นาวาชีวิต

 นาวาชีวิต

 

 

                    นักปราชญ์ทั้งหลายมักเปรียบชีวิตเหมือนนาวาที่ออกสู่ทะเลหรือมหาสมุทร  นาวาชีวิตได้ตัดสินใจออกทะเลก็คือการพร้อมที่จะต้อนรับคลื่นลมและพายุมรสุมทั้งหลาย  ดังนั้น ไม่ว่าชีวิตคือเรือลำนี้จะต้องพบเจอกับสิ่งใด จะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย ก็ต้องพายหรือแล่นไปข้างหน้าต่อไป ไม่มีการลังเลหรือคิดถอยหลังย้อนคืน

 

                   เมื่อตั้งเข็มทิศไว้แล้วว่าจะมุ่งตรงไปยังเกาะแก่งหรือดินแดนทวีปไหน ก็จงมุ่งหน้าต่อไปอย่ามัวลังเลหรือสูญเสียพลังไปกับความโลเลสับสน  ไม่ต้องตกใจ ไม่ต้องหวาดหวั่นที่อาจจะมีบ้างที่ต้องเจอมรสุมหรือคลื่นลม จงไว้วางใจตัวเองและเปี่ยมด้วยศรัทธาแล่นเรือลำน้อยไปเพื่อถึงฝั่งแห่งความฝันดังต้องการ

 

                   อย่ากลัวต่อระลอกคลื่นคืออุปสรรปัญหาต่างๆที่ถาโถมเข้ามาเป็นบางครั้ง จงถือว่าทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาก็เป็นเพื่อนเดินทางของเราอีกส่วนหนึ่ง สายลมพัดมาแล้ว สุดท้ายก็พัดผ่านไป จะสุขทุกข์ จะดีใจเสียใจ สุดท้ายแล้วก็ยึดเอาอะไรไว้มิได้ ต้องปล่อยวางกลับคืนสู่ธรรมชาติอันดั้งเดิม

 

                  ความผูกพันหรือความรักตามประสาอารมณ์โลกเราได้เรียนรู้และได้ผ่านมาแล้ว เหลือเพียงแต่ความรักอันสะอาดบรืสุทธิ์ตามอย่างพระอริยเจ้าที่เราจะพยายามได้สัมผัสและเข้าถึงให้ได้ในชีวิตนี้  

 

                 จะขอพากเพียรขัดเกลาตัวเองให้บริสุทธิ์สะอาดตามลำดับให้ดวงจิตยืนอยู่เหนือราคะ เหลือเพียงความรักความเมตตาอันใสสะอาดตามรอยพระอริยเจ้าทั้งปวง จะขอดำรงความอดทนเจริญสติอย่างต่อเนื่องเพื่อเข้าถึงความบริสุทธิ์ที่ยืนอยู่เหนือชั่วและดี

 

                  นาวาชีวิตลำนี้แม้ยังลอยอยู่กลางทะเลแต่ก็มีสายฟ้าแลบทำให้มองเห็นฝั่ง  จึงทำให้เกิดกำลังใจอันใหญ่หลวงที่จะไปถึงฝั่งอันปลอดภัยที่อยู่ข้างหน้าให้ได้ เรามั่นใจว่าเราจะก้าวขึ้นสู่ฝั่งอันเกษมดังเช่นพระอรหันต์ทั้งหลายที่ท่านก้าวขึ้นฝั่งได้แล้วอย่างปลอดภัย  

 

                   ขอให้เราทั้งหลายจงมั่นใจว่านาวาชีวิตลำนี้สักวันหนึ่งจะผ่านพายุและมรสุมทั้งปวงไปได้ ถึงฝั่งอย่างปลอดภัย พบกับชีวิตใหม่อันสดใส ที่ไม่มีพายุร้ายหรือมรสุมคลื่นลมใดๆมาแผ้วพานได้อีกเลย

 

 

                                                                             คุรุอตีศะ

                                                                    ๒๔  กรกฎาคม  ๒๕๖๐