อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์

อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์


             สิ่งต่างๆที่เรามองเห็นหรือสัมผัสได้  เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสิ่งทั้งหลายที่มีอยู่จริงในโลก  เหมือนภูเขาน้ำแข็งที่จมอยู่ในมหาสมุทร ที่มองเห็นยอดเล็กนิดเดียว  แต่ส่วนที่จมอยู่ข้างล่างนั้นมากมายมหาศาล กว่าส่วนที่มองเห็นอยู่เหนือผิวน้ำหลายเท่านัก


            อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความลี้ลับทั้งปวง  ซึ่งหลักการวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่คนในยุคนี้ยังพิสูจน์และอธิบายไม่ได้นั้นก็เช่นกัน  คือ มีความเร้นลับและทรงพลังมากมายเกินกว่าวิสัยของปุถุชน คนที่เต็มไปด้วยกิเลสทั้งหลายทั่วไปจะหยั่งถึงได้  และผู้ที่สัมผัสได้ก็ไม่มีคำพูดใดมาอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้  เพราะเป็นประสบการณ์ที่เหนือโลก เหนือคำพูด เหนือเกินกว่าวิชาการใดที่ร่ำเรียนกันอยู่ในทางโลก ที่จะนำมาใช้เป็นฐานความรู้ในการอธิบายได้  คนที่ไม่ได้มีประสบการณ์และไม่ได้สัมผัส ก็มักจะกล่าวหาคนอื่นว่า “งมงาย” ส่วนผู้ที่มีประสบการณ์และสัมผัสได้  ก็ไม่มีคำพูดใดจะตอบโต้  ได้แต่เถียงในใจว่า “แกนั่นแหละงมงาย ที่ไม่รู้คุณค่าของพลังยิ่งใหญ่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และของจักรวาลนี้”


           มีอยู่เรื่องหนึ่งที่อยากยกมาให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาดู แล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว  แต่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้


          เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ จบลง ประธานาธิบดีเดอโกลล์ ของฝรั่งเศส กลายเป็นวีรบุรุษของชาติ แต่นโยบายให้แอลจีเรีย ซึ่งเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในเวลานั้นเป็นอิสระปกครองตนเองของเดอโกลล์  ได้ทำให้ชาวฝรั่งเศสส่วนหนึ่งซึ่งมีผลประโยชน์อันมหาศาลทางเศรษฐกิจ การเมือง และการทหารในเวลานั้น  ได้กระทำตนเป็นปฏิปักษ์อย่างรุนแรงเพราะสูญเสียผลประโยชน์ที่เคยได้


         ประธานาธิบดีเดอโกลล์ถูกฝ่ายตรงกันข้ามหมายเอาชีวิต ด้วยการวางระเบิดและลอบยิงถึง ๗ ครั้ง แต่ท่านก็รอดพ้นภยันตรายรอดตายมาได้อย่างมหัศจรรย์ทุกครั้ง ครั้งหลังสุด มือสังหารระดับโลก ฉายาว่า “เดอะแจ็กกัล” ได้วางแผนสังหารอย่างเยี่ยมยุทธ์รอบคอบละเอียดถี่ถ้วนที่สุด  แต่ท่านนายพลเดอโกลล์ก็แคล้วคลาดรอดพ้นอันตรายไปได้


         ประธานาธิบดีเดอโกลล์และภริยา มีความเชื่ออย่างมั่นคงว่า สิ่งมหัศจรรย์อันศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยปกป้องคุ้มครองชีวิตจนรอดตายมาได้ถึง ๗ ครั้งนั้นก็คือ  อภินิหารหลวงปู่ทวด!


             ประธานาธิบดีเดอโกลล์เป็นคริสต์ศาสนิกชน  แต่ท่านยอมรับนับถือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ก็เพราะ ฯพณฯ อาคีล  คลารัก เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยปี ๒๕๐๒ ได้ทราบถึงเกียรติคุณอภินิหารศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์ของพระเครื่องหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ จากคำบอกเล่าและมีหลักฐานยืนยันหนักแน่นจากวงการทหารระดับสำคัญของไทยว่า พระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก เป็นพระเครื่องที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพนับถือบูชากันอย่างกว้างขวางทั่วประเทศไทย ตลอดทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์  หลวงปู่ทวดเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่มีอิทธิปาฏิหาริย์และอภินิหารประจักษ์อยู่ในตำนานพระพุทธศาสนามานานกว่า ๓๐๐ ปี


            ท่านเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้มอบพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก ใส่กรอบทองคำให้ประธานาธิบดีเดอโกลล์เอาไว้ป้องกันตัว ๑ องค์ ซึ่งท่านก็ได้รับไว้ด้วยความเชื่อมั่น มิได้ลบหลู่ เพราะท่านประธานาธิบดีได้ประจักษ์แจ้งถึงอภินิหารมหัศจรรย์ของพระเครื่องนี้ อย่างซาบซึ้งถึงใจอย่างที่สุดมาแล้ว ที่ได้ช่วยให้ท่านแคล้วคลาดรอดพ้นจากการลอบสังหารไปได้ถึง ๗ ครั้ง!


           ก่อนที่ท่านประธานาธิบดีจะได้รับเหรียญหลวงปู่ทวดกรอบทองคำด้วยความเชื่อมั่นและซาบซึ้งนั้น เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากมีการปลุกเสกหลวงปู่ทวด ทางวัดได้จัดส่งพระเครื่องจำนวนหนึ่งมาให้จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เพื่อแจกจ่ายให้แก่นายทหารผู้ใกล้ชิดบางคน และในจำนวนนายทหารไม่กี่คนที่ได้รับแจกพระเครื่องหลวงปู่ทวดนี้ มีพลโทอำนวย ไชยโรจน์  ทูตทหารบกประจำประเทศฝรั่งเศสรวมอยู่ด้วยคนหนึ่ง


          พลโทอำนวย  ไชยโรจน์  ได้รับแจกไปสององค์  ก็เลยได้นำติดตัวไปฝรั่งเศสด้วย  ระหว่างอยู่ที่ปารีส ทูตทหารบกผู้นี้ได้เข้าพบประธานาธิบดีเดอโกลล์  และเนื่องจากในทางส่วนตัวก็มีความนิยมในตัวเดอโกลล์ วีรบุรุษของชาติฝรั่งเศสอยู่แล้ว จึงได้มอบพระเครื่องหลวงปู่ทวดให้ประธานาธิบดีฝรั่งเศสไปหนึ่งองค์ พร้อมกับอธิบายให้เดอโกลล์ฟังถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวดว่า ถ้าอาราธนานึกถึงด้วยความเคารพละก็ จะสามารถเสด็จไปช่วยได้เวลามีภัยมาถึงตัว ถึงอยู่ไกลขนาดฝรั่งเศสก็เสด็จถึงได้  เพราะในโลกแห่งความศักดิ์สิทธิ์นั้น เพียงลัดนิ้วมือเดียว กระพริบตาครั้งเดียวก็ถึงฝรั่งเศสแล้ว


          เมื่อได้รับพระเครื่องหลวงปู่ทวดไปแล้ว  ประธานาธิบดีเดอโกลล์ก็พกติดตัวไปด้วยทุกหนทุกแห่ง   ต่อจากนั้นไม่กี่เดือนก็เกิดเหตุการณ์ระทึกใจ  กล่าวคือ เดอโกลล์ วีรบุรุษของชาติผู้เข้มแข็ง ได้ถูกพวกใต้ดินคณะหนึ่งระดมยิงด้วยปืนกลในขณะอยู่ในรถยนต์กับภริยากลางกรุงปารีส เป็นที่น่าหวาดเสียวอย่างยิ่ง


         รถยนต์ถูกกระสุนปืนกลพรุนไปทั้งคัน  การยิงก็อยู่ในระยะกระชั้นชิดมาก แต่ประธานาธิบดีกับภริยาก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์  ท่านเดอโกลล์เงียบกริบ ไม่ได้วิจารณ์พูดคำใดออกมา  แต่ภริยาได้บอกกับเลขานุการว่า เธอเชื่อเหลือเกินว่า สามีและเธอรอดตายก็เพราะสมเด็จหลวงปู่ทวดได้เสด็จไปช่วยชีวิตไว้ เพราะเธอเป็นคนอธิษฐานขอให้หลวงปู่ทวดไปช่วย ขณะที่ได้ยินเสียงรัวปืนกล!


         ประธานาธิบดีเดอโกลล์ศรัทธาและเลื่อมใสในหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาก และเชื่อมั่นว่าที่ตนรอดตายจากการถูกลอบสังหารมาได้ถึง ๗ ครั้ง ก็เพราะอภินิหารของหลวงปู่ทวด


         นี้คืออานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีคำอธิบายใดๆ  เพราะเป็นอานุภาพของความเชื่อความเลื่อมใสโดยตรง เป็นเรื่องของสมองฝั่งขวา ไม่ใช่สมองฝั่งซ้ายที่จะมานั่งอธิบายกันด้วยเหตุผล นี้คืออานุภาพแห่งความเร้นลับอีกมากมายที่มนุษย์ทั่วไปไม่อาจหยั่งได้ถึง


         พระอริยบุคคลทั้งหลาย  คือผู้ที่เข้าถึงความลับของธรรมชาติอย่างหนึ่ง  เข้าถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่อาจอธิบายด้วยคำพูดได้  แต่ท่านก็ยังพากเพียรพร่ำสอนผู้คนทั้งหลายให้ยึดมั่นต่อเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์เป็นหลัก เพราะไม่มีสิ่งใดจะยิ่งใหญ่และประเสริฐเท่ากับอริยมรรค ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้  


         แต่สำหรับบุคคลที่มีวิบากกรรมบางอย่าง ที่ดวงจิตยังไม่อาจดำเนินตามมรรคาแห่งอริยมรรคได้  อาจสงเคราะห์ให้เขาเอาวัตถุมงคลเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไปก่อน  เพราะอย่างน้อยตัวศรัทธาที่มีอยู่ในดวงใจก็ยังเป็นเกราะป้องกันภัยในยามคับขันได้  ทำให้มีที่พึ่งทำให้เกิดศรัทธาในศาสนา จนกว่าจะมีโอกาสได้ฟังธรรมที่แสดงมรรคาแห่งอริยมรรค แล้วรู้จักการเจริญสติ เพื่อให้เกิดปัญญา เป็นที่พึ่งของตนเองได้ต่อไป


         สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้จักเส้นทางของพระอริยเจ้า ต้องอาศัยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นหลักของใจไปก่อน จนเมื่อใดได้รู้จักตัวสติที่แท้จริง เข้าถึงจิตเดิมแท้ ก็จะวางความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายลงได้เองโดยอัตโนมัติ  เพราะตัวเองได้กลายเป็นความศักดิ์สิทธิ์เสียเองแล้ว ไม่จำต้องพึ่งความศักดิ์สิทธิ์ภายนอกอีกต่อไป


        คำสอนของพระอริยเจ้าบางองค์ที่เหมือนไม่สนใจสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น  บางองค์ท่านก็ทรงความศักดิ์สิทธิ์จริงภายในตัวท่าน  แต่ท่านมีจิตที่เกื้อกูลอันยิ่งใหญ่  ที่ปรารถนาให้ศิษย์ผู้มีวาสนาในทางธรรม ได้ยึดเอาอริยมรรคเป็นหลักชัย  เพื่อทำตนให้กลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์เสียเอง ดีกว่าจะมัวไปพะวงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นข้างนอก หรือแม้แต่ความศักดิ์สิทธิ์ของตัวองค์ท่าน   เพราะวิสัยของพระอริยบุคคลนั้นย่อมปรารถนาให้ผู้คนได้เข้าถึงธรรม และมีที่พึ่งเป็นของตนเอง ไม่ใช่หวังให้มาติดอยู่เพียงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ไม่ได้ต้องการใครมาชื่นชมหรือห้อมล้อมท่านอันไม่เป็นแก่นสาร หากใครสนใจศึกษาและปฏิบัติให้เข้าถึงธรรม ย่อมประเสริฐกว่า


        แต่อริยโพธิสัตว์ผู้ยิ่งใหญ่เมื่อร่างกายจะแตกดับไป ก็อาจสร้างวัตถุมงคลไว้เพื่อคนรุ่นหลังไว้ยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่ง อันเป็นการอนุเคราะห์ชาวโลกส่วนหนึ่ง  หรือไม่ทำก็ได้ ตามเหตุตามปัจจัยของแต่ละท่านแต่ละองค์


          บุคคลใดที่ยังไม่เกิดสติ ไม่เกิดปัญญา ในการดำเนินไปสู่มรรคาแห่งอริยมรรค  ขอจงเชื่อมั่นในอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้เถิด  เพราะสิ่งนี้มีจริง  จิตที่เชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะอ่อนโยนและมีที่พึ่ง นำพาดวงจิตให้คิดทำบุญสร้างกุศล ไม่มีสิ่งใดมาทำให้ตกต่ำลงไปได้  แม้ชีวิตเคยล้มเหลวสักเพียงใด ก็จะฟื้นตัวและประสบความสำเร็จ ผู้ที่เชื่อมั่นในอำนาจความศักดิ์สิทธิ์  อำนาจความศักดิ์สิทธิ์นั้นจะคุ้มครองป้องกันภยันตรายได้จริง  


          อย่าได้ไปกลัวใครเขาว่าเรางมงาย  เพราะคนในสังคมส่วนใหญ่ก็งมงายในการเอาแต่แย่งชิงอำนาจ  แย่งชิงตำแหน่ง แย่งชิงในเชิงธุรกิจ การค้า งมงายในทรัพย์สินเงินทอง งมงายในกำไรขาดทุนกันทั่วไปอยู่แล้ว ตัวเราเองก็อาจมีความงมงายแบบนั้นอยู่บ้างแล้ว  ก็เพิ่มความงมงายขึ้นมาอีกหนึ่งอย่าง คือ เชื่อมั่นในอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นไรไป  ความงมงายชนิดนี้  งมงายแล้วมีความอบอุ่นและสุขใจอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว


          อำนาจความศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจริง  ไม่ขึ้นกับความคิดของใครว่าเชื่อหรือไม่เชื่อ  ความศักดิ์สิทธิ์ย่อมเป็นที่พึ่งให้แก่ผู้ที่มั่นคงในศรัทธาได้เสมอ  แต่สำหรับผู้ที่มีบุญวาสนาสั่งสมมาแต่เก่าก่อน ก็ไม่ควรติดอยู่เพียงความศักดิ์สิทธิ์ในภายนอก  ควรสนใจที่จะมาสร้างสรรค์ความศักดิ์สิทธิ์ภายในตนคือการเจริญภาวนา ซึ่งเป็นความศักดิ์สิทธิ์ในทางศาสนาที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย มีความเมตตาและพากเพียรบอกรหัสนัยไว้  และนั่นคือจุดมุ่งหมายที่สูงสุด ที่ท่านแสดงอำนาจความศักดิ์สิทธิ์ให้ประจักษ์ตลอดมา คือความศักดิ์สิทธิ์ในความหมายที่ว่า “การบรรลุธรรม ได้เป็นพระอริยบุคคลองค์หนึ่งในศาสนา” อันเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง


คุรุอตีศะ
๒๕  กันยายน  ๒๕๕๖