แด่เธอผู้ไขว่คว้า
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
แด่เธอผู้ไขว่คว้า
เธอทั้งหลาย กำลังแสวงหาสิ่งใดกันเล่า..? เธอกำลังสับสนและถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งใช่ไหม?..หัวใจของเธอกำลังไขว่คว้าสิ่งใด..? อยากถามเธอว่า แล้วสิ่งที่เธอดิ้นรน เฝ้าค้นหา และไขว่คว้าตลอดมานั้น หัวใจของเธอได้เคยรู้สึกเต็มตื้นและเต็มอิ่มหรือได้พักบ้างหรือยัง ..?
เธอหลายคนไม่ว่าชายหรือหญิง บางคนกำลังแสวงหาเงินตรา บางคนแสวงหาความมั่งคั่งทางทรัพย์สิน บางคนแสวงหาอำนาจ บางคนแสวงหาความรัก บางคนแสวงหาความอิสระ บางคนแสวงหาการภาวนา และสำหรับบางคน อาจกำลังแสวงหาคำตอบของชีวิต สุดแท้แต่ละดวงใจที่จะไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการ
เธอผู้แสวงหาเงินตราหรือความมั่งคั่งทางทรัพย์สิน เธอจงแสวงหาไปเถิด แต่อย่าให้การแสวงหานั้นต้องมานึกเสียใจในภายหลังเท่านั้นก็พอ ในเมื่อใจของเธอยังรู้สึกว่าทรัพย์สินเงินทองคือสิ่งมีค่าและสำคัญมากในชีวิตของเธอขณะนี้ เธอไม่จำต้องแสร้งทำเลียนแบบนักพรตผู้สันโดษ ทั้งที่ใจจริงแท้ของเธอขณะนี้ยังหิวโหยในความมั่งคั่งอยู่ ความสุขของเธอคือการได้มาทุกวัน ดังนั้น จึงยังเป็นไปไม่ได้ที่ในเวลานี้เธอจะมีความสุขจากการสละออกดุจนักพรตทั้งหลาย และนี่คือชีวิตจริงของเธอ แต่เธออย่าลืมเจริญสติ รู้สึกตัวอยู่เสมอ ท่ามกลางการไขว่คว้าและแสวงหาเหล่านั้น แล้วพระธรรมจะคอยคุ้มกันภัยให้เธอ ผู้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
เธอผู้แสวงหาอำนาจ เธอควรถามตัวเธอเองก่อนว่า เธอจะต้องการอำนาจไปเพื่ออะไร หากเธออยากมีอำนาจเพียงเพื่อหวังจะได้อยู่เหนือคนอื่นหรือเพื่อความสุขใจที่ได้เห็นคนอื่นอยู่ต่ำกว่าเรา เธอก็จงเตรียมใจเผื่อไว้ว่า ในวันหนึ่งอำนาจนั้นอาจจะกลายเป็นหอกมาทิ่มแทงเธอผู้หลงระเริงได้เมื่อภายหลัง
แต่หากเธอต้องการอำนาจเพื่อประโยชน์สุขแก่คนหมู่ใหญ่ และจักใช้เพื่ออำนวยความยุติธรรมเพื่อมนุษยชาติ เพื่อสร้างสรรค์สันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม และเพื่อการอภิบาลคุณธรรมให้ดำรงอยู่ หากเจตจำนงในการมีอำนาจของเธอมีพื้นฐานเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนเช่นนั้น ขอเธอจงบากบั่นดำรงปณิธานให้เป็นไปตามความใฝ่ฝัน อย่าได้มีวันท้อ และขออำนวยอวยชัยให้การแสวงหาของเธอจงบรรลุผลสำเร็จ แต่เธออย่าลืมมีสติรู้ตัวอยู่เสมอทุกๆวัน
สำหรับเธอผู้แสวงหาความรัก เธอโปรดได้ตระหนัก ว่าความรักนั้นไม่อาจใช้วิธีแห่งการแสวงหา แบบเงินตราหรืออำนาจที่กล่าวมาข้างต้น แต่เมื่อใจของเธอดีงาม ความรักย่อมมาสู่ชีวิตของเธอเองโดยที่เธอไม่ต้องดิ้นรนใดๆ ดุจสายลมเย็นที่โชยเข้ามาทางหน้าต่าง ไม่มีการบอกล่วงหน้า ไม่ขึ้นกับกาลเวลา ความรักย่อมหลบหน้าและเขินอายเสมอกับผู้ตั้งใจดิ้นรนแสวงหาด้วยอัตตาเพื่อให้ได้ดั่งใจ แต่ความรักมักมาเยี่ยมกรายผู้ไม่ไขว่คว้า ผู้ไม่คิดแสวงหาและไม่เคยคิดเรียกร้องใดๆ ดุจเป็นรางวัลชีวิตและพรอันยิ่งใหญ่แก่ผู้อ่อนน้อมและเจียมตัว ที่ไม่หาญกล้าแม้แต่จะเรียกหาความรักมาสู่ตัวเอง
หากเธอเป็นบุรุษ เธออาจเริ่มต้นในการบำเพ็ญตนให้เป็นผู้ที่คู่ควรแก่การที่จะได้รับความรัก ด้วยการไม่มองสตรีเพศเพียงแค่การสนองอารมณ์เท่านั้น ตามที่กำลังเป็นกันอยู่ดาษดื่นในสังคมเวลานี้ แต่เธอพึงให้เกียรติและให้ความเคารพต่อร่างกายแห่งสตรีของหล่อนด้วย แล้วเธอจะได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากหล่อน
หากเธอปฏิบัติต่อสตรีเพศด้วยความหยาบคาย ดูหมิ่น เหยียดหยาม พลังแห่งการทำลายจะบั่นทอนให้ชีวิตของเธออ่อนแอและอับเฉา หากเธอปฏิบัติต่อหล่อนด้วยความรัก ความนุ่มนวลอ่อนโยน ให้เกียรติและอย่างมีคุณค่า หล่อนจะถ่ายเทพลังแห่งความดีงามและสร้างสรรค์มาสู่ตัวเธอ ชีวิตของเธอจะเลื่อนไหลไปสู่สิ่งที่สูงขึ้น เธอจะทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จดุจกุมชะตาชีวิตไว้ในกำมือ และในที่สุดเธอจะพบว่า ความรักจะดำรงอยู่กับเธอตลอดเวลา ความรักที่ดีงามที่เธอมอบให้ไป จะย้อนกลับมาสร้างสรรค์ชีวิตของเธอเองอย่างทับทวีคูณ พลังของสตรีนั้นเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เป็นพลังสร้างสรรค์ก็ได้ เป็นพลังทำลายก็ได้ ไม่ควรประมาท
หากเธอเป็นสตรี เธอจงฉลาดอย่าทำตัวเทียมบุรุษ แม้สิทธิบุรุษสตรีจะเท่าเทียมกันก็ตาม อาวุธที่ใช้ได้ตลอดกาล คือความอ่อนโยน อ่อนหวาน ความนุ่มนวลและความอ่อนน้อม นี้คือวิชาอันสูงสุดที่ชนะใจวีรบุรุษผู้อาชาไนยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย เธออย่าได้พลาดและก้าวข้ามวิชานี้ไปเป็นอันขาด หากเธอมองข้าม เธอแต่ละคนจะเสียใจในภายหลัง แม้เป็นถึงจักรพรรดินีมีอำนาจแค่ไหน แต่ก็จะอับเฉาโหยหาความรักตลอดชีวิต
ในสังคม ลัทธิ ศาสนา วัฒนธรรมประเพณี ที่มีการกดขี่ทางเพศ สตรีทั้งหลายลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องหาความเป็นธรรมนั้นย่อมเป็นสิ่งถูกต้องแล้ว แต่ในสังคมที่สิทธิเสรีภาพของสตรีเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ หากมีสตรีคนใดมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ไม่หลงลืมอาวุธดั้งเดิมที่สวรรค์ให้มาคือความอ่อนโยน อ่อนหวาน นุ่มนวล มีเมตตา ไม่ยกตนไปเทียมเท่าบุรุษเพศ สิ่งนั้นจะกลายเป็นคุณธรรมอันลึกซึ้งที่ให้ความอบอุ่นแก่โลก ทั้งแก่บุรุษและสตรี ด้วยเหตุนี้ ภูมิปัญญาแห่งบรรพกาลจึงยกย่องเพศแม่คือสตรีเพศดุจเทพีผู้ศักดิ์สิทธิ์ ดังที่ใช้เรียกสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ว่า แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ เป็นต้น นี้คือการยกย่องสตรีเพศตั้งแต่สมัยโบราณ ความศักดิ์สิทธิ์ของสตรีเพศเกิดจากความอ่อนโยน มีเมตตา มิใช่แข็งแกร่งแบบบุรุษ
ดังนั้น สตรีผู้แสวงหาความรัก พึงสำเหนียกว่า แท้จริงแล้ว สตรีแต่ละคนนั้นตัวเองได้อยู่กับความรักและมีความรักอยู่แล้วมาแต่เดิม ก่อนที่จะถูกทำลายไปด้วยความกักขฬะและหยาบคายดูหมิ่น จากบุรุษผู้ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ที่ปฏิบัติต่อเราอย่างไม่ให้เกียรติ อย่างไม่เคารพในร่างกายและใจของเรา เราได้ถูกทำลายจากแต่เดิมเป็นกระจกใสๆให้กลายเป็นใฝฝ้าเปื้อนไปโดยทั้งเราและเขาก็ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างได้ทำลายซึ่งกันและกัน
เขาได้ทำลายความรัก ความไร้เดียงสาที่เคยมองโลกใบนี้ด้วยความงดงามของเรา ส่วนเราก็ได้ทำลายพลังในส่วนดีงามอันเป็นบ่อเกิดพลังสร้างสรรค์ของเขาไปเช่นกัน
สตรีทั้งหลายย่อมไม่รู้ว่า สิ่งที่ชักพาให้บุรุษเพศมาผูกพันรักใคร่ตัวเองนั้น มิใช่เพียงแค่ความงดงามแห่งสรีระของความเป็นสตรีอย่างเดียว แต่คือ ความบริสุทธิ์ สดใส ไร้เดียงสา ของสตรีนั้นเองคือพลังแห่งความรักความงดงามที่แผ่รัศมีออกไปจากตัวสตรี ความบริสุทธิ์ สดใส ไร้เดียงสา นั้นเองคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้บุรุษอยากเข้าใกล้และอยากร่วมชีวิต และเมื่อความบริสุทธิ์สดใสไร้เดียงสาจางคลายไป เสน่ห์ของสตรีก็หมดไป แต่สตรีส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเป็นเพราะความสาวความสวยของตัวเองลดลง ความจริงแล้วคือความไร้เดียงสาหายไปต่างหาก สตรีที่อายุมากหรือขี้เหร่บางคนที่ยังคงมีเสน่ห์ก็เพราะอานุภาพแห่งความสดใส บริสุทธิ์ ไร้เดียงสานี้เอง คนสมัยก่อนจึงมีชีวิตคู่อยู่กันยั่งยืน เพราะดำรงความไร้เดียงสาได้ยาวนาน
จิตที่ไร้เดียงสานี้ เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้การปฏิบัติธรรมบรรลุผล จิตของพระอริยบุคคลที่ต่างจากปุถุชนก็เพราะความไร้เดียงสาคล้ายเด็กกลับคืนสู่ดวงจิต ผู้ที่แสวงหาทางโลกนั้นต้องใช้ชั้นเชิงและมีจิตที่ซับซ้อนจึงไม่อาจบรรลุธรรมได้ โลกทุกวันนี้มีแต่ความระทมทุกข์สาเหตุหนึ่งก็เพราะอานุภาพแห่งความรัก ความเมตตาแบบสตรีถูกทำลายไป เพียงแค่สตรีทั้งหลายหันมาเอาวิชาที่ยิ่งใหญ่คือความเป็นแม่ แผ่อานุภาพไปทั่วโลก โลกใบนี้จะลดความก้าวร้าวและอบอุ่นร่มเย็นขึ้นทันทีหลายเท่า
ดังนั้น ผู้ที่แสวงหาความรักทั้งหลาย จงหันมาภาวนาเพื่อเยียวยาจิตใจที่ยับเยินมานาน จงรู้เถิดว่า ความรักนั้นยังคงอยู่กับเราเสมอ เพียงแต่เราหลงลืมและทอดทิ้งเขาไปด้วยความหลงผิด อย่าด่วนเพิ่งไปแสวงหาความรักจากผู้ชายหรือจากผู้หญิง หมั่นภาวนาให้ดวงจิตอยู่กับความตื่นรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะทำการงานอะไร เมื่อจิตใจดีแล้ว ถึงเวลาความรักจะมาเยี่ยมกรายและมาอยู่กับเราเองโดยไม่ต้องแสวงหา
บุรุษที่แสนดีและใจประเสริฐจะย่างกรายเข้ามาสู่ชีวิตของเรา สตรีที่เพียบพร้อมที่นำพาความสุขมาให้เราจะอุบัติขึ้นตามจิตใจที่ดีงามที่เรารังสรรค์ขึ้น และสำหรับบางคนบางคู่นั้น.... บางทีคนที่อยู่ข้างๆเรานี้แหละอาจเปลี่ยนเป็นบุรุษหรือสตรีที่ว่านั้น
เราสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้ เพียงดำรงจิตที่ดีงามไว้เสมอ คิดแต่สิ่งที่ดีๆ อย่าปล่อยให้จิตคิดไปในทางร้าย แล้วเราจะเนรมิตชีวิตของเราได้อย่างน่าอัศจรรย์
การภาวนาอะไรมามากมายเพียงใด...สำหรับผู้แสวงหาความรักหรือคำตอบของชีวิต อย่าลืมเคล็ดลับประการหนึ่งว่า ความรักความเมตตา คือ การภาวนาที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะนำความสุขความร่มเย็นมาให้เราทันทีขณะนี้ ความรักที่งดงามคือการภาวนา อย่ามองข้ามสิ่งนี้ แล้วการไขว่คว้าแสวงหามานาน.... จะยุติลง.
คุรุอตีศะ
๒๑ กันยายน ๒๕๕๖