แสงพลุกับแสงดาว
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
แสงพลุกับแสงดาว
แสงพลุอันสวยงามหลากสีพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แล้วก็แตกออกมาเป็นดาวกระจายตื่นตาตื่นใจพร้อมทั้งส่งเสียงระเบิดอันดัง พลุทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแตกเป็นดาวกระจายลูกแล้วลูกเล่า ผู้คนโห่ร้องอื้ออึงด้วยความตะลึงงัน บรรยากาศทั่วทั้งบริเวณชะงักงันด้วยอานุภาพความยิ่งใหญ่ของแสงพลุที่ทะยานครอบครองท้องฟ้าขณะนี้
ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วดับไปในเวลาเพียงห้านาที หลังจากนั้นเสียงอันดังและแสงพลุอันตระการตาก็ไม่มีอีก บรรยากาศทุกสิ่งกลับคืนสู่ความเป็นดั้งเดิม
ดาวดวงหนึ่งปรากฏขึ้นมา ในขณะที่ผู้คนละสายตาจากท้องฟ้าไปสาละวนกับดนตรีและโต๊ะอาหาร ทุกคนไม่นำพาที่จะเงยหน้ามองท้องฟ้าอีกตลอดคืนวันนั้น แม้ว่าแสงดาวนั้นจะระยิบระยับสวยงามสักเพียงใด
เพียงชั่วเวลาห้านาทีเท่านั้น ที่ทุกคนมองเห็นความสำคัญและแหงนมองบนท้องฟ้า หลังจากนั้นทุกสายตาก็ไม่เคยมองขึ้นไปชื่นชมท้องฟ้ายามปราศจากแสงพลุอีก ทุกคนไม่ได้รับรู้อีกว่า ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้ ยังคงมีดาวดวงหนึ่งส่องแสงสม่ำเสมอตลอดมา
แสงดาวแม้ดูเล็กน้อยในสายตา แต่ว่าได้มีมาก่อนเวลาที่แสงพลุจะเกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญ แสงดาวนั้นก็ยังส่องประดับฟ้าไปจนตลอดของค่ำคืน แม้ว่าแสงพลุจะไม่มีอีกแล้ว
ผู้คนทั้งหลายมักให้ความสำคัญหรือสนใจสิ่งที่หวือหวาเพียงชั่วครู่ ไม่ได้เปิดใจรับรู้แสงดาวที่ส่องประกายประดับฟ้ามาเนิ่นนาน ด้วยเหตุนี้เขาทั้งหลายจึงพากันระทมในชีวิตกันอยู่ทั่วไป เพราะไม่ได้สนใจสิ่งที่เป็นสาระและยั่งยืน
พวกเราไม่เคยสนใจเงยหน้ามองบนท้องฟ้า นอกจากเวลาจุดพลุเพื่อฉลองงานสังสรรค์ แต่สิ่งที่พวกเราเห็นกันก็มีแต่แสงพลุชั่วเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่เคยได้ทัศนามองท้องฟ้าและมองแสงดาวอีกเลย
เพราะเหตุที่เราให้ความสำคัญแก่ความฉาบฉวยชั่วครู่ชั่วยาม ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความมีอยู่ของชีวิตที่งดงามและยั่งยืน เปรียบเหมือนการที่เราไม่เคยเหลือบสายตามองดาวดวงนั้น เพราะเหตุนั้น ชีวิตของเราจึงมีความสุขอันแสนสั้น เหมือนเพียงการได้ชมแสงพลุเพียงไม่กี่นาที
แสงพลุแม้จะสวยงามเพียงใด แต่ก็เกิดได้ในเวลาเพียงชั่วครู่ และแสงนั้นก็หมดไปเพียงไม่กี่ชั่วลมหายใจเท่านั้น แล้วผู้คนต่างพากันลืมเลือนแสงพลุนั้นไปตลอด
ส่วนแสงดาวแม้จะส่องแสงอันน้อย ณ ฟากฟ้าอันแสนไกล แต่ก็ทรงความยิ่งใหญ่ที่ส่องแสงประดับโลกสม่ำเสมออย่างยาวนานหลายล้านปี
ดาวดวงนี้ แม้บางคราวที่ชาวโลกจะพากันลืมเลือนเขาไปบ้าง แต่ก็ยังคงทำหน้าที่ส่องแสงอยู่เสมออย่างไร้เงื่อนไขและไม่มีการเกี่ยงงอนใดๆ นี้คือความยิ่งใหญ่ของดวงดาวที่สถิตอยู่บนฟากฟ้า
ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ไม่ว่าวันเวลาจะเนิ่นนานเพียงใด แต่ดวงดาวก็ยังคงส่องประกายคู่ท้องฟ้าเสมอไม่มีวันเสื่อมคลาย
แสงพลุอันแสดงอำนาจด้วยเสียงระทึกและความสวยงามอย่างยิ่งใหญ่ แต่ไม่ทันไรก็ดับแสงและสิ้นความยิ่งใหญ่ลงไปแล้ว
ส่วนแสงดาวที่บางคราวมองเห็นรำไร แต่แสงดาวก็ไม่เคยจากไปแม้แต่เพียงคืนเดียว
แสงพลุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แต่แสงดาวนั้นคงอยู่คู่ฟ้าตลอดกาล
คุรุอตีศะ
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖