อยู่บนโลกนี้อย่างมีค่า

 อยู่บนโลกนี้อย่างมีค่า

 

ในท่ามกลางความรู้สึกเหงา อาจมีความคิดความรู้สึกที่มีค่าต่อชีวิตหลังจากนี้

 

ให้ความหม่นหมอง ความเหงาอยู่ด้วยกันกับเรา อย่าผลักต้านหรือปฏิเสธเขา 

 

หลังจากที่เขามาช่วยเติมเต็มบางอย่างให้แก่เรา เมื่อหมดหน้าที่..ความเหงาก็จะจากเราไปเอง

 

ความรู้สึกเหงาเกิดจากการแยกตัวเราออกจากโลกใบนี้มาอยู่ในมุมอันคับแคบ

 

จงเปิดความรู้สึก เปิดตา เปิดใจออกไป มองเห็นผู้คน ต้นไม้ ใบหญ้า ที่พร้อมจะเป็นเพื่อนและยินดีต้อนรับตัวเราอยู่เสมอ

 

จงบอกกับตัวเองว่าเราต้องมีคุณค่าต่อโลกใบนี้อะไรสักอย่างหนึ่งอย่างแน่นอน เราจึงได้มาเกิดและเติบโตอยู่บนโลกใบนี้มานานพอสมควร

 

เพียงเราติดอยู่กับเปลือกกระพี้และไม่ยอมให้อภัย เราจึงติดกับดักความคิดของตัวเอง จนทำให้ชีวิตแคระแกร็น ไม่เติบโตเท่าที่ควรจะเป็น

 

นับแต่นี้ไปเราจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีคุณค่า

 

หากบางครั้งอาจจะมีน้ำตา เราจะให้เป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปีติมากกว่าน้ำตาแห่งความหมองหม่นยิ่งกว่าแต่ก่อน

 

อดีตที่ล่วงไปแล้วจะไม่ขอกลับไปอาลัยอาวรณ์

 

จะเดินบนเส้นทางพระอริยเจ้าที่พร่ำสอน

 

 จะยืนเดินนั่งนอน เราจะมีพระธรรมและสติรักษาใจ

 

คุรุอตีศะ

๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๗