มีโคลนตมจึงมีดอกบัว
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
มีโคลนตมจึงมีดอกบัว
หากไม่มีถังขยะที่น่ารังเกียจ บ้านย่อมไม่สะอาด เพราะถังขยะคอยรองรับสิ่งสกปรกและสิ่งที่ถูกทิ้งแล้ว ความสะอาดตาภายในบ้านจึงเกิดขึ้นได้
หากไม่มีโจรขโมยและอาชญากรรม อาชีพตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล ก็ย่อมหมดไปด้วย เพราะยังมีโจรขโมย มีศัตรูคอยรุกราน มีคนทำผิดก่ออาชญากรรม อาชีพตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล จึงมีความหมายและกลายเป็นสิ่งสำคัญในสังคม
หากไม่มีคนพาลสันดานหยาบหรือคนชั่วร้าย ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องมีเทพเจ้าลงมาจุติเพื่อปราบปรามอธรรมและอภิบาลคนดี ความชั่วร้ายที่ปรากฏขึ้นทั่วไปในยุคใดสมัยใด ย่อมแสดงว่า อีกไม่นานจะมีคนดีมีคุณธรรมที่ปรีชาสามารถ จักอุบัติขึ้นตามมาเพื่อสร้างสรรค์ความสงบสุขให้เกิดขึ้นแก่มหาชน
ในท่ามกลางสังคมที่ไร้ศีลธรรมอย่างถึงที่สุด ย่อมต้องปรากฏเทพเจ้าขึ้นมาในท่ามกลางความเลวร้ายนั้นอย่างแน่นอน และในสังคมที่สงบสุขเรียบร้อย ก็อาจมีคนทำผิดต่อกฎเกณฑ์ของสังคมหรือมีคนฝ่าฝืนศีลธรรมเกิดขึ้น นี้คือกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ที่สรรพสิ่งย่อมเกิดมีคู่กันอย่างนี้เสมอ
ความดี ความชั่ว, กลางคืน กลางวัน, หญิง ชาย สิ่งเหล่านี้คือความเป็นของคู่ที่มีอยู่ภายใต้วัฏฏสงสาร มีเพียงสิ่งเดียวที่พ้นไปจากสภาพความเป็นคู่ สิ่งนั้นก็คือพระนิพพาน ตราบใดที่ดวงจิตของบุคคลยังว่ายวนอยู่ในกระแสวังวนแห่งดี – ชั่ว, ถูก – ผิด, บุญ – บาป เมื่อนั้นก็ยังต้องมีความทุกข์ความหม่นหมอง มีความวิตกกังวลประจำดวงจิต ไม่อาจอิสระได้อย่างแท้จริงเป็นธรรมดา
ที่เราเคารพบูชาน้อมกายและใจกราบไหว้ปวงเหล่าพระอรหันต์ทั้งหลาย ก็เพราะเคารพบูชาจิตอันบริสุทธิ์หมดจดตลอดสายของท่าน เพราะท่านก้าวข้ามไปพ้นแล้วจากดีชั่ว ถูกผิดทั้งปวง มีดวงจิตที่ปราศจากความวิตกกังวลใดๆ มีความอิสระ โปร่งเบา ไร้มลทิน
ในเมื่อมนุษย์ทุกคนที่เกิดมาและมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ล้วนแล้วแต่มีกระแสแห่งดวงจิตที่ตกอยู่ภายใต้ความยึดมั่นถือมั่นในดี – ชั่ว หรือถูก – ผิด ด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงพากันระทมทุกข์และหม่นหมองทั้งคนดีและคนชั่ว มีความทุกข์เหมือนกันหมดทั้งคนถูกและคนผิด มีความวิตกกังวลเหมือนกันทั้งคนบุญและคนบาป อันเป็นไปตามกฎแห่งสัจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า “ ความทุกข์ทั้งมวลในโลก ล้วนเกิดมาแต่ความยึดมั่นถือมั่น”
เมื่อได้ตระหนักรู้ในสัจธรรมข้อนี้ เราจึงจะเกิดดวงจิตที่มีเมตตาและให้อภัยแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เป็นการให้อภัยและอโหสิกรรมได้อย่างเต็มเปี่ยมทั้งดวงใจ ทานอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เหนือกว่าทานวัตถุใดๆคืออภัยทาน จึงเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ และอภัยทานนี้คือทานอันเยี่ยมยอดยิ่งกว่าสังฆทานหรือเงินทองใดๆ ผู้ใดสามารถให้อภัยทานได้ ผู้นั้นได้ชื่อว่า เปิดประตูสู่สวรรค์ กำลังเดินขึ้นบันไดสู่ความเป็นพระอริยบุคคลในชาตินี้
ในโคลนตมอันใครๆนึกรังเกียจและขยะแขยงไม่อยากแตะต้องหรือเข้าใกล้ แต่ก็เฉพาะในโคลตมเท่านั้น จึงจะเกิดดอกบัวขึ้นมาได้ หากไม่มีโคลนตม ดอกบัวสำหรับบูชาพระที่สูงส่งก็ย่อมมีไม่ได้ ฉันใด ในสังคมใดมีคนดี ก็ย่อมต้องมีคนชั่วเป็นธรรมดา
ในชีวิตของพระภิกษุหรือนักบวชผู้ถือเพศพรหมจรรย์ โดยทั่วไปล้วนมีหลักการสำคัญว่า “สตรี คือศัตรูของพรหมจรรย์” แต่ชีวิตพระภิกษุทั้งหลายนั้น ผู้ที่ออกมาใส่บาตรให้ฉันพร้อมน้อมกายกราบไหว้ ส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสตรีทั้งนั้น ก่อนจะเป็นพระอรหันต์ ก็ได้สตรีทั้งหลายเหล่านั้นคอยอุปัฏฐากเกื้อกูล ด้วยน้ำใจอันงดงามและคอยเคารพบูชา นี้คือ ดอกบัวอันบริสุทธิ์ เกิดขึ้นมาได้จากโคลนตมโดยแท้
“สตรี คือศัตรูของพรหมจรรย์” คือคำสอนของพระอรหันต์ผู้จำต้องใช้อุบายสอนภิกษุปุถุชนผู้อินทรีย์ยังอ่อน ยังตัดสังโยชน์เบื้องต้นไม่ได้ เพราะสติและปัญญายังไม่เข้มแข็งพอที่จะฟันฝ่ากระแสคลื่นกิเลส ดุจพ่อที่จำต้องมีอุบายสอนลูกน้อยไม่ให้เข้าใกล้ไม้ขีดหรือไฟไว้ก่อน แต่เมื่อลูกเติบใหญ่จนเข้าครัวได้ พ่ออาจใช้ลูกติดไฟหุงข้าวต้มแกงให้กินก็ได้ ทำนองเดียวกับพระบรมครูสมัยยังบำเพ็ญเพียร ต้องทำทุกกรกิริยา อดอาหาร ทรมานตน อยู่เป็นเวลานานถึง ๖ ปี กับเหล่าปัญจวัคคีย์ก็ยังไม่อาจตรัสรู้ สุดท้ายเมื่อได้เสวยข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาภายใต้ร่มโพธิ์อันร่มรื่นเย็นสบาย ณ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา จึงทรงตรัสรู้ในวันเพ็ญวิสาขบูชา
วิสัยของพระโพธิสัตว์ทั้งปวง ย่อมไม่ตกอยู่ในอำนาจของสตรีเพศ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ดูหมิ่นสตรีเพศ บุรุษผู้มุ่งสู่ความเป็นพระอริยบุคคล ย่อมไม่ลุ่มหลงในสตรี และในขณะเดียวกันก็ไม่ดูหมิ่นสตรี เพราะสำนึกอยู่เสมอว่า ที่ตนได้เกิดมาลืมตาดูโลกใบนี้ได้ก็เพราะอาศัยครรภ์มารดา และเติบใหญ่ด้วยน้ำมือของสตรี
สตรีผู้เป็นคู่บารมีของพระโพธิสัตว์ และสตรีผู้มุ่งสู่ความเป็นพระอริยบุคคล ย่อมไม่ลบหลู่ดูหมิ่นหรือทำลายภาวะความเป็นผู้นำของบุรุษเพศ แม้บางคนจะมีบารมีและความสามารถสูงกว่าบุรุษเพศ แต่ก็ยังอ่อนน้อมให้เกียรติและเคารพบุรุษไว้เสมอ ดังเช่นนางวิสาขา มหาอุบาสิกา สตรีเช่นนี้ปรากฏอยู่ในสังคมใด สังคมนั้นย่อมร่มเย็น เป็นมิ่งขวัญของพระศาสนาและของประเทศชาติบ้านเมือง แม้บุรุษอาชาไนยก็ยอมรับโดยดุษฎี
สำหรับบุรุษ การทำร้ายใดที่เกิดจากสตรี ย่อมไม่มีสิ่งใดยิ่งไปกว่า การทำลายความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจของตน และสำหรับสตรีนั้น การดูหมิ่นใด ย่อมไม่เจ็บปวดร้าวรานเท่ากับ การที่บุรุษปฏิบัติต่อเธอดุจเพียงวัตถุสนองอารมณ์เท่านั้น
ในประวัติศาสตร์ของหลายชนชาติ มีสตรีชั้นต่ำสามัญธรรมดา แต่ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วยความรักอันบริสุทธิ์ของเธอ ได้สร้างมหาบุรุษ และวีรบุรุษมากมาย มานักต่อนักแล้ว
ดอกไม้ชนิดอื่นอาจเกิดและงอกงามได้บนผืนดินทั่วไป แต่ดอกบัวนั้น ต้องอาศัยน้ำและโคลนตม จึงจะงอกงามขึ้นมาได้และชูดอกรอให้คนเก็บไปบูชา
สิ่งอันสูงสุด บางครั้งต้องอาศัยสิ่งต่ำสุด สิ่งงดงามที่สุด อาจต้องอาศัยโคลนตมน่ารังเกียจ จึงถือกำเนิดขึ้นมาได้ สรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนเชื่อมโยงและอาศัยกันเช่นนี้เสมอ
คุรุอตีศะ
๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๖