ตั้งจิตไว้ในสิ่งดีงาม

 ตั้งจิตไว้ในสิ่งดีงาม

 

 

                  วันพระแรม ๑๕ ค่ำ คือวันที่ควรสำรวมใจเป็นพิเศษ ควรเป็นวันที่ทุกคนให้ความสำคัญกับการรักษาศีล บริจาคทาน  ดำรงใจให้ปลอดโปร่งเพื่อรองรับปีติจากอานิสงส์แห่งการฟังธรรม  สามีและภริยาที่มีความรักและเข้าใจกัน  หากถือเอาวันนี้เป็นวันไม่คลุกคลี เว้นจากเมถุนธรรม ภาวนาทำใจให้สงบ จะทำให้เกิดอานิสงส์ให้ชีวิตครอบครัวไม่เกิดความระหองระแหงกัน  เทวดาจะรักษาครอบครัวให้เกิดความร่มเย็น


                  ลูกที่เป็นหญิงจงหมั่นนึกให้มองเห็นพระคุณและความดีของผู้เป็นพ่อ  พ่อนั้นจะไม่ค่อยได้สนิทและคลุกคลีแต่พ่อทุกคนก็รักลูกเสมอ พ่อของเราจะกินเหล้าหรือเจ้าชู้ ก็ยกไว้ให้เป็นเรื่องของท่าน เราเป็นลูกก็จะคิดถึงความดีของพ่อตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กตัวเล็กๆที่ท่านเอาใจใส่เราทุกวัน  เราจะขอเอาร่างกายและหัวใจที่ใสสะอาดดวงนี้นั้น รักษาศีล ประพฤติธรรม ทดแทนพระคุณของท่านที่ก่อกำเนิดชีวิตแก่เรามา


                   ลูกผู้ชายจงซาบซึ้งมองให้เห็นพระคุณของแม่ บางทีแม่อาจเป็นคนจู้จี้ขี้บ่น ปากร้ายชอบด่าว่า แต่หัวใจก็รักลูกเที่ยงแท้เป็นหนึ่งอยู่เสมอ  ลูกคือโซ่ทองคล้องใจของแม่ ลูกจะพาแม่ไปวัดหรือพาไปสู่ตะราง แม่ทุกคนก็ยินดีตามลูกไป  แม่คือผู้หญิงคนเดียวที่รักลูกสุดหัวใจ ไม่ว่าลูกจะเป็นพระอรหันต์หรือเป็นโจร


                   ลูกผู้หญิงที่ซาบซึ้งในคุณของพ่อ ลูกผู้ชายที่สนิทใจในพระคุณของแม่  จะไม่เป็นคนอาภัพรัก จะไม่มีใครชักจูงไปในทางที่ตกต่ำ  แต่งงานก็มีความสุขได้ตามอัตภาพ อยู่คนเดียวก็ไม่มีปมด้อย เพราะหัวใจของบุคคลเช่นนี้จะฝักใฝ่ในพระธรรม  ผู้หญิงก็จะได้สามีที่ให้เกียรติ ผู้ชายก็จะได้ภรรยาที่ให้กำลังใจ


                   ชีวิตและอนาคตในวันหน้า ขึ้นอยู่กับการตั้งใจในสิ่งดีงามตั้งแต่วันนี้  หากพ่อแม่ของเราล่วงลับไปแล้ว ก็หมั่นทำบุญกุศลอุทิศให้ท่านอยู่บ่อยๆ มีโอกาสจงรักษาศีล ๘ เพื่อเอาร่างกายที่ท่านให้มานี้เป็นเนื้อนาบุญเป็นต้นทุนในการทำความดี แม้ว่าดวงวิญญาณของท่านจะอยู่ในภพภูมิใด ท่านก็จะชื่นใจและมีโอกาสอนุโมทนาได้รับกระแสแห่งบุญ


                    สังคมปัจจุบันมักมีแต่เรื่องสะเทือนใจให้หัวใจต้องหวาดหวั่น  เราต้องรู้ตัวและไหวทันต้องกล้าเปลี่ยนพฤติกรรมที่ยังย่อหย่อนให้เกิดการพัฒนายิ่งขึ้น  มีปัญหาครอบครัวไม่เข้าใจกัน ก็ซื้อของติดมือไปเยี่ยมพ่อหรือแม่ แต่เราก็ไม่ต้องไปเล่าอะไรให้ท่านฟัง ท่านจะได้สบายใจ เป็นแม่บ้านแม่เรือนต้องรู้จักหวานอมขมกลืนเข้าไว้  น้ำขุ่นเอาไว้ข้างใน น้ำใสเอาไว้ข้างนอก  ความหนักแน่นอดทนที่เหมือนเป็นคนโง่นั้นจะนำความภูมิใจมาให้ในบั้นปลาย


                    เป็นแม่บ้านแม่เรือนต้องมีปัญญาที่แยบคาย ต้องรู้จักน้ำใจของผู้ชายว่าไม่ต้องการให้เมียเป็นผู้นำหรือเก่งกว่า  ในฐานะที่เราเป็นคนหนึ่งมีครูบาอาจารย์สั่งสอนอบรมมา   เราก็ต้องให้เกียรติปรึกษาแล้วขอความเห็นจากเขา  หลังจากนั้นก็เสนอความเห็นว่า เอาอย่างนี้ดีไหมพี่ ทำแบบนี้จะดีกว่าไหม แล้วเขาจะเห็นด้วยและภูมิใจ  สุดท้ายก็คือความคิดของเราที่คิดอย่างรอบคอบแล้วตั้งแต่ต้นนั่นแหละ แต่เป็นเทคนิคในการถนอมน้ำใจของสามีทุกคนในโลกนี้ที่ทะนงตัวในความเป็นชาย   การทำเช่นนี้ได้ท่านยกย่องเรียกภรรยาประเภทนี้ว่า “มีปัญญาประดุจเพชรแบบนางวิสาขา มหาอุบาสิกา”


                      สำหรับบุรุษใดที่ได้ภรรยามีปัญญามีความสามารถ ก็จงภูมิใจที่เรามีโอกาสที่จะทำประโยชน์ต่อชาติศาสนาและสังคมให้ยิ่งกว่า ไม่ต้องไปพยายามบังคับเธอให้เป็นผู้ตาม แต่เราจะทะยานไปข้างหน้าโดยไม่ต้องพะวงต่อความเป็นอยู่ภายในบ้านหรือข้างหลังแต่อย่างใด  นั่นแสดงว่าตัวเรานี้มีวาสนาที่ยิ่งใหญ่จึงได้ภรรยาทั้งเก่งทั้งสวยทั้งมีคุณธรรม


                       เมื่อตั้งจิตไว้ในสิ่งที่ดีงาม ชีวิตก็จะดำเนินไปสู่ความสำเร็จและก้าวหน้า อย่าไปพูดคุยหรือคลุกคลีกับคนที่จิตใจอ่อนแอ ไม่คิดสร้างกุศล พูดอะไรก็มีแต่จะชักชวนเราให้ท้อแท้  เอาไว้ให้เราบรรลุพระโสดาบันเสียก่อนค่อยทุ่มเทช่วยเหลือเขา จะได้ไม่ถูกลากลงไปสู่ที่ต่ำทำให้ชีวิตหม่นหมองจะนั่งจะนอนก็ไม่สบายใจ หากตัวเรากับเขาก็อ่อนแอป้อแป้พอๆกันแล้วไซร้ จงบอกลาต่างคนต่างไปคนละทิศละทางเพื่อหาวิธีสร้างกุศลเสียก่อนแล้วค่อยย้อนกลับเจอกันหากมีลมหายใจและแขนขาครบบริบูรณ์


                         จงอยู่กับวันนี้ให้ดีที่สุด อยู่กับสุขและทุกข์ อยู่กับลมหายใจขณะนี้  อดีตทั้งหลายที่เคยผ่าน ทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว ไม่อาจย้อนหวนคืนมา  ส่วนอนาคตวันข้างหน้าย่อมสำเร็จและสมหวังเพราะเรารู้จักการเจริญสติตั้งจิตไว้ในสิ่งที่ดีงาม

 

 

                                                                                      คุรุอตีศะ
                                                                             ๓  สิงหาคม  ๒๕๕๙