เอาตัวเองกลับคืนมา

 เอาตัวเองกลับคืนมา

 

ใจเป็นทุกข์เพราะจิตส่งออกนอกหรือรับรู้ข่าวสารเรื่องราวภายนอกมากเกินไป

 

การที่เราเกิดมามีชีวิตดำรงอยู่ในยุคนี้ เป็นความโชคดีที่เราไม่ต้องก่อไฟหุงข้าว ไม่ต้องเดินข้ามอำเภอ ไม่ต้องรองานประจำปีจึงจะได้ดูดนตรี หมอลำ ลิเก ไม่ต้องนั่งเกวียน

 

แม้ระยะทางแค่ ๓๐๐ เมตรเราก็นั่งรถ ชีวิตสะดวกสบายประหนึ่งเทวดา เพียงแต่เหาะไม่ได้เท่านั้น

 

แต่เป็นความโชคร้ายที่ความทันสมัยนำแต่ข่าวร้าย ๆ มาให้เราตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ทำให้สมองมีแต่สิ่งร้าย ๆ แม้ไม่ได้ทำงานออกกำลังก็มีแต่ความเครียด ความวิตกกังวลเกาะกุมหัวใจ

 

ดังนั้น หน้าที่ของเราก็คือปรับใจของเราให้มีคุณธรรมหรือมีธรรมะให้ได้สัดส่วนหรือมีความสมดุลกับความเจริญทางวัตถุเทคโนโลยี 

 

โรคทางใจก็จะลดลง จะมีใจที่ใสขึ้น เหมือนคนรุ่นก่อนที่ท่านนั่งเกวียนหรือเลี้ยงควายอยู่กลางทุ่งนา มีวิทยุทรานซิสเตอร์เพียงเครื่องเดียว ฟังแต่เสียงไม่เห็นภาพก็มีความสุขได้ทั้งวัน

 

จงเอาตัวเองกลับคืนมา.. เอากลับคืนมาจากอะไร?

 

เอากลับคืนมาจากข่าวสารเรื่องราวภายนอก ข่าวสารหรือเรื่องร้าย ๆ ที่นำความเศร้าหมองใจมาให้

 

ระลึกนึกน้อมถึงองค์คุณของพระพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์เจ้า ใจของเราก็จะเริ่มสะอาด เริ่มใจ เริ่มมีพลังบวกมากขึ้น

 

พระอริยเจ้าท่านจึงสอนให้เราหมั่นกำหนดรู้ มีสติ รู้สึกตัว เพื่อคุ้มครองรักษาใจ

 

เมื่อคุ้มครองรักษาใจไว้ได้ ย่อมเท่ากับรักษาสิ่งทั้งปวง

 

คุรุอตีศะ

๙ ธันวาคม ๒๕๖๗