ความลำบากสร้างคน
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
ความลำบากสร้างคน
ชีวิตของคนที่จะเป็นใหญ่หรือได้ทำคุณประโยชน์ต่อมนุษยชาติ จะมีลักษณะสำคัญประการหนึ่งคือชีวิตของบุคคลนั้นจะต้องได้พบกับความลำบากตั้งแต่เด็กหรืออายุยังน้อย
อย่างเช่นชีวิตของมหาบุรุษนามอุโฆษของชนชาติเวียดนาม ซึ่งสามารถกู้เอกราชและรวมประเทศเวียดนามให้เป็นปึกแผ่นจนสำเร็จ จนได้ชื่อว่าบิดาของประเทศเวียดนามยุคปัจจุบัน คือ ท่านโฮจิมินห์ ก็คือบุคคลสำคัญของโลกคนหนึ่งที่ต้องพบกับชะตากรรมที่ทุกข์ยากเต็มไปด้วยความลำบากตั้งแต่เด็ก
ท่านโฮจิมินห์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๓๓ บิดาเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยบ้านนอก ซึ่งการทำงานต้องไปในที่ต่างๆอยู่นอกบ้านเป็นประจำ ท่านโฮจิมินห์เป็นบุตรคนที่สองของครอบครัว
วันหนึ่ง ขณะที่บิดาไปทำงานไม่อยู่บ้าน มารดาซึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่ได้เจ็บครรภ์จะคลอดลูกคนที่สาม แต่เนื่องจากเป็นถิ่นกันดารการแพทย์ยังไม่เจริญ มารดาของท่านได้เสียชีวิตตายทั้งกลม ทิ้งลูกน้อยสองคนให้ต่อสู้กับชีวิตต่อไปตามลำพังบนโลกใบนี้ ในขณะนั้นท่านโฮจิมินห์มีอายุเพียง ๑๑ ปี ก็ต้องกลายเป็นเด็กน้อยกำพร้าแม่เสียแล้ว
ฝ่ายบิดาของท่านโฮจิมินห์เป็นคนเข้มแข็ง ซื่อตรง รักความยุติธรรม ปากกับใจตรงกัน ต่อมาได้ไปวิพากษ์วิจารณ์ผู้ปกครองสมัยนั้นว่าทำไมจึงปล่อยให้เวียดนามตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส มัวแต่เอาตัวรอดรักตัวกลัวตาย สุดท้ายก็ถูกพักงานและถูกปลดออกจาราชการกลายเป็นคนหมดอาชีพ ต้องทำทุกวิถีทางดิ้นรนกระเสือกกระสนเพื่อเลี้ยงลูกน้อยสองคนที่ขาดแม่ให้เติบใหญ่และได้รับการศึกษาเช่นคนอื่น
เมื่อโฮจิมินห์เริ่มเป็นหนุ่ม ทนเห็นความทุกข์ร้อนของชาวนาที่เข้ามาร้องเรียนต่อทางการไม่ไหว จึงรับอาสาเขียนคำร้องเรียนช่วยเหลือชาวนา ทำให้ผู้ปกครองสมัยนั้นไม่พอใจอย่างมาก ส่งผลให้ถูกขับออกจากสถาบันการศึกษา
เมื่อโฮจิมินห์หมดโอกาสที่จะได้รับการศึกษาตามระบบ จึงหันไปเป็นคนช่วยเหลือพ่อครัวของโรงเรียนพาณิชย์นาวี การหักเหของชีวิตในช่วงนี้ได้เปลี่ยนวิถีของคนที่จะจบการศึกษาปริญญาตรีของเวียดนามสมัยนั้นเหมือนเพื่อนคนอื่นทั่วไป ทำให้ต้องติดตามไปกับเรือเดินสมุทรไปถึงสหรัฐอเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศส อันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่หาได้ยากยิ่ง
ความรู้และประสบการณ์อันเกิดจากกเรียนรู้ในชีวิตจริง ทำให้เด็กหนุ่มเกิดจิตสำนึกของความเป็นนักปฏิวัติและปรารถนาที่จะกู้ชาติบ้านเมืองให้หลุดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันขึ้นมาอย่างมั่นคงและลึกซึ้ง จนกระทั่งเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวเวียดนามซึ่งเสียเปรียบชาติตะวันตกในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังพลและอาวุธที่ล้าสมัย สามารถทำสงครามชนะฝรั่งเศสที่เดียนเบียนฟูได้สำเร็จเป็นที่กึกก้องไปทั่วโลก สามารถรวมชาติเวียดนามจากที่เคยถูกแบ่งเป็นเวียดนามเหนือและเวียดนามใต้ ให้กลายเป็นเวียดนามเป็นหนึ่งเดียวกันในปัจจุบัน
อะไรทำให้เด็กหนุ่มบ้านนอกคนหนึ่งที่เคยตกอยู่ในชะตากรรมไร้อนาคต ต่อมาได้กลายมาเป็นบิดาของชาวเวียดนามในยุคปัจจุบัน คำตอบก็คือ “ความลำบากและอุปสรรค” ทั้งหลายนั่นเองที่ช่วยสร้างชีวิตของท่านโฮจิมินห์ให้ก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่
ความลำบากที่บังคับให้ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด การได้เห็นความทุกข์ยากของมนุษย์จนทนไม่ได้ เกิดความกรุณาที่จะช่วยเหลือให้ผู้คนหลุดพ้นจากการตกเป็นทาสและความยากจน ทำให้เกิดพลังอันเต็มเปี่ยมขึ้นภายในหัวใจ หลังจากนั้นก็เกิดความใฝ่ฝันอันยิ่งใหญ่และเกิดอุดมการณ์อันสูงส่งตามมา
คนไม่เคยประสบความลำบาก ยากนักที่จะเป็นผู้นำที่ดีได้ มักจะชอบใช้คนอื่นโดยขาดน้ำใจ แม้เขามีความทุกข์ร้อนอย่างไรจะไม่เฉลียวใจนึกถึง ถ้าเคยลำบากหรือเคยมีชีวิตที่ติดดินมาแล้วจะทำให้มีเมตตาต่อผู้คนที่ต่ำกว่า มีความเห็นอกเห็นใจ เพราะตนได้เคยผ่านความลำบากเช่นนั้นมาก่อน นี้คือสัญลักษณ์อันสำคัญสำหรับคนที่จะอยู่ในฐานะที่เป็นเจ้าคนนายคน หรือบุคคลอันเป็นที่รักของปวงประชา
มหาบุรุษนามอุโฆษหรือบุคคลสำคัญของโลก จะมีลักษณะที่เปี่ยมทั้งความเมตตาและมีความกล้าหาญเด็ดขาดอยู่ในตัวคนเดียวกัน ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกประการหนึ่ง
ความเมตตากรุณาทำให้เกิดความรักความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ ความกล้าหาญเด็ดขาดทำให้กล้าฟันฝ่าอุปสรรค ไม่หวั่นเกรงต่อปรปักษ์และศัตรูที่พยายามขวางกั้นอุดมการณ์
จงมีศรัทธาและเชื่อมั่นไว้ในใจว่า ความลำบากจะช่วยสร้างชีวิตให้พบความสำเร็จในวันหนึ่ง ความสุขและความสบายใครก็ชอบและปรารถนา แต่จะชักพาให้เราอ่อนแอและขลาดกลัวในภายหลัง
จงเอาอุปสรรคและความทุกข์ยากลำบากในวันนี้แปรเปลี่ยนให้เป็นพลัง เพื่อก้าวเดินสู่ความสำเร็จและสมหวัง ดุจชีวิตของมหาบุรุษทั้งหลายที่เป็นแบบอย่างให้ชาวโลกตลอดมา
คุรุอตีศะ
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙