คิดดีมีสุข

 คิดดีมีสุข

 

ความคิด จะมีพลังในการกำหนดชะตากรรมและวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล

 

การฝึกจิตหรือการทำกรรมฐาน แท้ที่จริงแล้วก็คือ การตระหนักถึงพลังความคิดว่าเป็นตัวกำหนดอนาคตหรือโชคชะตา จึงจำเป็นต้องฝึกหัดจิตให้คิดแต่สิ่งที่ดีๆ ที่เป็นพลังบวก ที่จะทำให้เราเกิดกำลังใจ มองโลกในแง่ดี จิตใจจะสงบสุขร่มเย็น มีสติในการใช้ชีวิต

 

ให้สังเกตว่า เมื่อใดเราเริ่มคิดด้านลบ เรื่องลบๆ ร้ายๆ หรือเรื่องที่ทำให้เดือดร้อนไม่สบายใจ ก็จะประดังประเดเข้ามาเหมือนน้ำป่าไหลหลาก

 

เวลาเราเกิดความคิดที่ดี ก็มักจะมองเห็นเรื่องดีๆ ของคนโน้นคนนี้ มองเห็นคุณค่าของบางสิ่ง ที่บางทีเราก็มองข้ามมานาน เมื่อความคิดที่ดีเกิดขึ้นคราวใด ก็เหมือนมีพลังบางอย่างนำสิ่งที่ดีเข้ามา

 

นักปราชญ์ บัณฑิต ผู้รู้ทั้งหลาย ท่านจึงสอนให้เราระวังความคิด

 

เนื่องจากความคิดมีพลังอยู่ในตัว ถ้าคิดด้านร้าย สิ่งร้ายๆ ก็เหมือนจะรุมเร้าเข้ามา ชีวิตจะเหมือนจมอยู่ก้นเหวหรือติดหล่ม

 

การแก้ปัญหาชีวิตที่ตรงที่สุด ท่านจึงสอนให้แก้ที่ความคิดหรือทัศนคติของเรา 

 

เพราะเมื่อใด เราเปลี่ยนทัศนคติหรือความคิดของเราได้ มุมมองในเรื่องนั้นจะเปลี่ยนไป บางทีเรื่องที่เรากลุ้มใจเอาเป็นเอาตาย จะกลายเป็นเรื่องขบขันในความโง่เขลาของตัวเอง

 

ท่านจึงสอนว่า ก่อนนอนให้สวดมนต์ไหว้พระ หรือคิดแต่เรื่องดีๆ ให้ได้ก่อนจึงค่อยนอนหลับ

 

ตื่นเช้ามาพอรู้สึกตัวตื่น ก็กำหนดให้ความคิดความรู้สึกของเราคิดถึงสิ่งที่ดีๆ ให้จิตมีพลังเสียก่อน ค่อยคิดถึงเรื่องการงานหรือสิ่งที่เป็นปัญหา จะทำให้พลังความคิดของเราพัฒนา นำพาชีวิตให้ผ่านมรสุมชีวิตและมีความสุขสมหวัง

 

หมั่นมองโลกในแง่ดีไว้บ่อยๆ แม้ว่าขณะนี้โลกทั้งใบจะเผาลนมีเรื่องรุมเร้าสักเท่าใด

 

จงเชื่อพระอริยเจ้าที่สอนให้เราหมั่นฝึกจิตฝึกใจ เพราะเมื่อใจของเรามีสติที่มั่นคงคิดแต่สิ่งที่ดี โลกใบนี้จะคัดสรรสิ่งที่เรามุ่งหวังให้เป็นไปดั่งใจปอง

 

คุรุอตีศะ

                       ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๖