อยู่กับความดี

                                                                อยู่กับความดี

                         มนุษย์เราทุกคนปรารถนาความสุข  ความร่าเริงเบิกบาน  ไม่มีใครอยากพบกับความทุกข์ ความเศร้า ความหม่นหมอง  แต่ก็น่าแปลกที่เราไม่ค่อยได้พบกับอย่างแรก  แต่มักเจออย่างหลังมากกว่า  แต่ละคนล้วนคร่ำครวญเวทนา             

                       

                        แม้ไม่กล้ากล่าวออกมา เพราะรักษาศักดิ์ศรีและรักษาฟอร์มเพื่อให้ใครๆมองว่าดูดีและน่าเลื่อมใสศรัทธา  แต่ตัวเองก็รู้แก่ใจดีว่า ความสุข ความเบิกบานที่ใครๆต่างก็เรียกหานั้น  ตัวเราเองก็ไม่ค่อยได้พบเหมือนกัน            

 

                        ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเราไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าชีวิตนี้ควรจะอยู่กับความดี มากกว่าจะอยู่กับความอยาก  เราเอาความอยากมี อยากได้ อยากเป็นต่างๆเหล่านี้ให้อยู่เหนือกว่าความดีตลอดเวลา             

 

                        แม้ปากของเรามักจะพูดกับใครต่อใครว่า เราทั้งหลายควรทำความดี  ความดีเป็นของประเสริฐ  แต่จริงๆแล้วในส่วนลึกหัวใจของเรานั้น  เราอยากจะได้อะไรบางอย่าง อยากจะมีอะไรบางอย่าง อยากจะเป็นอะไรบางอย่าง มากกว่าจะอยากได้ความดี และเราก็กล่าวถึงความดีพออ้อมแอ้มขอไปที  เพื่อให้ใครๆเชื่อว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบความดีกับเขาเหมือนกันนะ                       

 

                        การที่จะได้ชื่อว่าเป็นผู้อยู่กับความดี เป็นผู้รักความดี  จนชีวิตของเรามีความสุขและเบิกบานนั้น  เพียงแค่การพูดถึงความดีและชื่นชมความดีนั้นยังไม่เพียงพอ  แต่ต้องมีศรัทธาต่อความดีถึงขั้นปลงใจได้เด็ดขาดว่า การทำความดีนั้น  ไม่ต้องรอให้ใครมารับรู้ มาพบเห็น หรือมาชื่นชมว่าเราทำดี  ทำความดีในขณะใด  ก็มีความสุขใจในขณะนั้น  เมื่อทำบุญ ทำกุศล ทำความดีบ่อยๆเข้า ไม่ท้อแท้ ไม่ท้อถอย  ชีวิตที่เคยลำเค็ญจะดีขึ้นทันตาเห็นในชาติปัจจุบันนี้                     

 

                        ชีวิตของคนเราทกคน  ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งความเปลี่ยนแปลง  ที่เราเป็นทุกข์เพราะเราจะเอาแต่สิ่งที่ถูกใจ  แต่สิ่งที่ไม่ถูกใจจะไม่เอา  แต่ชีวิตก็สอนสัจธรรมแก่เราตลอดมาว่า  เราต้องได้รับทั้งสิ่งที่ถูกใจและสิ่งที่ไม่ถูกใจอยู่เสมอ แม้ว่าเราจะเลือกเอาแต่สิ่งที่ถูกใจก็ตาม  นี้คือความศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่  ที่ไม่มีอำนาจใดในหล้าจะมาเหนือกว่าความศักดิ์สิทธิ์นี้ได้                       

 

                        จงพยายามฝึกใจดวงนี้ให้ค่อยๆยอมรับความจริงในข้อนี้ทีละน้อย  จนกระทั่งความเข้าใจและการยอมรับเพิ่มพูนขึ้นตามลำดับ  ตอนแรกอาจเจ็บปวดและมีรอยแผลรอยขีดข่วนบ้างเป็นธรรมดา  เพราะใจดวงนี้เต็มไปด้วยความยึดมั่นถือมั่นและเอาแต่ใจมานาน  เมื่อเข้าใจและยอมรับความจริงมากเข้า  ใจดวงนี้จะพัฒนาและเข้มแข็งขึ้นตามลำดับ  นี่แหละคือการปฏิบัติธรรมในชีวิตจริงที่หลายคนมองข้ามไป                        

 

                        จะอยู่กับความดีได้อย่างมั่นคง  ต้องหมั่นมีสติต้อนรับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตอยู่เสมอ  อย่ายึดมั่นแต่จะเอาแต่ความถูกใจหรือความสมหวังอย่างเดียว เพราะชีวิตนี้จะเติบโตและแข็งแกร่งได้ก็เพราะได้อาศัยความถูกใจและความไม่ถูกใจนี้นั่นเองคอยเป็นครูอบรมสั่งสอนหัวใจดวงนี้ให้เข้าใจความเป็นจริงของชีวิต                      

 

                        จงเปิดโอกาสให้ความผิดหวังมาเยือนบ้างในบางครั้ง อันเป็นความยุติธรรมอย่างแท้จริงชองชีวิตมนุษย์ทุกคน อยู่กับความเปลี่ยนแปลงไว้เสมอ  เพราะเดี๋ยวความสุขก็เปลี่ยนแปลง และความทุกข์ก็เปลี่ยนแปลงแล้ว  ไม่มีสิ่งใดคงทนถาวรอยู่ได้ทั้งความสุขและความทุกข์  เราจึงต้องกล้าเผชิญได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จหรือล้มเหลว แล้วก็เริ่มต้นใหม่ในสิ่งที่ดีงามต่อไป                         

 

                         อยู่กับความดี  อยู่กับความเปลี่ยนแปลง  อยู่กับความจริงของชีวิตอย่างนี้ไว้เสมอ  ความดีจะอยู่กับเราได้คงทน  และความสุข ความร่าเริงเบิกบาน จะเกิดขึ้นแก่ชีวิตของเรามากขึ้นว่าเดิมอย่างเป็นไปเอง                         

 

                        ในค่ำคืนที่เป็นช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดนั้น  หากมั่นคงไม่ไหวหวั่นและดำรงสติไว้มั่น  หลังจากนั้นจะเป็นเวลาแห่งรุ่งอรุณของวันใหม่ที่ย่างกรายมาเยือน  เวลาที่มืดมิดที่สุดนั้น  ย่อมคือเวลาที่ใกล้อรุณนั่นเอง  

 

           คุรุอตีศะ

                      ๓๑  ตุลาคม  ๒๕๕๖