ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง

 ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง

 

 

                      ผลการเลือกตั้งของประเทศสหรัฐอเมริกาทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรคลีพับลิกันก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนที่ ๔๕ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา เป็นสิ่งบ่งบอกชะตากรรมของโลกว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังก้าวไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะมีผลกระทบทั่วทั้งโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย


                     ผลของการมีผู้นำจะบ่งบอกชะตากรรมของประเทศ บ่งบอกถึงนิสัยใจคอและความชอบความต้องการของประเทศประเทศนั้นว่าผู้คนส่วนใหญ่มีความโน้มเอียงหรือนิสัยเป็นอย่างไร ผู้นำของประเทศนั้นๆจึงเป็นหน้าตาหรือกระจกสะท้อนถึงผู้คนในประเทศนั้นอยู่ในตัว


                     การที่ผู้คนในสหรัฐเลือกโดนัลด์ ทรัมป์ บ่งบอกว่าคนอเมริกาต้องการคนเป็นนักเลงกล้าได้กล้าเสียมาเป็นผู้นำ  ประชาชนต้องการมวยหมัดหนักถึงลูกถึงคนมากกว่ามวยแย็บถอยฉากเก็บคะแนนหรือคนทำตัวเรียบร้อยเป็นสุภาพชนไม่กล้าเปลืองตัวแบบที่ผ่านมาอีก แสดงว่าโลกใบนี้จะมีความรุนแรงยิ่งขึ้นมีแนวโน้มจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๓ ต่อไป สังเกตได้จากไม่ว่าประเทศรัสเซีย จีน ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา ประชาชนจะเลือกผู้นำประเภทกล้าลุย กล้าได้กล้าเสีย ไม่ค่อยจะเป็นคนดีสักเท่าไหร่ขึ้นเป็นผู้นำของตน


                     พูดตามหลักโหราศาสตร์ก็จะต้องบอกว่านี่แหละอิทธิพลของดาวมฤตยูที่มีอิทธิพลต่องดวงชะตาของโลก แต่เมื่อพูดตามหลักกฎแห่งเหตุและผลหรือกฎแห่งกรรม นี่ก็คือถึงยุคที่โลกต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงและมีการปรับตัวครั้งใหญ่ คนที่ไม่ยอมปรับตัวยังหัวอนุรักษ์นิยมจะถูกกวาดลงข้างทาง เพราะไม่อาจขวางกระแสความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเป็นไป ใครที่ไม่ยอมสูญเสียอะไร จะต้องพบกับเรื่องราวแห่งความสะเทือนใจ จนกว่าจะน้อมใจลงสู่ธรรมะและเข้าใจกฎพระลักษณ์ว่าทุกสิ่งมีเกิดดับเป็นธรรมดา


                    ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากการมีผู้นำคนใหม่ของอเมริกาอยู่ไม่น้อย จากที่เคยได้รับการผ่อนปรนอะลุ้มอล่วยก็จะถูกบีบให้มีประชาธิปไตยให้เร็วขึ้น จากที่ยังมีความเกรงใจอยู่ก็จะถูกกระทำแบบเด็ดขาดมากขึ้นตามนิสัยของผู้นำประเทศมหาอำนาจที่จะเริ่มมีต่อประเทศไทย คนที่เคยหลงเพลินในอำนาจทำอะไรได้ตามใจก็จะกลายเป็นคนลังเลขาดความมั่นใจเพราะมีอำนาจเหนือกว่ามาบังคับตนอีกที


                      การจะรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้  ใครที่หัวอนุรักษ์นิยมมีความสุขมาแต่เดิมจะต้องตัดสินใจกล้าเปลี่ยน ใครที่ชอบทำอะไรเหยียบเรือสองแคมจะต้องกล้าเปลืองตัวหรือกล้าเสี่ยงจึงจะมีมิตรแท้ ใครที่มีชีวิตราบรื่นเรียบร้อยมาตลอดจะต้องกล้าเสียสละให้มากขึ้น พลังจิตของตนจึงจะกล้าแข็งพร้อมที่จะรับมือการเปลี่ยนแปลง ช่วงเวลาต่อไปจากนี้เราจะเห็นคนหลายคนที่ตลอดมามีภาพลักษณ์อ่อนแอ ได้กลายเป็นนักสู้ เปลี่ยนบุคลิกเป็นคนเข้มแข็งและไม่ยอมคน กลายเป็นคนใหม่ที่ไม่ยอมก้มหัวให้สิ่งที่อยุติธรรมและอันธพาล


                    ในทางศาสนาจะเกิดผู้นำอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่เป็นไปตามองค์กรของรัฐที่มีการจัดตั้ง การที่ทุกคนทุกฝ่ายต้องพึ่งตัวเองโดยรัฐยื่นมือเข้าช่วยเหลือไม่ทันการเพราะยังยึดติดระบบราชการที่ล้าหลัง จะทำให้เกิดผู้นำกลุ่มต่างๆเพื่อความอยู่รอด  การรวมตัวช่วยเหลือกันของกลุ่มชนที่มีศักยภาพจะเกิดขึ้นมาเอง


                    พระสงฆ์ที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างทันการ จะต้องไม่เดินตามรูปแบบหรือจารีตมากนัก เพราะสังคมจะเปลี่ยนแปลงเร็วจนพระสงฆ์ที่ถูกหล่อหลอมในรูปแบบเก่าตามไม่ทัน จากที่พระสงฆ์เป็นผู้นำและวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชนมาตลอด ๔๐ ปีที่คนไทยคุ้นเคยและชินตานั้น จะกลายเป็นกลุ่มคนที่ล้าหลังหรือผู้คนในสังคมลืมหรือมองข้ามไปเลยก็มี พระแท้ที่จะเป็นที่พึ่งในยามยากอาจไม่มีสังกัดใดๆก็ได้


                    สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นตามกรรมของสัตว์โลกและชะตากรรมของมนุษย์  เป็นยุคที่ความเป็นคนดีที่คิดเอาเองหรือความเป็นผู้ดีจอมปลอมจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เป็นยุคที่มนุษย์จะต้องการอิสรภาพและความเสมอภาคไม่ต้องการให้มีผู้ดีหรือไพร่อีกต่อไป แม้เราจะพยายามสอนศีลธรรมความดีสักแค่ไหน ผู้คนแทบจะไม่สนใจ เพราะต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดและยึดเอาเรื่องปากท้องเป็นศาสนาที่สำคัญ


                     ใครที่ได้รับการปลูกฝังการภาวนาอย่างถูกหลักมาก่อน ความวิกฤติจะทำให้ดวงจิตกล้าแข็งและกรรมฐานเจริญขึ้น ใครที่ไม่เคยสนใจการภาวนาจะนั่งภาวนาให้จิตสงบอย่างไรก็มิอาจทำได้ ผู้ที่มีธรรมเป็นที่พึ่งพออุ่นใจแล้วจะมีโอกาสเกื้อกูลช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนแม้ตนจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร เป็นยุคที่พระโพธิสัตว์ที่ดวงจิตรักเพื่อนมนุษย์มิอาจนิ่งดูดาย จะต้องร่วมทุกข์ร่มสุขกับชาวโลกช่วยเหลือผู้คนด้วยเมตตา


                    พระอรหันต์หรือพระอริยบุคคลที่ซ่อนตัวอยู่ก็ถึงเวลาแล้วที่จะออกมาช่วยชาวโลก หากสอนกรรมฐานให้แก่เขาเหมือนยุคที่ผ่านไม่ได้ อย่างน้อยก็เกื้อกูลด้วยการอธิษฐานจิตในวัตถุหรือแผ่พลังเมตตาให้แก่เขาพอให้มีชีวิตอยู่บนโลกนี้เพื่อมีกำลังใจสร้างความดีไปก่อน


                     สถาบันสำคัญของประเทศทุกสถาบันต่อไปนี้จะมีแต่ความสั่นคลอน ผู้ใดที่มีความมั่นคงในดวงจิตไม่ว่าจะเป็นบรรพชิตหรือฆราวาสย่อมมิอาจจะนิ่งดูดายต่อความทุกข์ของผู้คน จะต้องเกื้อกูลและเมตตา พลังแห่งเมตตาเกื้อกูลจะบ่มดวงจิตให้เกิดความหนักแน่นมั่นคง คุณธรรมอันลึกซึ้งและความเป็นนักบุญจะทำให้ผู้นั้นหากยังไม่บรรลุธรรมได้โอกาสแห่งการบรรลุธรรมต่อไป ส่วนผู้ที่ภูมิจิตผ่านขั้นต้นมาแล้ว พลังแห่งความรักความเมตตาและการเกื้อกูลจะมีอานิสงส์ทำให้เลื่อนสู่ภูมิจิตที่สูงขึ้นอย่างเป็นไปเอง


                    ผู้นำของประเทศสหรัฐอเมริกาคนใหม่จะส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ไม่นานในยุคต่อไปประเทศมหาอำนาจจะมาอยู่ในซีกโลกตะวันออกหลังจากตะวันตกยิ่งใหญ่มา ๒๐๐ ปีแล้ว


                    ประเทศมหาอำนาจที่จะผงาดขึ้นแทนสหรัฐอเมริกาจะอยู่ไม่ห่างจากประเทศไทย เป็นประเทศที่ประชากรส่วนหนึ่งเคยอพยพหลบหนีภัยสงครามและความอดอยากมามีลูกหลานทั่วประเทศไทยอยู่ก่อนแล้วมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๖๐ ปี


                    ต่อไปอีก ๑๐ ปี คนเหนือและคนอีสานจะไม่มีใครกล้าดูถูกเหมือนในเวลานี้ไม่มีใครกล้าแตะคนภาคกลางหรือคนภาคใต้ เมืองหลวงของประเทศถึงคราวจำเป็นจะต้องถูกย้ายออกจากปากอ่าวไทย ประเทศลาวและกัมพูชาผู้คนซึ่งพ้นวิบากกรรมมามากแล้วจะเริ่มมีความเจริญและมีความยิ่งใหญ่


                    ส่วนประเทศไทยเมื่อผ่านเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จะรุ่งเรืองมาก จะเป็นดินแดนของฟ้าสีทองผ่องอำไพ สยามประเทศจะเป็นศูนย์กลางบางอย่างของโลก หลังจากผ่านปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ แล้วแลฯ (คำเตือน : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

 

 

                                                                                       คุรุอตีศะ
                                                                            ๑๐  พฤศจิกายน  ๒๕๕๙