ต้อยต่ำแต่ล้ำค่า

ต้อยต่ำแต่ล้ำค่า


             ชีวิตไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างโดดเด่น  ไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างคนยกย่องบูชา  ไม่จำเป็นต้องให้คนเห็นคุณค่าหรืออยู่ในสายตาของใครๆ  บางครั้งการได้อยู่อย่างที่คนไม่เห็นอยู่ในสายตาหรือลืมว่ามีเราอยู่ในโลกนี้  ก็เป็นความสุขประการหนึ่ง  


               ชีวิตที่โดดเด่นหรือโลดแล่นให้อยู่ในสายตาหรือให้เป็นจุดสนใจของคนอื่นตลอดเวลา  เป็นชีวิตที่สร้างความกดดันให้กับตัวเอง  อย่างน้อยก็กลัวว่าความโดดเด่นของตัวเองจะลดลงไป  หรือกลัวว่าวันหนึ่งอาจไม่อยู่ในสายตาของใครๆ


              พระอริยบุคคลท่านเลือกเอาชีวิตที่ภายนอกหรือสายตาชาวโลกอาจมองดูต่ำต้อย  แต่ภายในจิตใจนั้นสูงส่งยิ่งนัก  ภายนอกอาจมีค่าเพียงไม้กวาดที่กวาดพื้น  แต่ภายในใจดุจแจกันทองบนหิ้งบูชา


             คนทั้งหลายต่างแก่งแย่งเพื่อจะเป็นแจกัน  จึงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและกดดัน  แต่ผู้มีปัญญานั้นเลือกเป็นไม้กวาดในบางคราวกลับมีประโยชน์กว่า   ไม้กวาดมองดูภายนอกอาจดูต่ำต้อยและไร้ค่า  แต่ว่าบ้านเรือนทุกหลัง  ทั้งปราสาทราชวังคฤหาสน์ทั้งหลายล้วนต้องมีไม้กวาด   ชีวิตที่ดูต้อยต่ำแต่ล้ำค่า เพราะสามารถทำประโยชน์ได้อย่างกว้างไกล


             คนทั่วไปล้วนต้องการความโดดเด่นหรืออยู่เหนือคนอื่น  แต่ชีวิตที่มีคุณค่าหรือการทำประโยชน์เกื้อกูลนั้นบางครั้งต้องลดตัวลงมาทำความสะอาดพื้น ทำหน้าที่ของการเป็นไม้กวาด  ความโดดเด่นความได้อยู่เหนือผู้อื่นจะมีประโยชน์อะไร  หากไร้น้ำใจที่มองเห็นความทุกข์ยากของผู้คน  การเป็นแจกันตั้งอยู่บนโต๊ะเฉยๆนั้นบางครั้งก็ไม่มีประโยชน์  สู้ลดตัวจากเป็นแจกันลงมาทำหน้าที่กวาดพื้นให้สะอาดและสบายตาดีกว่า  ชีวิตจะกลับมีคุณค่าและเปี่ยมด้วยความสุขมากกว่าหลายเท่า


           ไม้กวาดผู้ซื่อสัตย์  ที่ใครๆไม่เคยมองเห็นหรืออยู่ในสายตา  เมื่อเกิดสิ่งสกปรกขึ้นมาก็นึกถึงไม้กวาดที่อยู่ข้างฝาสักคราวหนึ่ง  แต่ไม้กวาดก็ไม่เคยน้อยใจหรือตัดพ้อ  ยังคงยินดีและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเต็มอกเต็มใจสม่ำเสมอ  ไม่เคยเรียกร้องความสำคัญใดๆ  ไม่เคยใส่ใจว่าใครจะดูหมิ่นและมองอย่างเหยียดหยาม  ยังคงทำหน้าที่ทุกที่ทุกเวลาอย่างไร้เงื่อนไข  นี้คือความยิ่งใหญ่ของไม้กวาด


          เหตุใดเราจะต้องมีชีวิตอยู่ในความสนใจหรือใครๆมองเห็นความสำคัญด้วยเล่า  เราไม่จำเป็นต้องเป็นแจกันที่ตั้งโชว์ในห้องรับแขกอวดสายตาของใครๆเสมอไป  บางครั้งการลดตัวลงมาเป็นไม้กวาดทำความสะอาดบริเวณ  กลับมีคุณค่าและเบิกบานกว่าเป็นไหนๆ


         แจกันประดับห้องรับแขก มีได้เฉพาะบ้านเศรษฐีและคนมีเงินเท่านั้น  แต่สำหรับชีวิตของไม้กวาด  สามารถสถิตอยู่ได้ทั้งในปราสาทราชวัง  บ้านเศรษฐี  และบ้านที่มุงสังกะสีเก่าๆของคนยากจน  ทุกคนล้วนต้องมีไม้กวาดประจำบ้าน  นี้คือความต้อยต่ำแต่ล้ำค่าของสิ่งที่เรียกว่า “ไม้กวาด”


         การเป็นแจกันอาจได้รับการชื่นชมยกย่องและอยู่ในสายตา  แต่ก็มีค่าเพียงความฉาบฉวยและอวดโชว์สายตาคนอื่น  ได้แต่เรียกร้องสายตาและความสนใจของผู้คนเป็นนิสัย  เป็นจิตใจที่มีแต่เรียกร้องความสำคัญเอาจากใครๆ  แต่ยากนักจะมีน้ำใจหรือให้ความเอื้ออาทรช่วยเหลือผู้คน  ชีวิตของแจกันอาจดูสูงส่ง แต่ก็มีประโยชน์น้อย  และไม่ได้เสียสละเกื้อกูลใดๆ


         เป็นไม้กวาดบ้างดีกว่า  แม้ใครจะมองไม่เห็นค่า  แต่ก็มีโอกาสพบความสุขใจที่ได้เห็นความสะอาดตา  การมีชีวิตที่ไม่อยู่ในสายตาหรืออยู่ในความสนใจของใครๆนั่นแหละคือเคล็ดลับของการมีความสุขในชีวิต  


         เมื่อเขาไม่ต้องการเขาก็พิงไว้ข้างฝา  เมื่อเขาจำเป็นจะใช้สอยเขาก็หยิบออกมา  เมื่อกวาดเสร็จแล้วก็เก็บไว้ที่เดิม แล้วเขาก็ลืมไม้กวาดผู้ซื่อสัตย์ไปตลอดทั้งวัน  แต่นั่นแหละคือความสุขของไม้กวาด  มีโอกาสได้พักผ่อนอย่างเงียบๆและยังสามารถจะเยาะเย้ยความสับสนวุ่นวายของผู้คนภายในบ้าน  และอาจเยาะเย้ยได้แม้แม้แต่เจ้าแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะนั่น  ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ผัวเมียเขาเกิดทะเลาะกัน จะเผลอคว้าเจ้าแจกันขว้างใส่กันหรือทุ่มลงบนพื้นเพื่อระบายอารมณ์  สุดท้ายก็ไม่พ้นหน้าที่ตัวเราผู้เป็นไม้กวาดอยู่มุมห้องหรือข้างฝาอีกตามเคย


       ชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง  โดยไม่คาดหวังจะได้รับความสำคัญหรือความยกย่องจากใครๆ นั่นคือความยิ่งใหญ่ของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้  ความโดดเด่นหรือความโด่งดังอาจเป็นยาพิษทำร้ายชีวิตของเราในภายหลัง  แต่การมีชีวิตอย่างซ่อนเร้นจากชื่อเสียงและถ่อมตัว  กลับมีความผาสุกและอิ่มเอมอย่างยากจะบอกใคร  นั่นคือวิถีชีวิตที่นักปราชญ์และพระอริยบุคคลทั้งหลายท่านเลือกเดิน

 
       และเพราะท่านเลือกที่จะเป็นไม้กวาด  และทำหน้าที่ไม้กวาดชำระความสะอาดทั่วทุกบริเวณโดยไร้ข้อแม้ใดๆ  ทำด้วยความสุขใจและไม่คาดหวังความยกย่องบูชาจากผู้คน  ในวันหนึ่งอาจมีบุรุษผู้มีตาดีมีสายตาอันแหลมคม  มองเห็นว่านี้มิใช่ไม้กวาดธรรมดาเหมือนไม้กวาดทั่วไป  แต่คือน้ำใจอันยิ่งใหญ่ที่มุ่งประโยชน์เกื้อกูลมหาชนต่างหาก พวกเขาอาจพากันยกย่องบูชานำมาตั้งไว้บนหิ้งบูชาของพวกเขา  ท่านก็อาจยอมเป็นแจกันบูชาในเวลาต่อมาก็ได้


       ชีวิตอันยิ่งใหญ่มิใช่จะต้องคอยแก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่ หรือคอยเรียกร้องความสนใจของผู้คน  แต่คือการสามารถลดตนลงมาทำคุณประโยชน์ช่วยเหลือเกื้อกูลชาวโลกต่างหาก  เป็นชีวิตที่เป็นได้ทั้งไม้กวาดและเป็นแจกัน  ชีวิตเช่นนั้นประเสริฐและเปี่ยมด้วยปีติแท้


คุรุอตีศะ
๒  กรกฎาคม  ๒๕๕๖