ดำรงความซื่อสัตย์
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ดำรงความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมของเทพเจ้า
ความซื่อสัตย์ซื่อตรงเป็นคำพื้น ๆ ง่าย ๆ แต่คนธรรมดาทั่วไปปฏิบัติได้ยาก
หมายความว่าปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป เมื่อถึงคราวจำเป็นหรือถึงคราวคับขัน มักจะเลือกเอาทางอยู่รอดของตัวเอง หรือประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่
จะมีน้อยคนนัก ที่จะมีน้ำใจหนักแน่นมั่นคงพอที่จะเลือกความซื่อสัตย์
คนเราจะต้องมีจิตใจสูงทีเดียว และหนักแน่นมั่นคงอย่างมาก จึงจะสามารถดำรงความซื่อสัตย์ซื่อตรงไว้ได้
ดังนั้น ท่านจึงสรรเสริญความซื่อสัตย์ว่า "เป็นคุณธรรมของเทพเจ้า"
ในโลกมนุษย์ของเรานี้ ย่อมอยู่ปนเปกันไปทั้งคนดีคนชั่ว
ท่านเปรียบเทียบว่าหากมีคนเดินมาสี่คน จะมีคนชั่วสามคน ส่วนคนดีอาจจะมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้น
แต่ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ
ก็มีแต่โลกมนุษย์นี้เท่านั้น ที่บุคคลจะใช้เป็นภูมิหรือเป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญบารมีหรือบำเพ็ญความซื่อสัตย์ได้อย่างแก่กล้าและเต็มเปี่ยม
เพราะผ้าสีขาวจะเด่นชัดที่สุด ก็ต้องอยู่ท่ามกลางผ้าลายหรือผ้าสีดำ
ฉะนั้น เมื่อจะบำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์หรือจะปฏิบัติเป็นพระอริยบุคคล
ท่านจึงเลือกจุติหรือมาเกิดในโลกมนุษย์นี้
เพราะเป็นสถานที่หล่อหลอมให้ทองแท้ได้รับการพิสูจน์และประจักษ์ว่าเป็นทองบริสุทธิ์อย่างไร้ข้อกังขาใดๆ
เคยอ่านพบว่า "เทวดาบางตนต้องการเลื่อนชั้นจากเทวดาสามัญไปเป็นเทพเจ้าฝ่ายปกครอง จะต้องลงมาเกิดยังโลกมนุษย์เพื่อพิสูจน์ความซื่อสัตย์ว่ามั่นคงเพียงใดเสียก่อน"
หากเขาสามารถรักษาความซื่อสัตย์ความซื่อตรงไว้ได้อย่างขาวสะอาดและสง่างาม
เขาจึงจะได้รับฐานะนั้นในสรวงสวรรค์ตามปรารถนา
แม้ว่าตอนมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ เขาอาจถูกเบียดเบียน เขาอาจอยู่อย่างยากไร้ ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเพราะไม่เป็นที่ต้องการของคนมีอำนาจแต่ขาดคุณธรรม
ในโลกมนุษย์ชาตินั้น เขาอาจเป็นคนอาภัพคนต้อยต่ำในสังคมของคนไม่เอาศีลธรรม
แต่ใจของเขาจะเต็มเปี่ยมและยิ่งใหญ่ มีแต่ความนับถือตัวเอง
เขาอาจอยู่อย่างต่ำต้อยหรือมอซอไร้เกียรติ ไร้การยกย่องในสังคมในช่วงชีวิตของเขา
เพราะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับความมีเล่ห์เหลี่ยม คดโกง ฉ้อฉลหรือเล่ห์กลของปุถุชนหรือผู้มีอำนาจในตอนมีชีวิต
แต่ครั้นเมื่อสิ้นอายุขัยร่างกายของเขาแตกทำลายลงเท่านั้น..
ดวงจิตอันยิ่งใหญ่ที่เขาดำรงความซื่อสัตย์ไว้ได้ในสมัยยังเป็นมนุษย์
เขาจะไปบังเกิดเป็นเทพเจ้าผู้มีคุณธรรมอันบริสุทธิ์ และดำรงความทรงศักดิ์ในฐานะเทพเจ้าฝ่ายปกครอง.."
ผู้เขียนเคยอ่านพบเรื่องนี้ตั้งแต่อายุ ๒๑ ปี
จึงอยากนำมาถ่ายทอดไว้ ณ ที่นี้
เผื่อบางคนบางท่านมาอ่านพบ จะได้เกิดแรงบันดาลใจในการดำรงความซื่อสัตย์ซื่อตรงไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเรา
แม้ท่ามกลางสังคมสมัยใหม่ที่ดูเหมือนว่าผู้คนจะมองสิ่งเหล่านี้ว่าล้าสมัย
แต่สำหรับท่านใดสามารถทำได้ จะทำให้เกิดพลังชีวิตอันยิ่งใหญ่
จะมีอานิสงส์ทำให้เรายกมือไหว้ตัวเองได้
จะเกิดความนับถือตัวเองเรื่อยไปจนวันตาย
คุรุอตีศะ
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘