เกิดมาอนุเคราะห์โลก

เกิดมาอนุเคราะห์โลก

 

 

                   ชีวิตของบางคนมิได้เกิดมาเพื่อแสวงหาความสุขหรือเพื่อตัวเอง แต่เป็นการจุติมาจากเบื้องบนเพื่อเกื้อกูลและอนุเคราะห์ชาวโลกด้วยพลังเมตตาและการอนุเคราะห์เกื้อกูลอันสูงยิ่ง


                    บุคคลเช่นนี้เมื่อเกิดมาในโลก ย่อมจะมีความรู้สึกนึกคิดแตกต่างคนสามัญหรือปุถุชนทั่วไปอย่างแน่นอน อย่างน้อยข้อที่เด่นชัดประการหนึ่งก็คือ จะมีลักษณะพร้อมที่จะเหนื่อยยากเพื่อคนอื่น เพื่อชาติบ้านเมือง เพื่อศาสนา หรือเพื่อสังคมส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย

 
                    บุคคลทั่วไปยากที่จะเข้าใจบุคคลประเภทนี้  เนื่องจากธรรมดาของคนทั่วไปนั้นจะมุ่งแสวงหาความสุขของตัวเองหรือแสวงหาสิ่งต่างๆเข้ามาสู่ตัวเองเป็นหลัก ส่วนเรื่องความทุกข์ยากของคนอื่นจะต้องเอาไว้ในภายหลัง หรืออย่างน้อยจะต้องไม่มาสร้างความลำบากให้ครอบครัวตัวเอง นี้คือหลักการใช้ชีวิตของคนเราทั่วไปซึ่งสามารถเข้าใจได้โดยง่าย


                    ส่วนบุคคลประเภทหนึ่งซึ่งเกิดมาเพื่ออนุเคราะห์โลก อุดมคติหรืออุดมการณ์จะไม่เหมือนคนทั่วไป บุคคลประเภทนี้จะรู้สึกว่าชีวิตของมนุษย์นี้ช่างน้อยเต็มทีไม่พอที่จะทำความดีอย่างใจคิดได้ทั้งหมด จึงพยายามสงวนเวลาที่ชีวิตเหลืออยู่ทำความดีให้มากที่สุด สิ่งใดพอที่จะสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนหรือทุกข์ยากได้ ก็จะไม่ละโอกาสนั้น เมื่อทำแล้วก็ปลื้มใจในการทำความดี โดยไม่คำนึงว่าใครจะชื่นชมหรือมองเห็นความดีที่ตนกระทำหรือไม่ ดวงใจที่มีความบากบั่นเช่นนี้ ย่อมมีแก่ผู้ที่เกิดมาเพื่ออนุเคราะห์โลก


                    เพราะเหตุที่จิตใต้สำนึกหรือเจตจำนงในการมาเกิด มีเป้าหมายชัดเจนอยู่ลึกๆว่าตนเองเกิดมาเพื่ออะไร ดังนั้นบุคคลประเภทนี้จะมีความสุขในการอุทิศตนหรือได้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นได้สำเร็จ


                    ต่อให้แม้กระทั่งว่าบุคคลที่ตนได้ช่วยเหลือนั้นจะเกิดอกุศลจิตไม่สำนึกในบุญคุณหรือมีดวงจิตคิดอิจฉาริษยาให้ร้ายในภายหลัง ดวงใจก็ไม่หวั่นไหว ยังเชื่อมั่นในกรรมดีที่ตนได้กระทำบำเพ็ญ และมุ่งมั่นในการอุทิศตนเสียสละต่อไป ไม่ย่อท้อ


                   วิถีเช่นนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “วิถีแห่งการเกื้อกูล” หรือวิถีแห่งโพธิสัตว์  เป็นดวงจิตที่พร้อมจะเหนื่อยยากเพื่อประโยชน์และความสุขของคนอื่น ซึ่งคนธรรมดายากที่จะเข้าใจ แต่ก็ไม่อาจทัดทานได้


                    วิถีแห่งการเกื้อกูล คือ การมุ่งประโยชน์ของส่วนรวม ของมหาชน มากกว่าความสุขของตัวเอง บางคนอาจต้องอุทิศตนเพื่อชาติบ้านเมือง บางคนเกิดมาเพื่อค้ำจุนจรรโลงพระศาสนา บางคนอาจเกิดมาใช่ชีวิตแบบนักบุญโดยไม่ขึ้นกับว่าต้องอยู่ในรูปแบบที่สูงส่งแต่อย่างใด


                    เขาหรือเธออาจเลือกเอารูปแบบที่ต่ำต้อยในสายตาชาวโลกเพื่อง่ายต่อการอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้คนทั้งหลาย  บางคนบางท่านอาจเลือกดำรงตนอยู่ในฐานะที่ไม่ต้องให้ใครมาเคารพกราบไหว้ แต่พอใจที่จะอยู่ในฐานะเป็น “มิตรแท้”ของผู้คนมากกว่า


                    บางท่านอาจเลือกที่จะอยู่อย่างผู้ไร้รูปแบบ แต่มีดวงจิตบริสุทธิ์ใสสะอาดเหนือกว่าใคร เพียงได้มีอิสระในการจะเกื้อกูลช่วยเหลือบุคคลทั่วไป โดยไม่ต้องติดยึดอยู่ในความคับแคบของธรรมเนียมประเพณี


                   บุคคลเช่นนี้ท่านว่าผู้คนมิอาจประเมินท่านต่ำหรือมองข้ามคุณธรรมของท่านได้ บางท่านอาจไม่ได้ปลงเกศาแต่คุณธรรมสูงกว่าคนโกนผมห่มเหลืองตามรูปแบบที่ยึดติดในสังคมแต่ละยุคแต่ละสมัยก็ได้


                   บางท่านเป็นอริยบุคคลในร่างของฆราวาสแต่มีคุณธรรมและมีดวงจิตอุทิศให้พระศาสนายิ่งกว่าผู้อยู่ในรูปแบบใดๆ ซึ่งเป็นเพราะหัวใจมีเมตตาเกื้อกูลมากกว่าจะหวังให้คนมากราบไหว้ตามธรรมเนียม


                    วิถีแห่งการเกื้อกูล เป็นวิถีที่ต้องผ่านอุปสรรคและความลำบากมากกว่าวิถีแห่งการหลุดพ้นตามธรรมดา เพราะวิถีหลุดพ้นคือเรือลำเล็กนั่งได้คนเดียว มุ่งประโยชน์ตนเพียงคนเดียว จะเกื้อกูลผู้อื่นหรือไม่ก็ได้ มุ่งความรอดพ้นของตนเป็นหลัก


                   วิถีแห่งการเกื้อกูล เปรียบเสมือนเรือลำใหญ่ที่ต้องมีใจเสียสละและอดทนมาก เพราะต้องมีภาระในการช่วยเหลือผู้คนอีกมากมาย แต่ในท่ามกลางความลำบากนั้นก็จะมีความสุขบางอย่างหล่อเลี้ยงใจ พลังศรัทธาจะกล้าแข็ง มีทั้งเมตตาและความองอาจกล้าหาญ จึงเป็นหัวใจที่ยิ่งใหญ่เกินคนสามัญธรรมดา


                    บางท่านที่มีบารมีมาก ท่านอาจเคยสั่งสมบารมีมหาโพธิสัตว์และหลุดพ้นในชาติปัจจุบัน สำหรับบุคคลพิเศษเช่นนี้นั้น จะไปนำปฏิปทาพระอรหันต์ทั่วไปมาเป็นมาตรฐานวัดไม่ได้ แต่ท่านจะเคารพกันอยู่ในที ท่านจะรู้กำลังบารมีของกันและกัน แต่ก็เกินวิสัยที่ผู้ปฏิบัติธรรมทั่วไปจะเข้าใจในเรื่องนี้โดยง่ายอีกเช่นกัน


                   ท่านที่เกิดมาเพื่ออนุเคราะห์โลกเช่นนี้ย่อมมีวิถีชีวิตที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบที่ผู้คนยึดถือกันในช่วงสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จนกว่าวันเวลาหรือยุคสมัยผ่านไปถึงช่วงหนึ่งนั่นแหละผู้คนจึงจะเริ่มพอเข้าใจ และส่วนใหญ่ก็มักจะเข้าใจภายหลังจากบุคคลนั้นท่านลาจากโลกนี้ไปแล้ว


                    การเกิดมาเพื่ออนุเคราะห์โลก เป็นการเกิดมาเพื่อประโยชน์สุขของมหาชน หัวใจของท่านจึงอดทนได้เสมอกับพฤติกรรมของผู้คนไม่ว่าตนเองจะได้รับการล่วงเกินหรือได้รับผลร้ายสักเพียงใด


                   ขอเพียงแต่ผู้คนในโลกนี้ ไม่ว่าคนดีหรือคนชั่ว ไม่ว่าหญิงหรือชาย สามารถก้าวผ่านอุปสรรคแล้วเดินตามรอยอริยมรรคได้ ท่านย่อมมีความสุขและปลาบปลื้มใจที่เขาเหล่าได้พบที่พึ่งอันประเสริฐและพบแสงสว่างในชีวิตในการได้เกิดมาบนโลกใบนี้

 


                                                                              คุรุอตีศะ
                                                                  ๖  พฤศจิกายน  ๒๕๕๙