พลังแห่งศรัทธา
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
พลังแห่งศรัทธา
ศาสตร์แห่งโยคีของอินเดียกล่าวไว้ว่า เมื่อคนเราอายุมากขึ้นถึงอายุ ๓๕ ปี พลังชีวิตของเขาจะถึงจุดสูงสุด จากที่เคยต่อต้านสังคมวัฒนธรรมประเพณีสมัยเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาว หรือทำอะไรหวือหวาไม่แคร์สายตาของสังคมและของใครๆ เขาจะเริ่มกลายเป็นคนใหม่ที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ความเป็นฮิปปี้หรือชอบทำอะไรนอกกรอบ ชอบฝ่าฝืนระเบียบแบบแผนที่เคยเป็นมาแต่เดิมจะหายไป เริ่มมีความเชื่อในประเพณี และยอมรับวัฒนธรรม เริ่มต้องการความมั่นคงในชีวิต เริ่มสำนึกว่าชีวิตไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดอีกแล้ว
พอช่วงใกล้อายุ ๔๒ ปี ศาสนาเริ่มเป็นสิ่งที่มีความหมายสำหรับชีวิต เขาเริ่มยอมรับเอาศาสนาเข้ามาสู่ชีวิตอย่างจริงจัง เริ่มมีความเข้าใจลึกซึ้งในศาสนาอย่างไม่เคยคิดว่าตัวเองจะซาบซึ้งได้อย่างนี้มาก่อน
หากในสังคมใดไม่สอนศาสนาที่ถูกต้องให้ผู้คนในสังคมได้ยึดเหนี่ยว ผู้คนในสังคมนั้นจะป่วยเป็นโรคจิต โรคซึมเศร้าที่ใช้เรียกกันอยู่ในเวลานี้จะเกิดขึ้นแทรกซึมไปทั่วสังคมนั้น เพราะจิตของคนในวัยนั้นจะเรียกร้องหาที่พึ่งทางใจ ไม่ใช่ความสนุกสนานเพลิดเพลินในทางเพศเหมือนก่อนหน้านั้นอีกแล้ว หากเขาได้เรียนรู้วิชาความจริงของชีวิต เรื่องราวหลังความตาย ได้มีความอบอุ่นอยู่ในศาสนา จิตวิญญาณของเขาจะพัฒนาไปสู่การภาวนาโดยธรรมชาติ
เมื่ออายุ ๔๙ ปี ผู้ชายจะเริ่มไม่สนใจผู้หญิง ผู้หญิงเริ่มไม่สนใจผู้ชาย เริ่มเข้าสู่วัยทอง ผู้ชายเริ่มไม่สนใจในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ เริ่มรู้สึกว่ามันได้กลายเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญในชีวิต เป็นเรื่องสำหรับผู้ที่ยังไม่เจริญพัฒนา ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขามาก
ในอินเดียเรียกชีวิตของคนในวัยนี้ว่า “อาศรมวนปรัสถ์” คือ คนเริ่มต้องการความวิเวก ความสงบ หันหน้ามุ่งสู่ป่า อยากหันหลังให้กับธุรกิจการงานที่ตรากตรำมาตลอดนั้นเสียที เขาควรจะหันหลังให้กับชีวิต หันหลังให้กับความทะเยอทะยาน และความปรารถนาทั้งหลาย เขาควรจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ความสันโดษ สู่การเป็นอยู่ตามลำพัง เป็นตัวของตัวเอง
หากเขาไม่เข้าใจตัวเอง เพราะสังคมไม่สอนหลักชีวิตเช่นนี้แก่เขา ผู้ชายในวัยนี้บางคนอาจจะหันไปมีอนุภรรยาหรือผิดพลาดในชีวิตทั้งที่เป็นคนดีมาตลอด โดยที่สังคมและตัวเขาก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังก็คือ การไม่เข้าใจตนเองว่าแท้จริงแล้ว เขาเพียงแค่ต้องการความมั่นใจในตนเองให้เหมือนตอนแต่งงานใหม่ๆที่ภรรยาเคารพนับถือในตัวเขาดุจเทพเจ้า ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ชีวิตและจิตวิญญาณภายในของเขาต้องการความอิสระ ความเป็นตัวของตัวเอง ต้องการหลุดพ้นจากการครอบงำและการใช้อำนาจเหนือตนเองของภรรยาเท่านั้น
ภรรยาส่วนใหญ่ที่ได้สามีดี ก็มักลำพองใจว่าสามีรักตัวและอยู่ในอำนาจของตัวจนชินเคยและเกิดความทะนงตัว ผู้ชายในวัยนั้นส่วนใหญ่จะมีฐานะที่มั่นคง จึงย่อมเป็นที่หมายปองของสตรีที่เห็นแก่เงินมากกว่าความรักแท้ แบบที่ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากมีให้แก่ตน เมื่อได้พบสตรีที่มาเอาอกเอาใจยกย่องดุจเทพบุตรก็หลงกลได้ง่าย ฝ่ายภรรยาก็มัวแต่ลำพองตนว่าได้สามีดี ส่วนสามีก็ประมาทว่าสตรีทั่วไปจะจริงใจเหมือนภรรยาของตน
ผู้ชายที่เป็นคนดีรักครอบครัวมาแต่เดิมส่วนใหญ่ หลายคนที่พลาดพลั้งไปก็เพราะไม่เข้าใจและไม่มีความรู้ในศาสตร์แห่งโยคี อันเป็นภูมิปัญญาแห่งบรรพกาลในข้อนี้
หากเข้าใจในเคล็ดลับข้อนี้ เขาจะเกิดการพัฒนาอันใหญ่หลวงในชีวิต จะอาศัยความอิ่มตัวในครอบครัว พัฒนาชีวิตก้าวขึ้นสู่ความสงบและร่มเย็นภายใน ความรักแท้ที่ไม่ต้องอาศัยการสัมผัสทางกาย เรื่องทางเพศจะกลายเป็นเรื่องรองลงไปหรือไม่สำคัญอีกแล้ว จะนำพาคู่ครองและบุตรหลานก้าวสู่ความรักแห่งพุทธะที่ยิ่งใหญ่ จะกลายเป็นพ่อบ้านที่อบอุ่น เป็นที่น่าศรัทธา เป็นพระในบ้านของลูกๆหลานๆ อยู่ด้วยกันด้วยความรัก โดยต่างมีความเคารพและมีเมตตาต่อกัน พัฒนาไปสู่ความรักแบบพระโสดาบันต่อไป
พอถึงอายุ ๕๖ ปี คนจะเริ่มอยู่กับตัวเองมากขึ้น หากเข้าใจการเจริญภาวนา จะมีชีวิตที่สงบอันลึกซึ้ง ไม่มีความรู้สึกที่ว้าเหว่อีกแล้ว และเมื่อถึงอายุ ๖๓ ปี ชีวิตจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภายใน เป็นช่วงชีวิตที่สมบูรณ์ เกิดความเข้าใจอันลึกซึ้ง มีไหวพริบปฏิภาณ ความไร้เดียงสาได้กลับมาสู่ชีวิตอีกครั้งหนึ่ง จะเป็นที่พึ่งทางจิตใจของคนรอบข้างและของคนอื่นได้ แม้จะไม่ถือเพศออกบวชเป็นบรรพชิตก็ตาม แต่ถ้าออกบวชก็จะเป็นที่พึ่งให้แก่คนทั้งหลายได้กว้างขวางและได้สืบทอดอายุพระศาสนาอย่างแท้จริงจนถึงวันสังขารแตกดับ
ขอเพียงเราทั้งหลายมีพลังเต็มเปี่ยมด้วยพลังศรัทธา แม้ว่าในบางคราอาจยังไม่เกิดสติปัญญาเข้าใจชีวิต แต่พลังแห่งศรัทธาจะนำพาเราไปสู่ในทางที่สูงขึ้น ในยามใดใจไม่ปกติ ไม่สามารถเจริญสติอย่างเป็นธรรมชาติได้ ก็นั่งเงียบๆ กำหนดรู้ดูลมหายใจ แล้วปล่อยวางเรื่องราวทั้งปวงไว้ชั่วคราว
หากยามใดใจหวาดหวั่นหรือฟุ้งซ่านเกินไป ภาวนาอย่างไรใจก็ไม่สงบลงได้ ก็อ้างเอาพลังอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นพลังให้แก่ชีวิตของเรา พลังศรัทธาในศาสนาและเชื่อมั่นในอานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย จะขจัดปัดเป่าภัยอันตรายทั้งปวงได้ ขอให้เชื่อมั่นและปลงศรัทธาไว้เถิด อานุภาพแห่งสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์จะคุ้มครองป้องกันและอภิบาลผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังแห่งศรัทธาเสมอ
คุรุอตีศะ
๒๗ กันยายน ๒๕๕๖