เกิดมาสร้างบารมี
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
เกิดมาสร้างบารมี
การมาเกิดในมนุษยโลก ดวงจิตที่มาปฏิสนธิในครรภ์ของมารดาย่อมมีวาสนาและเจตจำนงแตกต่างกัน การที่ดวงวิญญาณมาปฏิสนธิด้วยเจตจำนงต่างกัน จึงทำให้มนุษย์แต่ละคน แม้จะได้ชื่อว่าเกิดมาเป็นคนเหมือนกัน แต่ก็จะมีวิถีชีวิต ความคิด ทัศนคติ ค่านิยม หรืออุดมคติแตกต่างกันไปโดยปริยาย
คำว่า “บุญวาสนา” คือ กรรมฝ่ายบวกหรือกรรมดีที่บุคคลสั่งสมมาแต่อดีตชาติ ก่อนที่ดวงจิตนั้นจะมาปฏิสนธิในครรภ์ของมารดาในภพหรือชาตินี้ บุคคลแม้จะมีความขยันหมั่นเพียรอุตสาหะเท่ากัน แต่บางคนนั้นที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต เนื่องจากไม่ได้สร้างเหตุปัจจัยไว้ในอดีตที่เรียกว่า “วาสนา”
ส่วนบุคคลที่มี “บุพเพกตปุญญตา” (บุพ-เพ-กะ-ตะ-ปุน-ยะตา) คือมีบุญที่ได้ทำไว้ในอดีตชาติ แม้จะมีความอุตสาหะไม่เท่ากับบางคน แต่ก็ประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในชีวิต ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขามีต้นทุนมามากกว่าคนอื่น เพียงใช้ความอุตสาหะอีกเล็กน้อยในชาติปัจจุบัน ก็ประสบความสำเร็จแล้ว
เหมือนคนที่เกิดมาเป็นลูกเศรษฐี แม้จะไม่ขยันหมั่นเพียรเท่ากับลูกคนจน ก็สามารถสร้างฐานะความร่ำรวยได้รวดเร็ว ส่วนลูกคนจนที่ไม่มีสมบัติของพ่อแม่ กว่าจะเก็บเงินได้แต่ละบาทเพื่อเป็นทุนหรือกว่าจะเรียนจบแล้วได้ทำงาน ก็ต้องอดทนทุกข์ยากลำบากอย่างมากกว่าจะสร้างตัวขึ้นมาได้ คนมีบุญที่ทำไว้ในชาติที่แล้วจึงมีโอกาสทำอะไรสำเร็จได้ง่าย ด้วยเหตุนี้จึงมีสุภาษิตคำพังเพยโบราณกล่าวไว้ว่า “แข่งเรือแข่งพาย พอแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนานั้น แข่งกันไม่ได้” คำพังเพยนี้คือความเข้าใจในกฎแห่งกรรม
ทัศนคติต่อชีวิตดังที่กล่าวมา ไม่ใช่การสอนให้เป็นคนงอมืองอเท้า หรือสอนให้คนชั้นรากหญ้าจำนนต่อชะตากรรมโดยไม่ยอมต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพหรือความเป็นธรรมแต่อย่างใด แต่คือการแสดงให้เห็นความเป็นเหตุเป็นผลตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าด้วยกฎแห่งกรรม คือใครทำเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น และการได้รับผลแห่งการกระทำ ไม่ใช่จบลงอยู่เพียงชาติเดียว แต่สามารถส่งผลข้ามภพข้ามชาติ ไม่ว่าจะกระทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว นี้คือความยุติธรรมยิ่งกว่าความยุติธรรมทางกฎหมายหรือทางสังคม
บุคคลที่เข้าใจหลักการดังกล่าว จะไม่รู้สึกริษยาต่อคนที่อยู่ในฐานะสังคมที่สูงหรือร่ำรวยกว่าตน เพราะมีความเข้าใจในความเป็นเหตุเป็นผลและเคารพในบุญกุศลที่บุคคลนั้นได้สร้างมาข้ามภพข้ามชาติ
แต่หากบุญวาสนาที่เขาสร้างไว้หมดลง และบาปกรรมที่เขาหลงในอำนาจในชาติปัจจุบันให้ผล จากที่เขาเคยอยู่ในฐานะที่สูงส่ง ก็จะทำให้เขาตกต่ำลง และจะเกิดเป็นประเด็นทางการเมือง ให้ผู้คนมองเห็นความไม่ยุติธรรมและความไม่มีคุณธรรม สิ่งที่เรียกว่า “การเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและความยุติธรรมในสังคม” ของคนชั้นรากหญ้าจะเกิดขึ้นตามมา สิ่งที่เรียกว่า “หมดบุญ หมดวาสนา” ก็จะเกิดขึ้นแก่เขาทันที
ผู้ใดที่สามารถมีความรู้และความเข้าใจในกฎแห่งกรรมเช่นนี้ ขอจงตั้งหน้าสร้างกุศลความดีต่อไปอย่าท้อถอย อย่าเฝ้าหวังรอคอยให้คนอื่นเข้าใจหรือเห็นใจจึงจะทำความดี อันจะบั่นทอนความดีงามในตัวเองและวาสนาของตัวเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะพลัดตกไปอยู่ในเส้นทางของมารบั่นทอนกำลังใจได้
การมาเกิดในโลกมนุษย์นี้ ดวงจิตที่มาปฏิสนธิล้วนมาจากภพภูมิที่ต่างกัน บางคนมาจากมนุษย์ชาติที่แล้ว บางคนมาจากภูมิเปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน บางคนมาจากสรวงสวรรค์ลงมาสร้างบารมี และอาจมีดวงจิตที่ใสสะอาดเพราะจุติลงมาจากพรหมโลกไม่คุ้นเคยกับกามหยาบแบบมนุษย์ก็มี แต่ก็มาอยู่รวมกันอยู่บนดาวพระเคราะห์ที่ชื่อว่า "ดาวโลก" ดวงนี้ เสมือนหนึ่งหัวลำโพงหรือสถานีขนส่งหมอชิต
ผู้ที่มาปฏิสนธิเพื่อเกิดมาสร้างบารมีในชาตินี้ มักจะมีความโน้มเอียงแห่งจิตใต้สำนึกที่คิดช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่นมากกว่าคิดถึงความสุขของตัวเอง สละความสุขส่วนตัวได้ง่าย เอาบุญกุศลเป็นใหญ่ ไม่มีความมุ่งมั่นแสวงหาความร่ำรวย หรือความยิ่งใหญ่ในทางโลกเช่นคนอื่นยิ่งไปกว่าการสร้างบุญบารมี
คนประเภทนี้ในสายตาของทางโลกมักจะเหมือนเป็นคนโง่เขลา ที่ไม่นิยมสะสมทรัพย์สินเงินทอง แต่ในหัวใจของเขามีความผ่องใสและมีความสุขทั้งที่ดูแล้วช่างเหนื่อยยากโดยไม่ได้อะไร แต่เขาจะมีความอบอุ่นและอิ่มใจ เพราะดวงใจได้ละโลกียทรัพย์ เพื่อคว้าเอาอริยทรัพย์และโลกุตรทรัพย์อันเยี่ยมยอดนั่นเอง
ตรงนี้แหละคือเส้นแบ่งเขต ระหว่างดวงใจของคนมุ่งมีวาสนาในทางโลกกับผู้มีวาสนาในทางธรรม คนที่ไม่ได้เกิดมาสร้างบารมีอย่างแท้จริง เมื่อถึงคราวต้องเลือกเส้นทางชีวิต เขาจะเลือกเอาความสุขหรือความสำเร็จในทางโลกเป็นเป้าหมาย
ส่วนคนเกิดมาสร้างบารมีนั้น จะเสมือนหนึ่งมีกฎแห่งสวรรค์บังคับให้ต้องมุ่งสร้างบารมีเรื่อยไป อาจต้องพบกับความไม่สมหวังในความรัก หากความรักนั้นจะปิดกั้นการสร้างบารมีให้คับแคบอยู่แต่เรื่องกามารมณ์และครอบครัว บางคนอาจต้องประสบเคราะห์ร้ายด้านสุขภาพ เพื่อให้ตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิตและร่างกายจะได้รีบเร่งสร้างบารมี ตามที่เคยอธิษฐานก่อนจะลงมาจุติในครรภ์ของมารดา
คนที่เกิดมาสร้างบารมี ชีวิตจะต้องพบกับความเหนื่อยยาก บางทีอาจรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่มีคนเข้าใจ บางทีอาจเหมือนคนอาภัพในความรักหรือเรื่องความสุขในทางโลก ในชีวิตมักจะมีสิ่งมาทดลองจิตใจว่าจะเลือกอะไรระหว่างความดีกับความชั่ว จะเลือกเอาความสุขสบายหรือเลือกเอาการสร้างบารมี
หากเขาเลือกเส้นทางแห่งความเหนื่อยยากเพื่อมุ่งสร้างบารมี เขาอาจดูเหมือนอาภัพตอนเป็นมนุษย์อยู่นี้ แต่เมื่อร่างกายแตกทำลายสิ้นอายุขัยลงวันใด เขาหรือเธอจะกลายเป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เพราะอานุภาพแห่งบุญบารมีที่บำเพ็ญไว้ดีแล้วอย่างบริบูรณ์
คุรุอตีศะ
๒๔ เมษายน ๒๕๕๙