น้ำปลาร้าของยายอิน

น้ำปลาร้าของยายอิน

 

          ณ  อารามแห่งหนึ่งห่างไกลจากกรุงเทพมหานครประมาณ  ๓๐๐  กิโลเมตร  มีพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งตัดสินใจปลีกตัวออกจากวัดที่มีพระจำพรรษามากมายและอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารและญาติโยม  แล้วไปพักบำเพ็ญภาวนาในเพิงหญ้าคาที่มุงด้วยหญ้าแปดสิบตับ ตามอุดมการณ์ที่เกิดจากประวัติหลวงปู่มั่นและหลวงปู่พุทธทาสภิกขุที่อ่านและเกิดแรงบันดาลใจก่อนออกอุปสมบท  อยู่อย่างเคร่งครัด  ไม่สวมรองเท้า  ไม่รับปัจจัย  ฉันอาหารมื้อเดียว และไม่ฉันเนื้อสัตว์ ไม่ขุดดิน ไม่ถางหญ้า


            ท่านได้รับความสุขจากความวิเวกอย่างไม่เคยได้รับมาก่อน  นั่งฉันอาหารมังสวิรัติเพียงมื้อเดียวบนยกพื้น และมีงูตัวหนึ่งเลื้อยผ่านข้างล่างแทบทุกวัน  จากที่ลำตัวเท่าด้ามไม้กวาด จนกระทั่งลำตัวเท่าด้ามจอบ  มันจะเลื้อยมาจากจอมปลวกข้างหลังแล้วก็เลื้อยผ่านข้างล่าง  พอเลยข้างหน้าพอสมควรมันก็จะยกหัวขึ้นมามองนิดหน่อย  พอพระท่านมองมันและยิ้มให้ มันก็จะเลื้อยผ่านไปอย่างสบายใจเป็นเช่นนี้แทบทุกวัน  จนกระทั่งต่อมาตัวมันโตเท่าลำแขนและผู้คนเริ่มมากันมากขึ้น มันก็เก็บตัว  ไม่แสดงตัวแบบนั้นอีก  นอกจากจะมีอะไรบางอย่างจึงจะปรากฏกายสักครั้งพอให้รับรู้ว่า “ข้าพเจ้ายังอยู่”


            ยายอินเป็นหญิงวัยหกสิบเศษในสมัยยี่สิบปีที่แล้ว  แกจะชวนเพื่อนมาช่วยกันถางหญ้ารอบบริเวณกุฏิอันมีแต่หลังคากับแคร่ยกพื้นอันน่าเวทนาในสายตายายอินหลังนั้น  แม้แกจะนึกแปลกใจไปตามคำนินทาของชาวบ้านคนอื่นว่าพระรูปนี้ทำไมไม่อยู่วัด ทำไมมาอยู่แบบนี้ให้คนเขาว่าเอา แต่แกก็รู้สึกว่าถ้าหน้าแล้งมาถึงไฟจะต้องลามมาไหม้กุฏิของท่านแน่ๆ  ด้วยความเป็นห่วงและทนไม่ได้ที่หญ้ารอบกุฏิเริ่มสูงจะท่วมกุฏิ แกก็ชวนเพื่อนมาถางและถากหญ้า ทำทางเดินให้เรียบร้อย แล้วแกก็แบกจอบกลับบ้านอย่างสบายใจ  โดยไม่ได้รับการทักทายหรือได้รับยถาสัพพีจากพระที่แปลกๆรูปนั้นแม้แต่คำเดียว


           วันหนึ่งยายอินพาลูกๆมาถวายอาหารซึ่งถือว่าเป็นอาหารชั้นเลิศที่สุดในบ้านของแก คือแกงปลาและป่นน้ำปลาร้า พอรู้ว่าพระท่านไม่ฉันเนื้อสัตว์ แกทำหน้าเสียอยู่พักหนึ่งด้วยความผิดหวัง แต่พอวันหลังแกก็เริ่มเรียนรู้หาวิธีทำอาหารที่ไม่ใส่เนื้อสัตว์ แล้วแกก็ทำได้  แต่แกก็จะแอบเอาปลาร้าและปิ้งปลามากินเวลาแกมาจำศีลด้วย  เพราะเกิดมาแกก็รู้จักแต่ปลาร้าไม่ได้รู้จักมังสวิรัติอะไร  แกให้เหตุผลว่า ทำมังสวิรัตินั้นแกก็ทำได้อยู่  แต่ถ้าไม่มีปลาร้าแล้วแกกินข้าวไม่ได้  พระท่านก็ไม่ว่าอะไร  ต่างเคารพในสิทธิและเสรีภาพในการบริโภคซึ่งกันและกัน  พระท่านเคร่งครัดไม่ฉันอาหารเนื้อสัตว์  ส่วนยายอินแกก็เคร่งครัดกินปลาร้าอนุรักษ์อาหารของบรรพบุรุษอย่างไม่หวั่นไหวเช่นกัน  


          วันเวลาผ่านไปอีกสิบปี  ฝ่ายพระที่แปลกๆแผลงๆรูปนั้นจากที่เคยหนุ่มแน่นก็เริ่มเป็นหลวงพ่อมีผมหงอกมากกว่าผมดำ  ความหนุ่มของท่านจะปรากฏอีกครั้งก็ตอนวันโกนวันพระที่ต้องปลงผมไม่ให้ยาวเกินสององคุลีตามพระวินัย  ส่วนยายอินจากที่เคยขยันขันแข็งและตัวตรง บัดนี้ก็เริ่มหลังงองุ้มและลุกนั่งลำบาก  ตอนนี้พระที่ยายอินกลัวไฟจะลามไหม้กุฏิเพราะหญ้ารกเมื่อครั้งก่อนนั้น  เริ่มกลายเป็นพระที่มีบารมี  ยายอินได้ข่าวบ่อยๆว่ามีข้าราชการนิมนต์ท่านไปอบรมครูบรรจุใหม่ และอบรมข้าราชการนักเรียนนักศึกษา  แม้ยายอินจะไม่รู้ว่าการอบรมที่ว่านั้นมันเป็นอย่างไร แต่ยายอินแกก็อดดีใจและปลื้มใจไม่ได้ว่าหลวงพ่อท่านคงไม่อดไม่ลำบากอีกแล้ว  ข้าราชการและคนมั่งมีทั้งหลายคงดูแลหลวงพ่ออย่างดี


             วันหนึ่ง ยายอินแกเก็บรวบรวมเงินจากการนั่งถักไม้กวาดด้วยความหลังขดหลังแข็งมาเป็นเวลาสองเดือน  เอาเงินแบงค์หนึ่งพันที่แกให้คนเอาเงินแบงค์ร้อยแบงค์ยี่สิบไปแลกมาอย่างดีใส่ไว้ชายพกให้ลูกขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆพามาวัด


             เมื่อมาถึงแกมัวแต่จุดธูปจุดเทียนไหว้พระตามธรรมเนียมที่ได้รับการอบรมมา  ในขณะนั้นมีรถยนต์ยี่ห้อทันสมัยคันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดถึงหน้าบันไดขึ้นศาลา  ยายอินแกก็หันมามองหน้าหลวงพ่อในทำนองว่า หลวงพ่อห้ามไม่ให้รถจอดข้างใน โดยให้รถทุกคันจอดข้างนอก “แดนเคารพ” และรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆของแกก็จอดอยู่ข้างนอกแดนเคารพทุกครั้งที่มาวัด แต่ทำไมรถคันนี้กลับวิ่งมาจอดถึงบันได เหตุใดจึงไม่มีความเสมอภาคกัน  ก่อนที่หลวงพ่อจะตอบยายอินว่า “หลวงพ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน”และก่อนที่ยายอินจะได้ล้วงปัจจัยจากชายพกออกมาถวายหลวงพ่อได้ทัน เพราะมัวแต่จุดธูปไหว้พระด้วยความเคารพอยู่นั้น  เจ้าของรถคันนั้นพร้อมคนในรถอีกสองคนก็เดินผ่านหัวยายอินที่กำลังก้มกราบพระอยู่  แล้วเข้าไปหาหลวงพ่อที่กำลังนั่งรอยายอินถวายปัจจัยที่แกใช้เวลาเก็บเงินถึงสองเดือน  แต่บัดนี้ถูกแซงคิวจากผู้ร่ำรวยกว่า  ฝ่ายหลวงพ่อกับยายอินก็หันมองหน้ากันครู่หนึ่งโดยไม่มีคำใดจะเอ่ยออกมา   แล้วก็ได้ยินเสียงทักทายด้วยความองอาจและเปี่ยมด้วยความมั่นใจขึ้นมาว่า “ผมแสวงหาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ  วันนี้มีโอกาสจึงมากราบท่านอาจารย์ครับ”


              ฝ่ายหลวงพ่อผู้มีผมหงอกพอได้ยินดังนั้นก็มองซ้ายขวาพร้อมทั้งมองหน้ายายอินเลิ่กลั่กว่าสงสัยพวกเขาจะพากันมาผิดที่  แต่พอได้ยินประโยคต่อไปว่า “ผมได้ยินกิตติศัพท์ของท่านพระอาจารย์จากหลายคน  วันนี้มีบุญวาสนาได้พบพอดี โชคดีจริงๆครับ” จึงเริ่มเข้าใจความหมายว่าที่แท้เขาหมายถึงตัวเรานี่เอง  เมื่อถูกขัดจังหวะเช่นนั้น  ยายอินแกจึงพาลูกไปนั่งแอบอยู่มุมตู้อย่างเจียมตัว  แกลูบชายพกผ้าถุงแกเบาๆเหมือนจะปลอบใจตัวเองให้อดทนอีกสักหน่อยก็จะได้ถวายแล้ว


             บุรุษผู้ยิ่งใหญ่และเปี่ยมด้วยความมั่นใจในตัวเอง ใช้เวลาคุยกับหลวงพ่อในเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องธรรมะเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ส่วนใหญ่จะคุยในเรื่องที่เขาได้ไปพบพระที่ดังๆวัดโน้นวัดนี้แล้วประทับใจอย่างไรบ้างเล่าให้”พระอาจารย์”ท่านฟัง โดยเขาไม่คิดเฉลียวใจแม้แต่นิดว่า “พระอาจารย์” ท่านจะอยากฟังหรือไม่ ท่านได้ปล่อยเวลาให้ผ่านไปด้วยความคิดว่าเผื่อเขาจะปรึกษาและถามธรรมะอะไรบ้าง แต่ก็ไม่มีแต่อย่างใด มีแต่เล่าความภูมิใจอวดท่านอาจารย์  ส่วนยายอินนั้นดูจะนั่งพลิกไปพลิกมาอยู่หลายครั้ง  เพราะตั้งใจว่าใช้เวลาเพียงครู่เดียวถวายปัจจัยหลวงพ่อให้สมกับที่ตั้งใจแล้วจะกลับไปแกงหน่อไม้ต่อ  ตอนนี้หน่อไม้ที่ต้มอยู่บนเตาของแกไฟมอดแล้วรึยังก็ไม่รู้  คงไม่มีใครเติมฟืนให้เป็นแน่  แต่ไหนๆก็ตั้งใจมาแล้ว  รออีกหน่อยดีกว่า  


             พอคุยจบบุรุษผู้นั้นก็ถามหาซองเพื่อใส่ปัจจัย  ยายอินต้องเป็นคนพาลูกค้นหาซองเปล่าทั้งวัดว่ามีซองเปล่าเหลืออยู่ตรงไหนบ้าง  แต่ก็ยังดีที่ยังได้มาหนึ่งซองยื่นให้บุรุษผู้นั้น  เขาบรรจุปัจจัยจำนวน ๒๐๐ บาทลงในซอง เพราะเขามีกำหนดจะต้องไปอีกหลายวัดด้วยกัน แล้วนำมาวางไว้บนพานรับปัจจัย  แล้วก็กลับไปด้วยความภาคภูมิใจยิ่งนัก


             ขณะที่รถเก๋งคันงามค่อยๆเคลื่อนออกไปจากวัด  ยายอินก็พาลูกขยับเคลื่อนเข้ามาข้างหน้าหลวงพ่อ  ความอดทนที่ถูกตัดหน้าและต้องรอคอยเวลาด้วยความอดทนมาเป็นชั่วโมงของแกบัดนี้บรรลุผลสำเร็จแล้ว  แกเอาซองปัจจัยที่แกเตรียมไว้อย่างดีมาจากบ้านวางถวายบนพาน  พร้อมทั้งเตรียมน้ำไว้สำหรับกรวดอุทิศส่วนกุศล  หลวงพ่อเห็นความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยมของแกเช่นนั้น  จึงได้ยถาสัพพีตามธรรมเนียมปฏิบัติเพื่ออนุโมทนากับแกอย่างเต็มที่  แล้วลูกก็ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆที่มาส่งปิ่นโตสม่ำเสมอพายายอินซ้อนท้ายออกไปจากวัดเล็กๆแห่งนั้น


                หลวงพ่อเหลือบมองซองปัจจัยสองซองที่วางอยู่ซ้อนกันบนพาน  ซองหนึ่งผู้ถวายนั่งรถเก๋งอย่างดีพร้อมมีบริวาร ได้คุยอย่างสบายใจเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง  มีปัจจัยอยู่ในซอง ๒๐๐ บาท  ส่วนอีกซองเป็นของคนแก่นุ่งผ้าถุงเก่าๆ ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ ต้องทนรอถึงหนึ่งชั่วโมงกว่าจะได้ถวาย และก็ไม่มีโอกาสได้พูดคุยอะไรเลย แต่ในซองนั้นมีปัจจัยที่คนถวายได้ถวายด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยมเป็นจำนวนถึง ๑,๐๐๐ บาท  หลวงพ่อแม้ปกติแล้วท่านจะไม่ได้วัดคุณค่าของคนด้วยเงินทองหรือราคา  แต่ปัจจัยที่คนแก่นั่งหลังขดหลังแข็งถักไม้กวาดกว่าจะได้เงินมา และกว่าจะเก็บสะสมรวบรวมไว้ถึง ๒ เดือนกว่าจะได้ครบ ๑,๐๐๐ บาทแล้วนำมาถวายนั้น  จะไม่ให้ใจของหลวงพ่อหวั่นไหวและซาบซึ้งอย่างไรได้  ท่านได้แต่รำพึงอยู่ในใจอยู่คนเดียวว่า แม้จะทุกข์ยากเพราะการสร้างสถานที่แห่งนี้อีกสักเพียงใด  แต่ท่านจะไม่หนีไปหรือทอดทิ้งสถานที่แห่งนี้ให้ร้างอีก  ด้วยอานุภาพแห่งปัจจัยของหญิงชราผู้นุ่งผ้าถุงผืนเก่าๆจำนวน ๑,๐๐๐ บาท ในซองนี้


                เวลาข้าราชการหรือคนรวยมาวัด ยายอินจะหลบมุมนั่งอยู่กับชาวบ้านที่เจียมตัวสี่ห้าคนหลังศาลา  เมื่อผู้มีเกียรติผู้มีหน้ามีตากลับไปหมดแล้วไม่เหลือรถเก๋งคันงามอยู่ในวัด  เวลานั้นจะเป็นเวลาของยายอินและชาวบ้านผู้ที่นั่งหลบมุมสี่ห้าคนนั้น พากันลุกขึ้นไปหยิบไม้กวาดและผ้าถูพื้น  แล้วแต่ละคนก็ประจำหน้าที่ ทั้งกวาด ทั้งถู ทั้งยกสิ่งของไปเก็บไปจัดให้เรียบร้อย โดยไม่ต้องรอไหว้วานหรือออกคำสั่งแต่อย่างใด  และในยามใดไม่ค่อยมีข้าราชการหรือคนมีหน้ามีตามาวัด เพราะหลวงพ่อบารมีเริ่มถดถอยหรือถูกติฉินนินทาอันเป็นธรรมดาของโลกธรรมแปดประการ  แต่ยายอินก็ยังคงมาวัดสม่ำเสมอ  โดยไม่สนใจว่าใครจะชมหรือใครจะนินทาหลวงพ่อประการใด เพราะหูของแกถูกฝึกไว้อย่างดีตลอดระยะเวลายี่สิบปีในการวางอุเบกขากับวาจาและน้ำลายของผู้คน  ยายอินไม่เคยไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่ไหน  แต่แกฝึกใจให้มีสติอยู่เสมอกับทุกปรากฏการณ์


               เวลาผ่านไปร่วมยี่สิบปี ยายอินอายุแปดสิบปีเศษดุจไม้ใกล้ฝั่ง ณ วัดเล็กๆแห่งนั้น  วันหนึ่งหลวงพ่อได้ประกาศบนศาลาว่า ในพรรษานี้ในวันพระให้ยายอินต้มน้ำปลาร้ามาถวายได้คนเดียว คนทั้งหลายต่างก็งงว่าทำไมน้ำปลาร้าของยายอินจึงจะเป็นของพิเศษนัก  ที่จริงแล้วอาหารคนอื่นก็เป็นของพิเศษไม่แพ้กัน แต่น้ำปลาร้าของยายอินนั้นเป็นน้ำปลาร้าพิเศษ เพราะถูกหมักดองไว้เป็นเวลาถึงยี่สิบปีด้วยสูตรพิเศษคือความบากบั่นพากเพียร ความเสมอต้นเสมอปลาย ความขยันอดทน อย่างไม่มีปลาร้าแห่งใดในโลกเสมอเหมือน


              ... และหลายคนรวมทั้งยายอินคงไม่เชื่ออีกว่า ในสำรับสำหรับถวายหลวงพ่อในวันหนึ่งนั้น  นอกจากน้ำปลาร้าสูตรพิเศษของยายอินแล้ว  ยังมีผลไม้ลูกละสี่ร้อยกว่าบาทจากต่างประเทศซึ่งโยมผู้มีศรัทธาคนหนึ่งซื้อมาถวาย ประดับน้ำปลาร้าของยายอินให้อย่างสมเกียรติอีกด้วย แล้วอย่างนี้จะไม่ให้น้ำปลาร้าของยายอินเป็นน้ำปลาร้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไรได้


คุรุอตีศะ
๒๖  กรกฎาคม  ๒๕๕๖