แม้แพ้พ่ายยังก้าวเดิน

แม้แพ้พ่ายยังก้าวเดิน

 

              บางครั้งการยอมแพ้พ่ายกลับคือความเข้มแข็งอันลึกซึ้ง  การคิดเอาแต่จะเป็นผู้ชนะร่ำไป  กลับเป็นหัวใจที่พ่ายแพ้อยู่ลึกๆ

 

              เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเสมอไป  การรู้จักยอมแพ้ด้วยความเข้าใจ  กลับทำให้หัวใจของเราสงบและได้รับการฟื้นฟูด้วยซ้ำ

 

              ยามใดที่เรากล้าที่จะยอมแพ้  นั่นไม่ใช่ความอ่อนแอเสมอไป  แต่คือการรู้จักที่จะถอยหลังเพื่อวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดกำลังเพื่อกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางที่อยู่เบื้องหน้าของนักกระโดดสูงต่างหาก              ขอเพียงเรารู้จักที่จะยอมแพ้อย่างมีสติและมีความเข้าใจ  การพ่ายแพ้ในวันนี้นั้นอาจเป็นวันแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า

 

            การพยายามเอาชนะ  บางครั้งก็เต็มไปด้วยความกดดันและความไหวหวั่นยากจะพูดออกมาได้  เราทั้งหลายต่างต้องการเป็นผู้กำชัยชนะ  แต่กว่าจะชนะแต่ละครั้งก็ต้องสูญเสียพลังไปอย่างมากมายมิใช่หรือ

 

           ชีวิตคนเรานี้  เราไม่จำเป็นต้องทำตนเป็นนักสู้หรือทะยานไปข้างหน้าเสมอไป  การเป็นผู้ถูกกระทำหรือการยอมรับ  บางทีก็เป็นการทะนุถนอมและออมกำลังของเราไว้เพื่อเผชิญกับเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าในวันหน้า  ดังนั้น  จงยอมให้ทุกอย่างผ่านเข้ามา แม้ว่าในตอนแรกอาจหวาดหวั่นไม่มั่นใจ

 

          การยอมแพ้พ่ายในวันนี้  มิได้หมายความว่าเราจะจำนน  แต่คือการเข้ามุมให้พี่เลี้ยงให้น้ำและพัดวีเมื่อระฆังหมดยก เพื่อออกสู่กลางเวทีแล้วชกในยกต่อไปเพื่อชัยชนะเท่านั้น          แม้แพ้พ่ายในวันนี้  แต่หัวใจยังมั่นคงและเข้มแข็งเสมอ

 

          การแพ้พ่ายในวันนี้  มิได้เป็นอุปสรรคในการที่จะก้าวเดินต่อไป  เพราะนี่คือการยอมพ่ายแพ้เพื่อพักฟื้นเก็บกำลัง  แต่หัวใจนั้นยังเต็มเปี่ยมด้วยความหวังไม่เคลื่อนคลาย

 

         แม้หัวใจจะเจ็บช้ำและร้องไห้บ้าง  แต่น้ำตาของวันนี้มิได้หลั่งไหลออกมาอย่างสูญเปล่าดอก แต่น้ำตาทุกหยดที่ไหลหลั่งและความสะอื้นนี้  จะเป็นปุ๋ยอย่างดีในการจะบำรุงความแข็งแกร่งให้แก่หัวใจของเรา

 

            เราจะไม่ให้น้ำตาของเราต้องไหลหลั่งและสะอื้นไห้อย่างไร้ค่า  แต่ว่าเราจะเอาเขามาเป็นพลังในการที่จะยืนหยัดและก้าวเดินต่อไปตามที่หัวใจของเรามุ่งไขว่คว้า   น้ำตานี้จะกลายเป็นน้ำทิพย์ในเวลาต่อมาเพื่อให้เราก้าวไปสู่ความสมหวังต่อไป

 

          จงหันมองดวงจันทร์ที่อยู่กลางฟากฟ้า......... บางครา... จันทร์นั้นก็หม่นหมองเพราะเมฆหมอกมาปิดบัง  บางครั้ง.....  จันทร์ก็ใสกระจ่างอยู่ท่ามกลางฟากฟ้าอย่างสง่างาม

 

        ชีวิตคนเราก็คล้ายศศิธรที่มาเยือนฟากฟ้ายามค่ำคืน  บางคราปลอดโปร่งเข้มแข็ง  บางครั้งมืดมัวอ่อนแรงสุดอ่อนแอ  แต่ไม่ว่าจะอ่อนแอหรือเข้มแข็ง  เราก็จะยังคงมีดวงใจที่มั่นคงในการก้าวเดินต่อไป  อย่าท้อแท้

 

          ขอให้เราทั้งหลายจงเปิดใจกว้างและยอมรับทั้งค่ำคืนที่ใสกระจ่างและค่ำคืนที่มืดมัว  เพราะแม้จะมืดมัวแค่ไหน ก็ต้องมีคืนที่ใสกระจ่างรออยู่เป็นแน่  ตอนนี้อาจอยู่กับความอ่อนแอ  แต่อย่าเพิ่งสิ้นหวัง  เพราะอีกไม่นานความเข้มแข็งและใจที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังจะมาเยือน

 

         หัดให้หัวใจดวงนี้ได้รู้จักและเรียนรู้ที่จะยอมแพ้ไว้บ้าง  ไม่เป็นไรมากหรอก  เพราะนั่นคือการออมพลังหรือพักฟื้นเพื่อเป็นผู้เข้มแข็งและองอาจในภายหน้า  การพ่ายแพ้บางครั้งก็ไม่เลวจนเกินไป  เพราะทำให้หัวใจของเราได้พักผ่อนและสงบรำงับ

 

           อันที่จริง.. แพ้พ่ายในวันนี้มิใช่คือการพ่ายแพ้แท้จริงหรอก  เพราะเราเองเป็นคนชอบเอาชนะและก็ชนะมามากมาย  แต่ความแพ้พ่ายที่เรายอมรับและเต็มใจในวันนี้ จะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ชนะทั้งคนอื่นและตนเอง

 

           ท่องไว้ในใจว่า.....แม้แพ้พ่ายสักเพียงใด  แต่หัวใจดวงนี้ยังมั่นใจและพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปเสมอ

 

                                                                                                            คุรุอตีศะ

                                                                                                  ๑๗  พฤศจิกายน  ๒๕๕๖

                                                                                        ขึ้น  ๑๕  ค่ำ  เดือน  ๑๒  เวลา  ๑๘.๓๖  น.