ไยเล่าจึงท้อแท้
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ไยเล่าจึงท้อแท้
มองเบื้องหน้าสิ ต้นไม้ที่ใบโกร๋นเมื่อตอนเดือนเมษา บัดนี้กลับประดับด้วยพุ่มใบเขียวชอุ่มและยืนต้นอย่างสง่างาม ต้นไม้เหล่านี้ไม่เคยสิ้นหวัง ไม่เคยจำนนต่อต่อความกันดารแห้งแล้งแม้จะรุนแรงเพียงใด มันเชื่อมั่นและวางใจเสมอว่ามันจะผ่านความแห้งแล้งอันโหดร้ายไปได้ และมันก็ผ่านได้ทุกปีอย่างที่มันเชื่อมั่นและไว้วางใจเสมอมา
มนุษย์ทุกคน หากไม่จำนนต่ออุปสรรคและปัญหา ในที่สุดแล้วย่อมผ่านขวากหนามทั้งปวงที่อยู่ข้างหน้าไปได้เช่นกัน ขอเพียงเราศรัทธาและเชื่อมั่น ดุจเดียวกับต้นไม้เหล่านั้นเชื่อมั่นว่าพวกมันจะผ่านได้ทุกฤดูกาล
มองดูนกที่ใช้ความขยันและความหมั่นเพียรอันเลิศของมันในการสร้างรังดูสิ มันใช้จะงอยปากอันน้อย พากเพียรจิกเศษหญ้าแล้วคาบบินมาสานร้อยให้เป็นรังด้วยความบากบั่นไม่เบื่อหน่าย เศษหญ้าชิ้นเล็กๆบางๆชิ้นแล้วชิ้นเล่า ที่มันพยายามคาบบินมาเพื่อสร้างรังให้กับลูกน้อยที่จะเกิดมา มันเลือกสรรอย่างดีและบรรจงสานทีละน้อยด้วยจะงอยปาก ช่างเป็นความอัศจรรย์และซาบซึ้งเปี่ยมด้วยความรักความงดงามโดยแท้ นกตัวน้อยที่กำลังพากเพียรสร้างรัง เป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิตที่เปี่ยมด้วยความรัก ความหวัง และความเบิกบาน
เหมือนนกจะบอกเหล่ามนุษย์ทั้งหลายผู้กำลังจะหมดหวังหรือกำลังจะสูญสิ้นความพากเพียรว่า ขอให้ท่านจงหมั่นอดทนก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่และทำความดีไปเถิด อย่าได้หมดหวังหรือสูญสิ้นกำลังใจอยู่เลย ดูแต่ข้าผู้เป็นนกตัวน้อยเพียงเท่านี้และมีแต่จะงอยปากเพียงนิดเดียวและปากเดียว ยังสร้างรังอันงดงามของตนขึ้นมาได้ เหตุไฉนท่านผู้เป็นมนุษย์ซึ่งมีร่างกายใหญ่โตยิ่งกว่าตัวข้าตั้งมากมาย มือก็มีตั้งสองข้าง จะไม่สามารถสร้างรังชีวิตที่อบอุ่นให้เป็นรางวัลแก่ชีวิตของตนเองได้ เพียงแต่ท่านทั้งหลายอย่ามัวแต่เอาใบหน้าซุกหัวเข่า แล้วเอาแต่ร่ำไห้เพื่อให้ใครเวทนา แต่จงปาดน้ำตาแล้วลุกขึ้นมาสลัดความอ่อนแอทิ้งไป แล้วกัดฟันแข็งใจเดินต่อไปอีกเพียงไม่กี่ก้าว ท่านก็จะพบกับความสว่างในชีวิตแล้ว ขอจงมั่นใจเถิด
ต้นไม้นานาพันธุ์ ไม่เคยท้อแท้และจนมุม มันไม่เคยหวั่นไหวต่อทุกฤดูกาล เราก็ต้องไม่ท้อแท้หรือจนมุมต่อชีวิตเช่นกัน นกน้อยมีเพียงจะงอยปาก ยังสร้างรังอันแสนอัศจรรย์ขึ้นมาได้ เราทั้งหลายก็ย่อมสร้างชีวิตและอนาคตอันสง่างามด้วยเรี่ยวแรงแห่งมือทั้งสองข้างของเราได้เหมือนกัน ขอเพียงเรามั่นใจในกรรมดีที่ได้กระทำบำเพ็ญ แม้บางครั้งใครจะมองไม่เห็น แต่เราก็มั่นคงต่อความดีเสมอ เพราะพลังแห่งศรัทธาที่เชื่อมั่นว่าแม้มนุษย์จะมองเห็นความดีที่เรากระทำหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทวดาทั้งหลายย่อมมองเห็นอยู่เสมอ เราทั้งหลายไยจึงมัวท้อแท้อยู่เล่า...?!
กรรมดีและสิ่งที่ดีงามทั้งปวงที่มนุษย์คนใดคนหนึ่งเพียรรังสรรค์ประดับขึ้นไว้ในโลก ย่อมเป็นประดุจเหรียญตราหรือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชนิดพิเศษที่ประทับไว้กลางดวงใจของบุคคลนั้นตลอดกาล
คุรุอตีศะ
๑ สิงหาคม ๒๕๕๖