แด่เธอผู้ไขว่คว้า

แด่เธอผู้ไขว่คว้า


            เธอทั้งหลาย  กำลังแสวงหาสิ่งใดกันเล่า..?  เธอกำลังสับสนและถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งใช่ไหม?..หัวใจของเธอกำลังไขว่คว้าสิ่งใด..?  อยากถามเธอว่า แล้วสิ่งที่เธอดิ้นรน เฝ้าค้นหา และไขว่คว้าตลอดมานั้น  หัวใจของเธอได้เคยรู้สึกเต็มตื้นและเต็มอิ่มหรือได้พักบ้างหรือยัง ..?


            เธอหลายคนไม่ว่าชายหรือหญิง  บางคนกำลังแสวงหาเงินตรา  บางคนแสวงหาความมั่งคั่งทางทรัพย์สิน บางคนแสวงหาอำนาจ  บางคนแสวงหาความรัก  บางคนแสวงหาความอิสระ  บางคนแสวงหาการภาวนา  และสำหรับบางคน อาจกำลังแสวงหาคำตอบของชีวิต  สุดแท้แต่ละดวงใจที่จะไขว่คว้าในสิ่งที่ต้องการ


           เธอผู้แสวงหาเงินตราหรือความมั่งคั่งทางทรัพย์สิน  เธอจงแสวงหาไปเถิด  แต่อย่าให้การแสวงหานั้นต้องมานึกเสียใจในภายหลังเท่านั้นก็พอ  ในเมื่อใจของเธอยังรู้สึกว่าทรัพย์สินเงินทองคือสิ่งมีค่าและสำคัญมากในชีวิตของเธอขณะนี้  เธอไม่จำต้องแสร้งทำเลียนแบบนักพรตผู้สันโดษ ทั้งที่ใจจริงแท้ของเธอขณะนี้ยังหิวโหยในความมั่งคั่งอยู่  ความสุขของเธอคือการได้มาทุกวัน  ดังนั้น จึงยังเป็นไปไม่ได้ที่ในเวลานี้เธอจะมีความสุขจากการสละออกดุจนักพรตทั้งหลาย  และนี่คือชีวิตจริงของเธอ  แต่เธออย่าลืมเจริญสติ รู้สึกตัวอยู่เสมอ ท่ามกลางการไขว่คว้าและแสวงหาเหล่านั้น  แล้วพระธรรมจะคอยคุ้มกันภัยให้เธอ ผู้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท


           เธอผู้แสวงหาอำนาจ  เธอควรถามตัวเธอเองก่อนว่า เธอจะต้องการอำนาจไปเพื่ออะไร  หากเธออยากมีอำนาจเพียงเพื่อหวังจะได้อยู่เหนือคนอื่นหรือเพื่อความสุขใจที่ได้เห็นคนอื่นอยู่ต่ำกว่าเรา  เธอก็จงเตรียมใจเผื่อไว้ว่า ในวันหนึ่งอำนาจนั้นอาจจะกลายเป็นหอกมาทิ่มแทงเธอผู้หลงระเริงได้เมื่อภายหลัง


          แต่หากเธอต้องการอำนาจเพื่อประโยชน์สุขแก่คนหมู่ใหญ่ และจักใช้เพื่ออำนวยความยุติธรรมเพื่อมนุษยชาติ  เพื่อสร้างสรรค์สันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม และเพื่อการอภิบาลคุณธรรมให้ดำรงอยู่  หากเจตจำนงในการมีอำนาจของเธอมีพื้นฐานเพื่อประโยชน์สุขของมหาชนเช่นนั้น  ขอเธอจงบากบั่นดำรงปณิธานให้เป็นไปตามความใฝ่ฝัน  อย่าได้มีวันท้อ และขออำนวยอวยชัยให้การแสวงหาของเธอจงบรรลุผลสำเร็จ   แต่เธออย่าลืมมีสติรู้ตัวอยู่เสมอทุกๆวัน


            สำหรับเธอผู้แสวงหาความรัก  เธอโปรดได้ตระหนัก ว่าความรักนั้นไม่อาจใช้วิธีแห่งการแสวงหา แบบเงินตราหรืออำนาจที่กล่าวมาข้างต้น   แต่เมื่อใจของเธอดีงาม ความรักย่อมมาสู่ชีวิตของเธอเองโดยที่เธอไม่ต้องดิ้นรนใดๆ ดุจสายลมเย็นที่โชยเข้ามาทางหน้าต่าง  ไม่มีการบอกล่วงหน้า  ไม่ขึ้นกับกาลเวลา  ความรักย่อมหลบหน้าและเขินอายเสมอกับผู้ตั้งใจดิ้นรนแสวงหาด้วยอัตตาเพื่อให้ได้ดั่งใจ  แต่ความรักมักมาเยี่ยมกรายผู้ไม่ไขว่คว้า ผู้ไม่คิดแสวงหาและไม่เคยคิดเรียกร้องใดๆ  ดุจเป็นรางวัลชีวิตและพรอันยิ่งใหญ่แก่ผู้อ่อนน้อมและเจียมตัว ที่ไม่หาญกล้าแม้แต่จะเรียกหาความรักมาสู่ตัวเอง


           หากเธอเป็นบุรุษ  เธออาจเริ่มต้นในการบำเพ็ญตนให้เป็นผู้ที่คู่ควรแก่การที่จะได้รับความรัก ด้วยการไม่มองสตรีเพศเพียงแค่การสนองอารมณ์เท่านั้น ตามที่กำลังเป็นกันอยู่ดาษดื่นในสังคมเวลานี้  แต่เธอพึงให้เกียรติและให้ความเคารพต่อร่างกายแห่งสตรีของหล่อนด้วย  แล้วเธอจะได้รับพลังอันยิ่งใหญ่จากหล่อน


          หากเธอปฏิบัติต่อสตรีเพศด้วยความหยาบคาย ดูหมิ่น เหยียดหยาม  พลังแห่งการทำลายจะบั่นทอนให้ชีวิตของเธออ่อนแอและอับเฉา  หากเธอปฏิบัติต่อหล่อนด้วยความรัก ความนุ่มนวลอ่อนโยน ให้เกียรติและอย่างมีคุณค่า  หล่อนจะถ่ายเทพลังแห่งความดีงามและสร้างสรรค์มาสู่ตัวเธอ  ชีวิตของเธอจะเลื่อนไหลไปสู่สิ่งที่สูงขึ้น  เธอจะทำสิ่งใดก็จะประสบความสำเร็จดุจกุมชะตาชีวิตไว้ในกำมือ  และในที่สุดเธอจะพบว่า ความรักจะดำรงอยู่กับเธอตลอดเวลา   ความรักที่ดีงามที่เธอมอบให้ไป จะย้อนกลับมาสร้างสรรค์ชีวิตของเธอเองอย่างทับทวีคูณ   พลังของสตรีนั้นเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เป็นพลังสร้างสรรค์ก็ได้ เป็นพลังทำลายก็ได้ ไม่ควรประมาท


          หากเธอเป็นสตรี  เธอจงฉลาดอย่าทำตัวเทียมบุรุษ แม้สิทธิบุรุษสตรีจะเท่าเทียมกันก็ตาม  อาวุธที่ใช้ได้ตลอดกาล คือความอ่อนโยน  อ่อนหวาน ความนุ่มนวลและความอ่อนน้อม นี้คือวิชาอันสูงสุดที่ชนะใจวีรบุรุษผู้อาชาไนยมาตลอดทุกยุคทุกสมัย  เธออย่าได้พลาดและก้าวข้ามวิชานี้ไปเป็นอันขาด  หากเธอมองข้าม เธอแต่ละคนจะเสียใจในภายหลัง  แม้เป็นถึงจักรพรรดินีมีอำนาจแค่ไหน แต่ก็จะอับเฉาโหยหาความรักตลอดชีวิต


        ในสังคม ลัทธิ ศาสนา วัฒนธรรมประเพณี ที่มีการกดขี่ทางเพศ สตรีทั้งหลายลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องหาความเป็นธรรมนั้นย่อมเป็นสิ่งถูกต้องแล้ว  แต่ในสังคมที่สิทธิเสรีภาพของสตรีเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ หากมีสตรีคนใดมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ไม่หลงลืมอาวุธดั้งเดิมที่สวรรค์ให้มาคือความอ่อนโยน อ่อนหวาน นุ่มนวล มีเมตตา ไม่ยกตนไปเทียมเท่าบุรุษเพศ สิ่งนั้นจะกลายเป็นคุณธรรมอันลึกซึ้งที่ให้ความอบอุ่นแก่โลก ทั้งแก่บุรุษและสตรี  ด้วยเหตุนี้ ภูมิปัญญาแห่งบรรพกาลจึงยกย่องเพศแม่คือสตรีเพศดุจเทพีผู้ศักดิ์สิทธิ์  ดังที่ใช้เรียกสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ว่า    แม่พระธรณี  แม่พระคงคา  แม่พระโพสพ เป็นต้น  นี้คือการยกย่องสตรีเพศตั้งแต่สมัยโบราณ  ความศักดิ์สิทธิ์ของสตรีเพศเกิดจากความอ่อนโยน มีเมตตา มิใช่แข็งแกร่งแบบบุรุษ


          ดังนั้น สตรีผู้แสวงหาความรัก พึงสำเหนียกว่า แท้จริงแล้ว สตรีแต่ละคนนั้นตัวเองได้อยู่กับความรักและมีความรักอยู่แล้วมาแต่เดิม  ก่อนที่จะถูกทำลายไปด้วยความกักขฬะและหยาบคายดูหมิ่น จากบุรุษผู้ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ที่ปฏิบัติต่อเราอย่างไม่ให้เกียรติ อย่างไม่เคารพในร่างกายและใจของเรา  เราได้ถูกทำลายจากแต่เดิมเป็นกระจกใสๆให้กลายเป็นใฝฝ้าเปื้อนไปโดยทั้งเราและเขาก็ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างได้ทำลายซึ่งกันและกัน


            เขาได้ทำลายความรัก ความไร้เดียงสาที่เคยมองโลกใบนี้ด้วยความงดงามของเรา  ส่วนเราก็ได้ทำลายพลังในส่วนดีงามอันเป็นบ่อเกิดพลังสร้างสรรค์ของเขาไปเช่นกัน


            สตรีทั้งหลายย่อมไม่รู้ว่า สิ่งที่ชักพาให้บุรุษเพศมาผูกพันรักใคร่ตัวเองนั้น  มิใช่เพียงแค่ความงดงามแห่งสรีระของความเป็นสตรีอย่างเดียว  แต่คือ ความบริสุทธิ์ สดใส ไร้เดียงสา ของสตรีนั้นเองคือพลังแห่งความรักความงดงามที่แผ่รัศมีออกไปจากตัวสตรี  ความบริสุทธิ์ สดใส ไร้เดียงสา นั้นเองคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้บุรุษอยากเข้าใกล้และอยากร่วมชีวิต  และเมื่อความบริสุทธิ์สดใสไร้เดียงสาจางคลายไป  เสน่ห์ของสตรีก็หมดไป แต่สตรีส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเป็นเพราะความสาวความสวยของตัวเองลดลง  ความจริงแล้วคือความไร้เดียงสาหายไปต่างหาก  สตรีที่อายุมากหรือขี้เหร่บางคนที่ยังคงมีเสน่ห์ก็เพราะอานุภาพแห่งความสดใส บริสุทธิ์ ไร้เดียงสานี้เอง  คนสมัยก่อนจึงมีชีวิตคู่อยู่กันยั่งยืน  เพราะดำรงความไร้เดียงสาได้ยาวนาน


           จิตที่ไร้เดียงสานี้  เป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้การปฏิบัติธรรมบรรลุผล  จิตของพระอริยบุคคลที่ต่างจากปุถุชนก็เพราะความไร้เดียงสาคล้ายเด็กกลับคืนสู่ดวงจิต  ผู้ที่แสวงหาทางโลกนั้นต้องใช้ชั้นเชิงและมีจิตที่ซับซ้อนจึงไม่อาจบรรลุธรรมได้  โลกทุกวันนี้มีแต่ความระทมทุกข์สาเหตุหนึ่งก็เพราะอานุภาพแห่งความรัก ความเมตตาแบบสตรีถูกทำลายไป  เพียงแค่สตรีทั้งหลายหันมาเอาวิชาที่ยิ่งใหญ่คือความเป็นแม่ แผ่อานุภาพไปทั่วโลก  โลกใบนี้จะลดความก้าวร้าวและอบอุ่นร่มเย็นขึ้นทันทีหลายเท่า


         ดังนั้น  ผู้ที่แสวงหาความรักทั้งหลาย  จงหันมาภาวนาเพื่อเยียวยาจิตใจที่ยับเยินมานาน  จงรู้เถิดว่า ความรักนั้นยังคงอยู่กับเราเสมอ  เพียงแต่เราหลงลืมและทอดทิ้งเขาไปด้วยความหลงผิด  อย่าด่วนเพิ่งไปแสวงหาความรักจากผู้ชายหรือจากผู้หญิง  หมั่นภาวนาให้ดวงจิตอยู่กับความตื่นรู้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะทำการงานอะไร  เมื่อจิตใจดีแล้ว   ถึงเวลาความรักจะมาเยี่ยมกรายและมาอยู่กับเราเองโดยไม่ต้องแสวงหา  


         บุรุษที่แสนดีและใจประเสริฐจะย่างกรายเข้ามาสู่ชีวิตของเรา  สตรีที่เพียบพร้อมที่นำพาความสุขมาให้เราจะอุบัติขึ้นตามจิตใจที่ดีงามที่เรารังสรรค์ขึ้น  และสำหรับบางคนบางคู่นั้น.... บางทีคนที่อยู่ข้างๆเรานี้แหละอาจเปลี่ยนเป็นบุรุษหรือสตรีที่ว่านั้น  


          เราสามารถเปลี่ยนชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้ เพียงดำรงจิตที่ดีงามไว้เสมอ  คิดแต่สิ่งที่ดีๆ  อย่าปล่อยให้จิตคิดไปในทางร้าย  แล้วเราจะเนรมิตชีวิตของเราได้อย่างน่าอัศจรรย์


          การภาวนาอะไรมามากมายเพียงใด...สำหรับผู้แสวงหาความรักหรือคำตอบของชีวิต  อย่าลืมเคล็ดลับประการหนึ่งว่า  ความรักความเมตตา คือ การภาวนาที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งจะนำความสุขความร่มเย็นมาให้เราทันทีขณะนี้  ความรักที่งดงามคือการภาวนา  อย่ามองข้ามสิ่งนี้  แล้วการไขว่คว้าแสวงหามานาน.... จะยุติลง.


คุรุอตีศะ
๒๑  กันยายน  ๒๕๕๖