คราวคับขันคุณธรรมจักปรากฏ

คราวคับขันคุณธรรมจักปรากฏ

 


                ในยามที่ชีวิตมีความผาสุก มีความสะดวกสบาย ยังไม่สามารถวัดได้ว่าบุคคลนั้นมีคุณธรรมภายในใจที่แท้จริง  คนที่อยู่ท่ามกลางความร่ำรวย มีคนเอาอกเอาใจ มีบริวารล้อมหน้าล้อมหลัง มีอำนาจวาสนา มียศถาบรรดาศักดิ์หรือมีตำแหน่งให้ใครยำเกรง หากเขามีท่าทีแห่งความสุภาพอ่อนโยน ดูมีเมตตาและมีมนุษยสัมพันธ์อันดีกับใครๆ นั่นยังไม่ใช่สิ่งที่จะวัดว่าเขามีคุณธรรมที่แท้


                การจะวัดว่าใครมีคุณธรรมสูงส่งหรือต่ำต้อยเพียงใด จะวัดได้ตอนที่เขาเผชิญกับความคับขันหรือในยามเผชิญความวิกฤติในชีวิต  ว่าเขาปฏิบัติต่อเหตุการณ์ที่เขาเผชิญอย่างไร  ในยามที่เขาถูกเหตุการณ์ในคราวคับขันเร่งรัดหรือบีบคั้น  เวลานั้นจึงเป็นเวลาอันสำคัญที่จะวัดหัวใจที่แท้จริงของเขานั้นจะเลือกรักษาไว้ซึ่งคุณธรรม หรือว่าเขาจะเลือกความอยู่รอดของตัวเอง


               จะวัดว่าบุคคลใดมีความกล้าหาญ  ก็วัดได้ตอนที่เผชิญกับเหตุการณ์เฉพาะหน้า ว่าเขาดำรงสติได้มั่นคงเพียงใดในขณะที่ทุกคนหวาดหวั่นขวัญเสีย  ความกล้าหาญของคนไม่ใช่กล้าที่จะทำอะไรตามอำเภอใจโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง  แต่คือการกล้าที่จะยืนหยัดในหลักการและจุดยืนของตัวเองได้ โดยไม่มีความหวั่นไหวไปตามกระแสความบีบคั้นในเวลานั้น ยังดำรงอยู่ในคุณธรรมต่างหาก


               บุรุษบางคนทำตัวเป็นคนดีในยามปกติสุข  ไม่ยอมกล้าเปลืองตัวเพื่อช่วยเหลือใครในคราวคับขัน เพราะกลัวว่าตัวเองนั้นจะเสื่อมเสียชื่อเสียงและผู้คนครหานินทา  อย่างนี้ยังไม่ชื่อว่าเป็นคนดีหรือมีคุณธรรมอย่างแท้จริง  แต่สำหรับบุรุษบางคน ในเวลาชีวิตปกติธรรมดาเขาก็ดำรงชีวิตไปตามปกติ ไม่ได้ชื่อว่ามีคุณธรรมอะไรนัก  เป็นเหมือนคนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง


              แต่มาวันหนึ่งมีสตรีผู้หนึ่งที่เธอไร้ที่พึ่งและใครๆไม่คิดจะเกลือกกลั้วเปลืองตัว ได้มาขอร้องให้เขาพาเธอไปฝากท้องและพาไปคลอดในโรงพยาบาล ทั้งๆที่บุรุษผู้นั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับปัญหาและปมชีวิตของเธอ  แต่ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความมีมนุษยธรรมในขณะนั้น เขาไม่ได้คำนึงถึงชื่อเสียงของตัวเองและไม่ได้คำนึงอะไรแม้แต่น้อยว่าใครจะคิดต่อตัวเขาว่าอย่างไร เพราะชีวิตของคนย่อมสำคัญกว่า


             เขาได้ตัดสินใจขับรถพาเธอไปโรงพยาบาลตามคำขอร้องของสตรีที่กำลังหมดที่พึ่ง ท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนฝูงและคนใกล้ชิด จนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นพ้นจากความวิกฤติในเวลาต่อมา อย่างนี้คือความกล้าหาญแท้และคือลูกผู้ชายตัวจริง


             ต่อมาอีกหลายปี ด้วยอานิสงส์ของบุญกุศลที่เขาได้ช่วยเหลือคนในยามวิกฤติ ชีวิตของบุรุษผู้นั้นก็มีโอกาสได้พบพบสตรีที่มีใจประเสริฐคอยอุดหนุนให้กำลังใจในการที่เขามุ่งมั่นในอุดมการณ์ ชนิดที่ผู้คนในภายหลังไม่เข้าใจว่าเหตุใดสตรีที่งดงามทั้งกายและใจผู้นั้นจึงมอบกายและใจให้เขา นี้แหละจึงมีคำกล่าวไว้คำหนึ่งว่า "บุรุษผู้กล้าหาญเท่านั้น  จึงสมควรที่จะได้สตรีผู้งดงามมาครอบครอง"


             สตรีบางคนในยามปกติก็เป็นคนร่าเริงสนุกสนานไปตามเพื่อนฝูง ดูเหมือนไม่มีคุณธรรมอะไรให้ปรากฏนัก  แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน เธอได้ตัดสินใจยืนเคียงข้างร่วมฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคกับบุุุุุคคลที่เธอเชื่อมั่นโดยไม่หวั่นไหวไปตามคำพูดของใคร แม้จะมีผู้คนมาดูหมิ่นดูแคลนหรือเหยียดหยามอย่างไร เธอก็ยังมั่นใจมีศรัทธาในตัวเองและบุคคลที่เธอเคียงข้าง นี้คือความกล้าหาญและคุณธรรมอันแท้จริงที่อาจยิ่งกว่าบุรุษบางคน


             การตัดสินว่าว่าใครดีหรือเลว  จะยังตัดสินไม่ได้ทีเดียวหากบุคคลนั้นมีชีวิตท่ามกลางความสะดวกสบาย และไม่มีอุปสรรค  ความเป็นสุภาพบุรุษที่แท้จริงจะยังไม่ปรากฏชัดในยามที่มีแต่คนเอาใจและให้เกียรติ แต่เขาจะเป็นผู้ดีหรือเป็นสุภาพบุรุษจริงหรือไม่ ต้องรอพิสูจน์กันในตอนที่บุคคลนั้นเจอความคับขันในชีวิต  หากแม้นว่าจะเจออุปสรรคปัญหาหนักหน่วงเพียงใด เขาก็ยังรักษาความเป็นสุภาพบุรุษและรักษาคุณธรรมไว้ได้  นั่นแหละคือความเป็นสุภาพบุรุษ ความเป็นลูกผู้ชายจริงของเขา


            ในยามเกิดสถานการณ์อันคับขัน  จะเป็นบทพิสูจน์คุณธรรมของบุคคลไปในตัว  ใครจะเป็นทองเก๊หรือทองเนื้อเก้า ก็จะเห็นกันในตอนนี้  ใครจะเป็นคนกล้าหาญจริง  ใครจะมีมนุษยธรรมมีเมตตาจริง ทุกสิ่งจะบีบให้แต่ละคนแสดงออกมา  ท่านจึงพูดไว้เสมอว่า "ในคราวทุกข์ยากคับขัน  ย่อมปรากฏวีรบุรุษ วีรสตรีขึ้นมาให้โลกเห็น"

 
           ในทางศาสนาท่านเคยกล่าวไว้ว่า พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีกล้าแข็งท่านจะไม่ลงมาเกิดในยามที่ผู้คนในมนุษยโลกมีความผาสุกเป็นปกติ แต่จะปรากฏขึ้นใยามวิกฤติหรือในยามเกิดกลียุค เพราะเป็นโอกาสบำเพ็ญบารมีที่กล้าแข็ง  ยามใดที่บ้านเมืองและผู้คนไร้คุณธรรม  เวลานั้นพระโพธิสัตว์ท่านจักออกทำหน้าที่เพื่อนำพาผู้คนให้มีกำลังใจในการฟันฝ่าอุปสรรคของชีวิตและดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม


            ในยามปกติทั่วไป เราจะยังวัดน้ำใจและคุณธรรมของผู้คนอย่างแท้จริงยังไม่ได้  แต่เมื่อใดเกิดวิกฤติและประสบความยุ่งยากคับขัน  เวลานั้นคือการพิสูจน์คุณธรรมประจำใจของผู้คน

 

            การพิสูจน์ว่าเป็นทองคำแท้หรือไม่  ไม่ใช่วัดจากคำพูดของใครเท่านั้นว่าเป็นของแท้ แต่เมื่อใดนำทองนั้นหลอมลงในไฟ เมื่อนั้นย่อมไม่ต้องถามใครอีกว่าเป็นทองเก๊หรือทองคำบริสุทธิ์


            การเป็นคนดี เป็นคนกล้าหาญ ไม่ใช่วัดจากคำสรรเสริญเยินยอของใคร  แต่เมื่อเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นในวันใด  นั่นแหละคือไฟหลอมทองที่จะมาวัดว่า ใช่คนดี มีความกล้าหาญจริงหรือไม่  การเป็นคนรวยแล้วไม่ลักขโมยใคร ย่อมเป็นเรื่องธรรมดา  แต่หากว่าคนใดที่แม้วันนั้นไม่มีข้าวจะหุง ทั้งที่ลูกร้องไห้ แต่ก็ไม่ยอมไปลักขโมยใคร นั่นแหละคือคนดีจริง


            ขึ้นชื่อว่าทองเนื้อเก้า ย่อมหมายความว่า แม้บุคคลจะตกอยู่ท่ามกลางตระกูลครอบครัวที่ต่ำต้อย อยู่ท่ามกลางความยากไร้ แต่ก็ไม่ทำชั่วไปตามบุคคลอื่น แม้ว่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อม และสภาพสังคมที่เลวร้ายพร้อมที่จะทำความชั่วความเลวได้ทุกเมื่อหากจะทำ แต่บุคคลนั้นก็ยังไม่ยอมทำ  นั่นแหละคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าบุคคลนั้นเป็นคนดีจริง

 

            ในยามชีวิตมีความสุขสะดวกสบาย  ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าบุคคลนั้นมีคุณธรรมแท้ แต่บุคคลใดเมื่อถึงคราวในยามคับขัน  แล้วเขาแสดงออกซึ่งคุณธรรมและความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ บุคคลนั้นย่อมได้รับการพิสูจน์ได้อย่างเด็ดขาดว่า ย่อมคือผู้ดำรงอยู่ในความเป็นผู้มีคุณธรรมอย่างแท้จริง

 

                                                                                                            คุรุอตีศะ

                                                                                                ๒๖  พฤศจิกายน  ๒๕๕๖