มีสติในทุกเหตุการณ์

 มีสติในทุกเหตุการณ์

 

                  ในขณะที่คนไทยฉลองเทศกาลสงกรานต์  ทางตะวันออกสุดของมุมโลกได้เกิดแผ่นดินไหวในเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น  ต่อจากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันก็เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรงและเสียหายกว่าที่ประเทศเอกวาดอร์ ซึ่งอยู่ทางอเมริกาใต้ ตะวันตกสุดของมุมโลกอีกฟากหนึ่ง


                   สำหรับประเทศไทยนับตั้งแต่นี้  ควรมีความรักสามัคคีและเลิกโจมตีกันทางศาสนา มิฉะนั้น ที่เคยได้ชื่อว่าดินแดนแห่งร่มผ้ากาสาวพัสตร์ที่สุขสงบร่มเย็นตลอดมา ก็อาจกลายเป็นดินแดนร่มผ้ากาสาวพัสตร์ที่แหว่งและขาดวิ่น ซึ่งแผ่นดินจะมิอาจรองรับบาปกรรมได้ไหว ภัยพิบัติต่างๆที่พากันดูหมิ่นผู้ที่เคยให้คำทำนายว่าไม่เป็นจริง ก็อาจเกิดขึ้นเช่นประเทศอื่นได้เหมือนกัน อย่าประมาทไป วิทยาศาสตร์เพิ่งเป็นที่รู้จักได้ประมาณสามร้อยปี ไหนเลยจะยิ่งใหญ่ไปกว่ากฎแห่งกรรมที่พระบรมศาสดาของโลกทรงตรัสรู้มาสองพันปี


                    ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องกลับตัวกลับใจมาเห็นคุณพระศาสนา  ในที่นี้ขอย้ำว่าไม่ว่าบุคคลนั้นจะนับถือศาสนาไหน  ขอให้เข้าถึงศาสนาที่แท้จริงอันได้แก่ความรักความเมตตาและความสงบสุขแห่งดวงใจ เลิกแสวงหาสมาชิกบริวารแล้วเบียดเบียนผู้อื่นเพื่อความยิ่งใหญ่  แต่จงแสวงหาตัวเองให้พบด้วยการเจริญสติภาวนาไม่ว่าหญิงหรือชาย แล้วจะพบความหมายอันลึกซึ้งแห่งศาสนาที่แท้จริงตามคำสอนของพระศาสดา


                    ขอให้ทุกคนพากันดำรงตนอยู่ในครรลองของศีลห้า  มีความเมตตากรุณาและมีมุทิตาต่อมนุษยชาติไม่ว่าจะเป็นลัทธินิกายหรือศาสนาไหน  ทุกชาติทุกศาสนา ทุกคนทุกชีวิตล้วนมีสุขมีทุกข์เหมือนๆกันและทุกคนต่างก็มีความรู้สึกมีหัวใจ  จงเมตตาต่อกันไว้แล้วภัยพิบัติทั้งปวงจะลดลง


                    นับจากนี้จงมีสติตั้งมั่นในปัจจุบัน อย่าเสียใจในอดีตที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งบางเรื่องราวก็ผ่านพ้นเวลาไปแล้วจนไม่อาจแก้ไข  หากเป็นเช่นนั้นขอให้หันมาแก้ไขที่ใจ หมั่นเจริญสติและหมั่นทำบุญไว้ แม้ว่าในขณะนี้จะยังอยู่ท่ามกลางอุปสรรคปัญหา ยังวิตกและคิดมากก็ตาม


                    อย่าพะวงกับอนาคตข้างหน้าจนเกินไปนัก  เพราะความวิตกกังวลไม่ก่อประโยชน์อะไร นอกจากบั่นทอนพลังภายในของตนเองเปล่าๆ  ทำดีไปเรื่อยๆแล้วอยู่กับวันนี้โดยไม่กังวลต่อสิ่งใด  ชีวิตก็จะเลื่อนไปไปบนเส้นทางที่ดีงามและพบกับความสำเร็จในบั้นปลายไปเอง


                       ประเทศไทยจะต้องได้ผ่านเหตุการณ์ครั้งใหญ่ อันเกิดจากปัญหาที่ซ่อนไว้และการไร้ความยุติธรรมหลายอย่างซึ่งหมักหมมมานาน จะต้องระเบิดขึ้นมาโดยไม่มีอำนาจวิเศษใดๆมาทัดทานได้ การเมืองจะร้อนแรงขึ้นคล้ายๆยุคสามก๊กของประเทศจีน  คนที่เคยเป็นมิตรร่วมก่อการเพื่อความสำเร็จมาด้วยกัน ก็จะกลายเป็นศัตรูชิงอำนาจกันเพื่อความอยู่รอดและความเป็นใหญ่ แผ่นดินไหวและพายุร้ายที่รุนแรงมีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศไทย การเมือง เศรษฐกิจ สังคมและศาสนาจะเข้าสู่ภาวะคับขันที่คนเกิดมาในยุคนี้ไม่เคยคิดว่าจะได้พบเห็น


                        “พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ  มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ  เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน  พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย  แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก  เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย  เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย  เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน..”


                        ผู้ที่มีสัมมาทิฐิและเชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม  พึงทราบว่าในช่วงนี้ไม่ใช่เวลาเสวยสุข แต่เป็นเวลาที่ต้องเร่งทำบุญและตั้งใจบำเพ็ญรักษาศีล เราหลีกไม่พ้นที่จะต้องร่วมรับชะตากรรมและเสวยผลแห่งกรรมร่วมกัน เพราะเกิดมาบนผืนแผ่นดินเดียวกัน  แต่ด้วยอำนาจแห่งการรักษาศีลและการประพฤติธรรม จะทำให้ความทุกข์เข็ญลดลงกึ่งหนึ่งจากคนสามัญทัวไป จะเกิดความแคล้วคลาดจากยักษ์นอกศาสนาทำลายล้างกัน


                          สำหรับคนมีคู่ หากเข้าใจกัน จะร่วมกันตั้งจิตอธิษฐานหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกันในวันพระ จะทำให้เกิดบุญบารมี การทะเลาะเข้าใจผิดกันระแวงกันจะเกิดขึ้นน้อย ความสามัคคีร่มเย็นจะบังเกิดในครอบครัว

                       

                         คนเป็นโสด ควรหัดสมาทานอุโบสถ แล้วงดการดู การฟังสิ่งต่างๆ อันเป็นช่องทางให้เกิดราคะ โทสะ และโมหะเสีย จงน้อมใจอยู่กับบุญกุศลอย่าให้มีจิตอาฆาตพยาบาทหรือคิดร้ายต่อใคร หากทำได้เทวดาจะอภิบาลรักษาให้ชีวิตพ้นผ่านอันตรายและเกิดอำนาจจิตที่ดีงามอยู่ภายในตัว


                          จงอยู่กับวันนี้ให้ดีที่สุด สำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพื่อให้ใจร่มเย็นเพราะนั่นคือคุณแห่งศีล สิ่งใดที่ดูแล้ว ฟังแล้ว เกิดกิเลสทำให้ใจเศร้าหมองขุนมัว ก็หลีกเลี่ยงเสียอย่าไปดูหรืออย่าไปฟัง  หากทำได้ดวงจิตจะเกิดพลัง จะทำให้มีลางสังหรณ์ที่แม่นยำ จะรู้สึกอบอุ่นใจ 

 

                          จงมีสติในการเผชิญกับทุกข์ปรากฏการณ์  นั่นแหละคือการภาวนาที่เยี่ยมยอดแล้วในตัวเอง

 

                                                                                 คุรุอตีศะ
                                                                      ๑๙  เมษายน  ๒๕๕๙