ชีวิตคือความงดงาม

ชีวิตคือความงดงาม


             มีประโยชน์อันใดที่เราจะใส่ใจแต่ขยะเพียงชิ้นเดียว  เหตุใดเราจะต้องใช้เวลาให้หมดไปกับสิ่งบูดเน่าและสิ่งปฏิกูล  ชีวิตคือความกว้างไกลและยิ่งใหญ่สุดประมาณ  เพียงเราละสายตาจากขยะและสิ่งปฏิกูลแล้วเงยหน้าทอดสายตามองออกไปภายนอก  เราก็จะเห็นความงดงามของใบไม้ที่กำลังผลิยอดอ่อน  ดอกไม้ที่เราหลงลืมเขาไปหลายวันแต่บัดนี้กำลังผลิดอก  เห็นนกน้อยเกาะกิ่งไม้ขับขานด้วยความร่าเริง  เห็นนกเขาที่พากันถลาบินลงมาหาอาหารบนผืนดินแล้วเดินเล่นเป็นคู่ เสมือนโลกใบนี้เป็นของเขาไม่มีใครอื่นมีความสุขเกินกว่า  เสมือนหนึ่งว่าวิหคหลายจำพวกเหล่านี้จะเยาะเย้ยเหล่ามนุษย์ที่ช่างมองไม่เห็นความงดงามของโลกใบนี้


             หัวใจของเราเหนื่อยล้ากับเรื่องราวของผู้คนและความสับสนต่างๆมากพอแล้ว  เราไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับกองขยะและสิ่งปฏิกูลคือความผิดความชั่วของใครๆ  โลกที่กว้างใหญ่ยังมีสิ่งดีงามอีกมากมาย  ชีวิตยังสามารถขับขานและมีเสียงเพลงได้อยู่เสมอ 


            มองดูสิ... มองข้างถนนในขณะที่เรานั่งในรถยนต์ยี่ห้อที่ทันสมัยและรุ่นใหม่ เอาแต่วิตกกังวลและครุ่นคิดด้วยเรื่องที่ไม่สบายใจ  แต่พอมองไปข้างทาง  ในรถซาเล้งเก่าคร่ำคร่า  สองสามีภรรยาในชุดเสื้อผ้าเก่าๆและมีรอยขาด  ทั้งสองกำลังยิ้มร่าในขณะที่นำของเก่าที่เลือกเอามาได้จากถังขยะเพื่อนำไปขาย  ทั้งสองดีใจและภูมิใจที่ได้ขวดน้ำพลาสติกอย่างดีจำนวนมาก และได้สิ่งของที่เศรษฐีทิ้งแล้วแต่ขายได้ราคา  เย็นวันนี้จะซื้อปลาทูอย่างดีกินข้าวให้อร่อยสักวัน  หลังจากต้องซื้อแต่ปลาทูเลหลังที่ใกล้จะเน่ากินพออิ่มท้องกันมาหลายเพลา  ทั้งสองยิ้มร่าด้วยความเบิกบานใจ  ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่นิดเดียวว่า รถเก๋งราคาเป็นล้านกำลังวิ่งแซงผ่านทั้งสองไป


          นี้แหละคือความงดงามของชีวิต..!  ยังจะมีภาพใดที่งดงามเกินกว่าความเริงร่าของผู้ยากไร้ทั้งสองได้  ในขณะที่ผู้นั่งในรถหรูกำลังครุ่นคิดแต่เรื่องที่ตัวเองจะได้และคิดแต่เรื่องกำไร  แต่ผู้ยากไร้กลับมีแต่ความพึงพอใจและสดใสร่าเริง  ใครกันเล่าคือผู้รังสรรค์ให้โลกใบนี้ยังคงไว้ซึ่งความงดงาม


         มองไปโน่นสิ.. ผู้ที่อยู่บนปั้นจั่นและนั่งร้านบนอาคารที่กำลังก่อสร้างสูง ๕๐ ชั้น ใจกลางเมืองหลวง  เขาเป็นใครกัน เหตุใดจึงกล้าหาญชาญชัยเสี่ยงตายได้ถึงปานนั้น  เขาไม่กลัวความสูงและไม่กลัวความพลาดพลั้งที่อาจจะตกลงมาตายหรือ  ทำไมเขาจึงไม่ไปนั่งเล่นเฟซบุ๊คในห้องแอร์ให้สบายเหมือนคนหน้าขาวๆไร้ไฝฝ้าราคี เพราะผลิตภัณฑ์ชั้นดีจากเมืองนอกที่คอยชี้นิ้วสั่งงานเสร็จแล้วก็หลบเข้าไปเหมือนเขาคนนั้นบ้างหนอ  หากถามใจของเขา  บุรุษผู้กล้าหาญสองสามคนบนปั้นจั่นและนั่งร้านเหล่านั้น  คนหนึ่งคงจะตอบว่า  เขาก็กลัวความสูงและกลัวตายเหมือนกับใครๆ  แต่แม่ที่ป่วยหนักอยู่ที่หนองคาย ให้น้องโทรศัพท์มาขอเงิน  ๑,๐๐๐ บาท  เขาจึงต้องเสี่ยงตายขึ้นมาถึงความสูงของตึก ๕๐ ชั้นตามคำสั่งของหัวหน้างาน  เพื่อว่าเย็นนี้เลิกงานจะได้กล้าขอเบิกเงินจากหัวหน้าส่งไปให้แม่และน้องซื้อข้าวสารและซื้อยารักษาตัว....   นี้ก็คือความงดงามของชีวิต... งดงามในน้ำใจและแรงแห่งความกตัญญู... งดงามในความกล้าหาญและความรับผิดชอบและไม่จำนนต่อความจน


               มองลงไปเบื้องล่างดูบ้างสิ..เพ่งมองเข้าไปในร้านอาหารที่มีรถเก๋งยี่ห้ออย่างดีจอดเรียงรายอยู่มากมายบ้างก็ได้  มีพ่อค้า ข้าราชการ และนักธุรกิจใหญ่  กำลังนั่งทานอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ พร้อมทั้งกำลังหารือกันว่า สินค้าที่ต่างร่วมหุ้นลงทุนในไตรมาสนี้  เฉพาะกำไรน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า ๕๐ ล้าน...แต่เด็กสาวคนหนึ่งกำลังนั่งล้างจานอยู่หลังร้านพร้อมทั้งไล่ยุงที่พากันบินตอม  เพราะอยู่นอกห้องแอร์คอนดิชั่น  แม้ใบหน้าของเธอจะเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อแต่เหมือนเธอช่างเต็มไปด้วยความพากเพียร ล้างจานอยู่กองแล้วกองเล่าอย่างกระฉับกระเฉงและคล่องแคล่ว  ทำไมหนอเธอจึงไม่แต่งตัวไปเรียนหนังสือเหมือนเด็กสาวในวัยเดียวกับเธอที่พากันเดินเป็นกลุ่มๆอย่างร่าเริงในทุกเช้า ผ่านหน้าร้านที่เธอเป็นลูกจ้างเขา..ลักษณะรูปร่างหน้าตาและไหวพริบของเธอน่าจะเรียนจบได้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและอาจได้เกียรตินิยมเสียด้วยซ้ำ  เหตุใดหนอ..เธอจึงกลายมาเป็นเด็กล้างจานอันต่ำต้อยเช่นนี้เล่า..


               เมื่อจะถามเข้าไปในใจของเธอ  อาจได้คำตอบว่า...เธอเรียนหนังสือได้เกรด ๓.๕ แต่เนื่องจากพ่อตกงานเพราะบริษัทเลิกกิจการเมื่อเธอจะเรียนจบ ม. ๓ พอดี  จากที่ทั้งครอบครัวตั้งความหวังไว้ว่าจะให้เธอเรียนต่อ ม. ๔ ก็ต้องเปลี่ยนวิธีเผชิญกับมรสุมชีวิต  เธอเห็นน้ำตาของพ่อในวันที่พ่อกลับจากการทำงานเป็นวันสุดท้าย  เธอเข้าไปกอดพ่อพร้อมบอกพ่อว่า หนูจะไม่เรียนต่อ แต่หนูจะขอไปทำงานเพื่อหาเงินเลี้ยงพ่อและแม่ตอบแทนบ้าง  หนูจะเรียน กศน. แล้วสอบให้ได้ ม. ๖ หลังจากนั้นหนูจะเรียน มสธ.หรือรามคำแหง แล้วเป็นครูให้ได้  ทำให้พ่อของเธอเกิดกำลังใจและเกิดความหวังกันทั้งครอบครัว  พี่ชายที่เคยคบเพื่อนทำตัวเกเรเกเร ก็ประทับใจในความเสียสละและเด็ดเดี่ยวของน้องจนเกิดความคิดกลับตัวเป็นคนใหม่ เลิกเที่ยวเตร่เสเพลและเริ่มหารับจ้างทำงาน  แม้ต่อมาพ่อของเธอจะได้ทำงานและมีรายได้พอจุนเจือบ้างแล้ว  แต่เธอก็ยังขอทำงานเป็นเด็กล้างจานต่อไป  เพราะบัดนี้เพื่อนรุ่นเดียวกันกำลังสอบ ม. ๕ กำลังจะขึ้นชั้น ม. ๖ แล้ว และเธอตั้งใจจะสอบ กศน. จบม. ๖ ให้ทันเพื่อนที่โรงเรียน....ความกตัญญูรู้คุณและใจอันสูงส่งของเธอ  เธอได้รับปริญญาใจแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมีปริญญาใดอีกก็ได้  


              นี้ก็คือความงดงามของชีวิต  วิกฤติในครอบครัวหนึ่งที่หัวหน้าครอบครัวตกงาน  กลับทำให้หัวใจน้อยๆของเด็กสาวคนหนึ่งผลิบานและส่องแสงแห่งคุณธรรม  ยังจะมีความงดงามใดของหญิงสาวที่จะงดงามเท่ากับความงามในหัวใจของเธอ


             ความงดงามของชีวิต  มีได้แม้ในซาเล้งเก็บขยะ  มีได้แม้บนปั้นจั่นหรือนั่งร้านบนตึกสูง  มีได้แม้กระทั่งหลังร้านที่มุมตึกอันเป็นที่ล้างจานและไร้เกียรติ   ขอเพียงเรารู้จักความงดงามของชีวิตเช่นนี้  ตลอดชีวิตของเรา จะมีแต่ความงดงาม  และมีพลังสร้างสรรค์ช่วยถักทอมอบความงดงามประดับไว้ในโลก  ชีวิตย่อมเปี่ยมด้วยปีติและมีความหมาย  อุปสรรคปัญหาใดๆย่อมเป็นเพียงระลอกคลื่นที่มาช่วยประดับชายหาดให้สวยงาม.......


คุรุอตีศะ
๑๕  กรกฎาคม  ๒๕๕๖