ต้อยต่ำแต่ล้ำค่า
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ต้อยต่ำแต่ล้ำค่า
ชีวิตไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างโดดเด่น ไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างคนยกย่องบูชา ไม่จำเป็นต้องให้คนเห็นคุณค่าหรืออยู่ในสายตาของใครๆ บางครั้งการได้อยู่อย่างที่คนไม่เห็นอยู่ในสายตาหรือลืมว่ามีเราอยู่ในโลกนี้ ก็เป็นความสุขประการหนึ่ง
ชีวิตที่โดดเด่นหรือโลดแล่นให้อยู่ในสายตาหรือให้เป็นจุดสนใจของคนอื่นตลอดเวลา เป็นชีวิตที่สร้างความกดดันให้กับตัวเอง อย่างน้อยก็กลัวว่าความโดดเด่นของตัวเองจะลดลงไป หรือกลัวว่าวันหนึ่งอาจไม่อยู่ในสายตาของใครๆ
พระอริยบุคคลท่านเลือกเอาชีวิตที่ภายนอกหรือสายตาชาวโลกอาจมองดูต่ำต้อย แต่ภายในจิตใจนั้นสูงส่งยิ่งนัก ภายนอกอาจมีค่าเพียงไม้กวาดที่กวาดพื้น แต่ภายในใจดุจแจกันทองบนหิ้งบูชา
คนทั้งหลายต่างแก่งแย่งเพื่อจะเป็นแจกัน จึงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและกดดัน แต่ผู้มีปัญญานั้นเลือกเป็นไม้กวาดในบางคราวกลับมีประโยชน์กว่า ไม้กวาดมองดูภายนอกอาจดูต่ำต้อยและไร้ค่า แต่ว่าบ้านเรือนทุกหลัง ทั้งปราสาทราชวังคฤหาสน์ทั้งหลายล้วนต้องมีไม้กวาด ชีวิตที่ดูต้อยต่ำแต่ล้ำค่า เพราะสามารถทำประโยชน์ได้อย่างกว้างไกล
คนทั่วไปล้วนต้องการความโดดเด่นหรืออยู่เหนือคนอื่น แต่ชีวิตที่มีคุณค่าหรือการทำประโยชน์เกื้อกูลนั้นบางครั้งต้องลดตัวลงมาทำความสะอาดพื้น ทำหน้าที่ของการเป็นไม้กวาด ความโดดเด่นความได้อยู่เหนือผู้อื่นจะมีประโยชน์อะไร หากไร้น้ำใจที่มองเห็นความทุกข์ยากของผู้คน การเป็นแจกันตั้งอยู่บนโต๊ะเฉยๆนั้นบางครั้งก็ไม่มีประโยชน์ สู้ลดตัวจากเป็นแจกันลงมาทำหน้าที่กวาดพื้นให้สะอาดและสบายตาดีกว่า ชีวิตจะกลับมีคุณค่าและเปี่ยมด้วยความสุขมากกว่าหลายเท่า
ไม้กวาดผู้ซื่อสัตย์ ที่ใครๆไม่เคยมองเห็นหรืออยู่ในสายตา เมื่อเกิดสิ่งสกปรกขึ้นมาก็นึกถึงไม้กวาดที่อยู่ข้างฝาสักคราวหนึ่ง แต่ไม้กวาดก็ไม่เคยน้อยใจหรือตัดพ้อ ยังคงยินดีและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเต็มอกเต็มใจสม่ำเสมอ ไม่เคยเรียกร้องความสำคัญใดๆ ไม่เคยใส่ใจว่าใครจะดูหมิ่นและมองอย่างเหยียดหยาม ยังคงทำหน้าที่ทุกที่ทุกเวลาอย่างไร้เงื่อนไข นี้คือความยิ่งใหญ่ของไม้กวาด
เหตุใดเราจะต้องมีชีวิตอยู่ในความสนใจหรือใครๆมองเห็นความสำคัญด้วยเล่า เราไม่จำเป็นต้องเป็นแจกันที่ตั้งโชว์ในห้องรับแขกอวดสายตาของใครๆเสมอไป บางครั้งการลดตัวลงมาเป็นไม้กวาดทำความสะอาดบริเวณ กลับมีคุณค่าและเบิกบานกว่าเป็นไหนๆ
แจกันประดับห้องรับแขก มีได้เฉพาะบ้านเศรษฐีและคนมีเงินเท่านั้น แต่สำหรับชีวิตของไม้กวาด สามารถสถิตอยู่ได้ทั้งในปราสาทราชวัง บ้านเศรษฐี และบ้านที่มุงสังกะสีเก่าๆของคนยากจน ทุกคนล้วนต้องมีไม้กวาดประจำบ้าน นี้คือความต้อยต่ำแต่ล้ำค่าของสิ่งที่เรียกว่า “ไม้กวาด”
การเป็นแจกันอาจได้รับการชื่นชมยกย่องและอยู่ในสายตา แต่ก็มีค่าเพียงความฉาบฉวยและอวดโชว์สายตาคนอื่น ได้แต่เรียกร้องสายตาและความสนใจของผู้คนเป็นนิสัย เป็นจิตใจที่มีแต่เรียกร้องความสำคัญเอาจากใครๆ แต่ยากนักจะมีน้ำใจหรือให้ความเอื้ออาทรช่วยเหลือผู้คน ชีวิตของแจกันอาจดูสูงส่ง แต่ก็มีประโยชน์น้อย และไม่ได้เสียสละเกื้อกูลใดๆ
เป็นไม้กวาดบ้างดีกว่า แม้ใครจะมองไม่เห็นค่า แต่ก็มีโอกาสพบความสุขใจที่ได้เห็นความสะอาดตา การมีชีวิตที่ไม่อยู่ในสายตาหรืออยู่ในความสนใจของใครๆนั่นแหละคือเคล็ดลับของการมีความสุขในชีวิต
เมื่อเขาไม่ต้องการเขาก็พิงไว้ข้างฝา เมื่อเขาจำเป็นจะใช้สอยเขาก็หยิบออกมา เมื่อกวาดเสร็จแล้วก็เก็บไว้ที่เดิม แล้วเขาก็ลืมไม้กวาดผู้ซื่อสัตย์ไปตลอดทั้งวัน แต่นั่นแหละคือความสุขของไม้กวาด มีโอกาสได้พักผ่อนอย่างเงียบๆและยังสามารถจะเยาะเย้ยความสับสนวุ่นวายของผู้คนภายในบ้าน และอาจเยาะเย้ยได้แม้แม้แต่เจ้าแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะนั่น ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ผัวเมียเขาเกิดทะเลาะกัน จะเผลอคว้าเจ้าแจกันขว้างใส่กันหรือทุ่มลงบนพื้นเพื่อระบายอารมณ์ สุดท้ายก็ไม่พ้นหน้าที่ตัวเราผู้เป็นไม้กวาดอยู่มุมห้องหรือข้างฝาอีกตามเคย
ชีวิตที่มีความสุขคือชีวิตที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่คาดหวังจะได้รับความสำคัญหรือความยกย่องจากใครๆ นั่นคือความยิ่งใหญ่ของการมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ความโดดเด่นหรือความโด่งดังอาจเป็นยาพิษทำร้ายชีวิตของเราในภายหลัง แต่การมีชีวิตอย่างซ่อนเร้นจากชื่อเสียงและถ่อมตัว กลับมีความผาสุกและอิ่มเอมอย่างยากจะบอกใคร นั่นคือวิถีชีวิตที่นักปราชญ์และพระอริยบุคคลทั้งหลายท่านเลือกเดิน
และเพราะท่านเลือกที่จะเป็นไม้กวาด และทำหน้าที่ไม้กวาดชำระความสะอาดทั่วทุกบริเวณโดยไร้ข้อแม้ใดๆ ทำด้วยความสุขใจและไม่คาดหวังความยกย่องบูชาจากผู้คน ในวันหนึ่งอาจมีบุรุษผู้มีตาดีมีสายตาอันแหลมคม มองเห็นว่านี้มิใช่ไม้กวาดธรรมดาเหมือนไม้กวาดทั่วไป แต่คือน้ำใจอันยิ่งใหญ่ที่มุ่งประโยชน์เกื้อกูลมหาชนต่างหาก พวกเขาอาจพากันยกย่องบูชานำมาตั้งไว้บนหิ้งบูชาของพวกเขา ท่านก็อาจยอมเป็นแจกันบูชาในเวลาต่อมาก็ได้
ชีวิตอันยิ่งใหญ่มิใช่จะต้องคอยแก่งแย่งชิงความเป็นใหญ่ หรือคอยเรียกร้องความสนใจของผู้คน แต่คือการสามารถลดตนลงมาทำคุณประโยชน์ช่วยเหลือเกื้อกูลชาวโลกต่างหาก เป็นชีวิตที่เป็นได้ทั้งไม้กวาดและเป็นแจกัน ชีวิตเช่นนั้นประเสริฐและเปี่ยมด้วยปีติแท้
คุรุอตีศะ
๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖