ชีวิตนี้น้อยนัก

 ชีวิตนี้น้อยนัก

 

พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าความตายเป็นสิ่งไร้การกำหนดหมาย

 

บางคนตายตอนเช้า บางคนตายตอนสาย บางคนตายตอนบ่าย บางคนตายยามค่ำคืน

 

อายุของสัตว์โลกน้อยนัก น้อยคนนักจะมีอายุถึงร้อยปี บางคนตายตั้งแต่ในท้องก็มี บางคนตายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก บางคนตายตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว เหลือรอดน้อยที่จะตายเมื่ออายุเลยเจ็ดสิบปีขึ้นไป

 

พระองค์ทรงตรัสว่าชีวิตเป็นของเล็กน้อย เหมือนน้ำค้างระเหยไปเมื่อเจอไอแดด

 

ชีวิตนี้น้อยนัก เหมือนรอยไม้ที่ขีดลงไปในน้ำ เพียงวับเดียวก็หายไป

 

ชีวิตนี้น้อยนัก เหมือนโคที่เขากำลังจูงไปสู่ที่ฆ่า ทุกย่างก้าวคือกำลังไปสู่ความตายที่ใกล้เข้ามา ที่จะหลบลี้ความตายนั้นเป็นไม่มีเลย

 

พระพุทธองค์ตรัสเตือนว่าหากมนุษย์มีอายุยืนได้ถึงหนึ่งร้อยปี เทียบกับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ก็เพียงหนึ่งวันเท่านั้น

 

ดังนั้น จึงไม่ควรใช้ชีวิตอย่างประมาท จงรีบเร่งสร้างความดี เพราะบุคคลที่เกิดมาแล้วที่จะไม่ตายย่อมไม่มี

 

การเห็นบุคคลใดบุคคลหนึ่งถึงแก่ความตาย จงภาวนาน้อมมรณานุสติเข้ามาสู่ใจ

 

เตือนตนว่าชีวิตที่เหลืออยู่ต่อจากนี้เราจะใช้ให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการสร้างกุศลในแต่ละวันอย่างเต็มอกเต็มใจและเต็มที่

 

หากเมื่อใดความตายมาถึง เราจะไม่มีอะไรต้องเสียใจ

 

เราจะสามารถอโหสิกรรม ไม่ถือสา ให้อภัย

 

เราจะจากโลกนี้ไปอย่างสง่างาม

 

เราจะเกิดความสำนึกรู้คุณที่ได้เกิดมาในชาตินี้ ที่ได้ทำประโยชน์และทำความดีอย่างเต็มเปี่ยมในหัวใจ

 

คุรุอตีศะ

๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗