แม้แพ้พ่ายยังก้าวเดิน
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
แม้แพ้พ่ายยังก้าวเดิน
บางครั้งการยอมแพ้พ่ายกลับคือความเข้มแข็งอันลึกซึ้ง การคิดเอาแต่จะเป็นผู้ชนะร่ำไป กลับเป็นหัวใจที่พ่ายแพ้อยู่ลึกๆ
เราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเสมอไป การรู้จักยอมแพ้ด้วยความเข้าใจ กลับทำให้หัวใจของเราสงบและได้รับการฟื้นฟูด้วยซ้ำ
ยามใดที่เรากล้าที่จะยอมแพ้ นั่นไม่ใช่ความอ่อนแอเสมอไป แต่คือการรู้จักที่จะถอยหลังเพื่อวิ่งไปข้างหน้าอย่างสุดกำลังเพื่อกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางที่อยู่เบื้องหน้าของนักกระโดดสูงต่างหาก ขอเพียงเรารู้จักที่จะยอมแพ้อย่างมีสติและมีความเข้าใจ การพ่ายแพ้ในวันนี้นั้นอาจเป็นวันแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า
การพยายามเอาชนะ บางครั้งก็เต็มไปด้วยความกดดันและความไหวหวั่นยากจะพูดออกมาได้ เราทั้งหลายต่างต้องการเป็นผู้กำชัยชนะ แต่กว่าจะชนะแต่ละครั้งก็ต้องสูญเสียพลังไปอย่างมากมายมิใช่หรือ
ชีวิตคนเรานี้ เราไม่จำเป็นต้องทำตนเป็นนักสู้หรือทะยานไปข้างหน้าเสมอไป การเป็นผู้ถูกกระทำหรือการยอมรับ บางทีก็เป็นการทะนุถนอมและออมกำลังของเราไว้เพื่อเผชิญกับเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าในวันหน้า ดังนั้น จงยอมให้ทุกอย่างผ่านเข้ามา แม้ว่าในตอนแรกอาจหวาดหวั่นไม่มั่นใจ
การยอมแพ้พ่ายในวันนี้ มิได้หมายความว่าเราจะจำนน แต่คือการเข้ามุมให้พี่เลี้ยงให้น้ำและพัดวีเมื่อระฆังหมดยก เพื่อออกสู่กลางเวทีแล้วชกในยกต่อไปเพื่อชัยชนะเท่านั้น แม้แพ้พ่ายในวันนี้ แต่หัวใจยังมั่นคงและเข้มแข็งเสมอ
การแพ้พ่ายในวันนี้ มิได้เป็นอุปสรรคในการที่จะก้าวเดินต่อไป เพราะนี่คือการยอมพ่ายแพ้เพื่อพักฟื้นเก็บกำลัง แต่หัวใจนั้นยังเต็มเปี่ยมด้วยความหวังไม่เคลื่อนคลาย
แม้หัวใจจะเจ็บช้ำและร้องไห้บ้าง แต่น้ำตาของวันนี้มิได้หลั่งไหลออกมาอย่างสูญเปล่าดอก แต่น้ำตาทุกหยดที่ไหลหลั่งและความสะอื้นนี้ จะเป็นปุ๋ยอย่างดีในการจะบำรุงความแข็งแกร่งให้แก่หัวใจของเรา
เราจะไม่ให้น้ำตาของเราต้องไหลหลั่งและสะอื้นไห้อย่างไร้ค่า แต่ว่าเราจะเอาเขามาเป็นพลังในการที่จะยืนหยัดและก้าวเดินต่อไปตามที่หัวใจของเรามุ่งไขว่คว้า น้ำตานี้จะกลายเป็นน้ำทิพย์ในเวลาต่อมาเพื่อให้เราก้าวไปสู่ความสมหวังต่อไป
จงหันมองดวงจันทร์ที่อยู่กลางฟากฟ้า......... บางครา... จันทร์นั้นก็หม่นหมองเพราะเมฆหมอกมาปิดบัง บางครั้ง..... จันทร์ก็ใสกระจ่างอยู่ท่ามกลางฟากฟ้าอย่างสง่างาม
ชีวิตคนเราก็คล้ายศศิธรที่มาเยือนฟากฟ้ายามค่ำคืน บางคราปลอดโปร่งเข้มแข็ง บางครั้งมืดมัวอ่อนแรงสุดอ่อนแอ แต่ไม่ว่าจะอ่อนแอหรือเข้มแข็ง เราก็จะยังคงมีดวงใจที่มั่นคงในการก้าวเดินต่อไป อย่าท้อแท้
ขอให้เราทั้งหลายจงเปิดใจกว้างและยอมรับทั้งค่ำคืนที่ใสกระจ่างและค่ำคืนที่มืดมัว เพราะแม้จะมืดมัวแค่ไหน ก็ต้องมีคืนที่ใสกระจ่างรออยู่เป็นแน่ ตอนนี้อาจอยู่กับความอ่อนแอ แต่อย่าเพิ่งสิ้นหวัง เพราะอีกไม่นานความเข้มแข็งและใจที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังจะมาเยือน
หัดให้หัวใจดวงนี้ได้รู้จักและเรียนรู้ที่จะยอมแพ้ไว้บ้าง ไม่เป็นไรมากหรอก เพราะนั่นคือการออมพลังหรือพักฟื้นเพื่อเป็นผู้เข้มแข็งและองอาจในภายหน้า การพ่ายแพ้บางครั้งก็ไม่เลวจนเกินไป เพราะทำให้หัวใจของเราได้พักผ่อนและสงบรำงับ
อันที่จริง.. แพ้พ่ายในวันนี้มิใช่คือการพ่ายแพ้แท้จริงหรอก เพราะเราเองเป็นคนชอบเอาชนะและก็ชนะมามากมาย แต่ความแพ้พ่ายที่เรายอมรับและเต็มใจในวันนี้ จะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ชนะทั้งคนอื่นและตนเอง
ท่องไว้ในใจว่า.....แม้แพ้พ่ายสักเพียงใด แต่หัวใจดวงนี้ยังมั่นใจและพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปเสมอ
คุรุอตีศะ
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เวลา ๑๘.๓๖ น.