ตัวตนที่แท้จริง

 ตัวตนที่แท้จริง

 

สรรพสิ่งล้วนไหลไป เปลี่ยนไป ไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้ตายตัว

 

การปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ไม่ใช่แค่รูปแบบของการนั่งสมาธิหรือเดินจงกรม

 

แต่คือการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเองให้พบ

 

คำว่า "ค้นหาตัวเองให้พบ"ไม่ใช่อัตตา 

 

แต่คือการค้นพบจิตวิญญาณดั้งเดิมของตัวเองก่อนจะมาสู่โลกใบนี้

 

ตราบใดที่ยังค้นหาตัวเองไม่พบ 

 

แม้จะได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จมากมายตามสมมุติโลก

 

แต่เราจะรู้อยู่แก่ใจตัวเองดีว่าแท้ที่จริงแล้ว ตลอดมาเรายังไม่พบความสำเร็จที่แท้จริงเลย

 

แม้เราจะเรียนจบ แม้เราจะสอบได้ มีอาชีพดังใจปรารถนา ได้แต่งงานสมดังประสงค์ มีเกียรติ มีตำแหน่ง สังคมให้การยอมรับ...

 

แต่เมื่อได้อยู่ตามลำพัง ต้องเผชิญหน้ากับตัวเองจริงๆ เราจะรู้สึกหวาดหวั่น ขาดความมั่นใจ เรากลัวการอยู่คนเดียว

 

นั่นเป็นเพราะว่า เราได้แต่วิ่งไล่ตามคนอื่น แต่ไม่เคยได้ทำอะไรที่เกิดจากความต้องการของหัวใจของเราจริงๆ

 

เราได้ชื่อว่าเป็นคนดี เราได้ชื่อว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จตามที่สังคมและผู้อื่นหยิบยื่นให้

 

แต่แม้จะรู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจว่า สิ่งเหล่านั้นยังไม่ใช่สิ่งที่แท้จริงของหัวใจ แต่เราก็ยังจำนนเรื่อยมา

 

เราทุ่มเทชีวิตและเวลาทั้งหมดให้กับการทำตัวเองให้ผู้อื่นและสังคมยอมรับ

 

แต่เราไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่หัวใจต้องการจริงๆ

 

เรากล้าทุ่มเทและใช้พลังทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้คนอื่นและสังคมยอมรับ

 

แต่เราไม่เคยกล้าที่จะเดินตามเสียงเพรียกในหัวใจ

 

เราจึงเป็นคนดี เป็นคนที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จ เป็นคนที่สังคมยอมรับ แต่ภายในมีแต่ความหวาดหวั่น ขาดความกล้าหาญ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง

 

การปฏิบัติธรรมอันยิ่งใหญ่ คือการกล้าหาญ กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

 

กล้าที่จะค้นหาตัวตนที่แท้จริง แล้วเดินตามเสียงเพรียกในหัวใจอย่างไร้ความลังเล

 

วันหนึ่ง เราจะไม่ให้ค่ากับการที่คนอื่นหรือสังคมมายัดเยียดความเป็นคนดีให้เราอีกต่อไป

 

เขาจะใส่ยี่ห้อว่าเป็นคนดีก็ได้ 

 

เขาจะใส่ยี่ห้อว่าเป็นคนไม่ดีก็ได้ 

 

เขาจะยกย่องบูชาก็ได้ หรือจะนินทาว่าร้ายก็ได้

 

ส่วนหัวใจดวงนี้ จะยังคงมีความอิสระ ตื่นรู้อยู่ภายใน

 

ไม่ตกเป็นทาสของสังคม

 

ไม่ตกเป็นเหยื่อของโลกอีกต่อไป

 

คุรุอตีศะ

๔ กันยายน ๒๕๖๖