้งชีวิตไม่น้อยกว่ากันหรืออาจมากกว่า ที่สายตาของชาวโลกไม่อาจมองเห็น เพราะเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ประกาศต่อใครหรืออาศัยพลังมวลชนเพื่อเป็นสะพานในการก้าวเดินแบบวิธีการแบบทางโลก
ทางสายนี้กลับยากยิ่งกว่า เพราะไม่มีใครมาร่วมรับรู้หรือแสดงความเห็นใจ และเมื่อเดินถึงแล้วหรือเดินได้ไกลแค่ไหน ก็ยิ่งไม่มีใครมองเห็นการเดินของเรา ทางสายนี้คือทางของพระอริยเจ้าที่อยู่เหนือความต้องการอำนาจใดๆ ไม่ต้องการความเข้าใจ ทั้งไม่ต้องการความชื่นชมจากชาวโลก
ทางสายนี้ต้องการหัวใจที่เด็ดเดี่ยวยิ่งกว่า เพราะต้องเดินตามลำพังคนเดียว แต่เมื่อเดินถึงแล้วกลับเป็นประโยชน์ต่อโลก และนำความร่มเย็น สะอาด บริสุทธิ์ มาสู่มนุษยชาติยิ่งกว่าทางสายใด
หากใครเลือกทางสายนี้ มีผู้ที่ท่านเดินไปก่อนแล้วและเป็นแบบอย่างก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและปวงเหล่าพระอรหันต์ พระอริยเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย
ไม่ว่าเลือกเดินบนเส้นทางสายใด ขอจงก้าวไปเส้นทางที่เลือกแล้วด้วยความองอาจกล้าหาญพร้อมทั้งใจที่เบิกบานเถิด เพราะเพียงแต่ละก้าวที่ได้เดิน ก็เป็นความสุขในตัวเองแล้ว
คุรุอตีศะ
๘ ธันวาคม ๒๕๕๖
