ฟ้าและดินอยู่คู่กัน

ฟ้าและดินอยู่คู่กัน

 


                                                                               
       หากไม่มีดิน  ไหนเลยฟ้าจะมีความหมาย  เพราะดินมิใช่หรืออยู่ข้างใต้  ฟ้าจึงดูยิ่งใหญ่และสูงส่งกว่าสิ่งใด  เพราะเราต่างเกิดมาคู่กันจนวันตาย จนกว่าวันสุดท้าย  ฟ้าและดินจึงจะสลายไปด้วยกัน

 

       ความสูงส่งไม่อาจมีได้  หากไม่มีสิ่งที่ต่ำกว่าคอยเปรียบเทียบ ทุกสิ่งล้วนพึ่งพาและอาศัยกัน  ไม่มีสิ่งใดอยู่ลำพังได้โดดๆ  นี้คือความงดงามของธรรมชาติ ดุจได้รับการรังสรรค์จากน้ำมือของเทพเจ้า

 

       ความเข้มแข็งย่อมพึ่งพาอาศัยความอ่อนโยนนุ่มนวล  ความอ่อนโยนย่อมต้องการความปกป้องที่เข้มแข็ง  ทั้งความอ่อนโยนและความเข้มแข็งต้องไปด้วยกันและสอดคล้องกัน ทุกสิ่งจึงจะลงตัวงดงาม

 

       พระราชาจะประเสริฐเพียงใด ก็ด้วยอาศัยความทุกข์ยากของราษฎรเป็นเครื่องสร้างอำนาจและพระบารมี เพราะมีประชาราษฎร์ผู้ยากไร้  ความยิ่งใหญ่แห่งจอมราชาจึงเกิดมีได้

 

       หากไม่มีชาวนาชาวไร่ ไม่มีประชาชนผู้หาเช้ากินค่ำ  อาชีพข้าราชการย่อมไม่มีความหมาย  แต่เพราะยังมีประชาชนผู้ต่ำต้อยยากไร้ ข้าราชการทั้งหลายจึงได้รับเกียรติและได้รับความสำคัญ

 

       หากไม่มีอาชญากรรม ไม่มีมิจฉาชีพ ไม่มีโจรผู้ร้าย อาชีพตำรวจหรือนักกฎหมายก็ไม่จำเป็นต้องมี แต่เพราะยังมีผู้กระทำผิดหรือมีโจรผู้ร้าย อาชีพนักกฎหมาย ทนายความ อัยการ ผู้พิพากษา จึงดูยิ่งใหญ่และทรงเกียรติเป็นที่ยำเกรง

 

         หากไม่มีอริราชศัตรูแล้วไซร้  ก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่ต้องมีทหารไว้ป้องกันประเทศ หากไม่มีเด็กนักเรียนนักศึกษา  อาชีพครูอาจารย์ก็ไม่รู้จะสอนใคร  หากมีแต่คนสุขภาพดีไม่มีใครเจ็บป่วย อาชีพแพทย์พยาบาล ก็ย่อมไร้ความหมายไปทันที
 

        หากประชาชนรู้กฎหมายและระเบียบทางราชการกันทั้งหมด อาชีพนักปกครองทุกระดับก็ไม่จำเป็นต้องมี  แต่เพราะยังมีตาสาตาสีตามาตามีผู้ที่ยังไม่รู้อะไรในสังคมนี้  จึงทำให้เกิดมีอาชีพนักปกครอง มีกำนันมีผู้ใหญ่บ้านเกิดขึ้นมา

 

          ตามวัดทั่วไปที่ยังต้องมีสมภาร ก็เพราะยังมีพระและชาวบ้านผู้ยังไม่รู้พระธรรมวินัยและอะไรควรไม่ควรให้ต้องคอยปกครองกำกับ  และหากชาวบ้านรู้ธรรมะและมีธรรมะรู้กาลเทศะกันหมด วัดทั้งหลายก็ไม่จำเป็นต้องมี  แต่เพราะทั้งพระทั้งโยมนี้ยังมีความทุกข์กันอยู่มากมาย วัดวาอารามทั้งหลายจึงสร้างได้ใหญ่โตด้วยเงินบริจาคอันมาจากศรัทธา
 

          หากโลกนี้มีแต่ผู้หญิงไม่มีผู้ชาย  ผู้หญิงทั้งหลายคงจะพากันคร่ำครวญร้องไห้มากกว่าหัวเราะเป็นแน่  และหากมีแต่ผู้ชายไม่มีผู้หญิง  โลกนี้จะไร้ความสวยงามและไม่มีความน่าอยู่แม้แต่นิดเดียว แต่เพราะโลกนี้มีทั้งผู้หญิงและมีผู้ชาย แม้จะมีการร้องไห้ แต่ทุกคนก็พอใจและไม่มีใครอยากตายแม้แต่คนเดียว  โลกใบนี้แม้บางครั้งจะดูบิดเบี้ยว แต่ทุกคนก็ยังอยากอยู่ไปจนนิรันดร์
 

          มีแต่ใครบอกว่า ฟ้าช่างสูงส่ง  แต่ดินนั้นช่างต่ำต้อย  มีคนจำนวนน้อยที่จะมองเห็นความสำคัญของดินว่า  ดินก็มีคุณค่าในตัวเองไม่แพ้ฟ้าเหมือนกัน

 

            ฟ้าก็อยู่สูงส่งตามฐานะของฟ้านั้นถูกแล้ว  แต่ดินก็มีความหมายตามฐานะของดินเช่นเดียวกัน และที่สำคัญ  บางเรื่องที่เป็นเรื่องของดินนั้น  ฟ้าก็ไม่มีทางเข้าใจและเป็นอย่างที่ดินเป็นได้อย่างแน่นอน

 

            ขอให้ฟ้าดำรงคงความสูงส่งของฟ้าไว้เถิด  ดินนี้ก็จะขอทำหน้าที่รองรับทั้งน้ำหอมและน้ำโสโครกของสัตว์โลกไปตามประสา  ความสุขของดินอาจไม่เหมือนความสุขของฟ้า  แต่ว่าเราก็มองเห็นกันและอยู่คู่กันมาไม่เคยห่างกันทั้งวันและคืน

 

             หากฟ้าไม่มีดินอยู่เป็นเพื่อน  ความสูงส่งของฟ้าย่อมไม่ปรากฏ  และเพราะมีฟ้าอยู่ข้างบน ดินนี้จึงรู้สึกอบอุ่นและมั่นคงเสมอมา
 

            เราเกิดมาด้วยกัน  เราจะอยู่คู่กันไปเช่นนี้ ไม่มีสิ่งใดมาพรากจากกันได้  นอกจากความตายเท่านั้น  เพราะว่าตั้งแต่กาลครั้งในอดีตจวบถึงปัจจุบัน  ฟ้าและดินนั้นย่อมอยู่คู่กันตลอดมา

 

                                                                                  คุรุอตีศะ
                                                                          ๓  ธันวาคม  ๒๕๕๖