วันแห่งการก้าวผ่าน
- รายละเอียด
- หมวด: LanDharma
วันแห่งการก้าวผ่าน
วันสงกรานต์ เป็นคำสันสกฤต เมื่อแปลเอาความหมาย ท่านหมายถึงวันแห่งการก้าวผ่าน ก้าวผ่านปีเก่าสู่ปีใหม่ตามคติของไทยหรือตามคติของศาสนาพราหมณ์ เป็นช่วงที่พระอาทิตย์ออกจากราศีมีนขึ้นสู่ราศีเมษ อันเป็นราศีแรกตามหลักของโหราศาสตร์สากลทั่วโลก
ในช่วงที่พระอาทิตย์เคลื่อนสู่จักราราศีอันเริ่มแรกเช่นนี้ ชาวตะวันออกแต่เดิมมาโดยเฉพาะชาวชมพูทวีปจึงถือว่าเป็นปีใหม่ ผู้คนทุกสาขาอาชีพจึงพากันหยุดการงานทั้งปวงเพื่อให้ความสำคัญแก่ความรักความอบอุ่นในครอบครัว ด้วยการพากันสร้างกุศลบารมีพร้อมหน้าพร้อมตากัน อันเป็นสิ่งที่สมานความรักความสามัคคีที่ดีกว่าสิ่งอื่นใด หลังจากนั้นจึงค่อยไปเที่ยวเตร่พร้อมแวะสรงน้ำดำหัวผู้ใหญ่เพื่อขอพรและแสดงความเคารพอ่อนน้อม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของตนเอง
สำหรับคนไทยในยุคใหม่ ที่รู้จักความสำคัญและความหมายของวันคริสต์มาสและวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชาและวันสงกรานต์อย่างพวกเราทุกวันนี้ รู้จักแต่เอาน้ำใส่ในถังท้ายรถแล้วก็สาดใส่กันเปียกม่อล่อกม่อแลกในวันสงกรานต์ โดยไม่เคยรู้ว่าการสรงน้ำที่แท้จริงนั้นคือการรดน้ำด้วยความเคารพให้เกียรติเพื่อมอบความชุ่มเย็นและมิตรไมตรีให้แก่กัน
ดังนั้น ในปีนี้ถ้าทางราชการท่านห้ามเอาน้ำใส่ถังสาดใส่กัน ก็ไม่ต้องไปโกรธท่านหรือขัดเคืองใจ เพราะนอกจากจะเป็นการช่วยกันประหยัดน้ำในช่วงที่กำลังเกิดทุพภิกขภัย ยังเป็นการปฏิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ด้วยการเลิกเล่นสงกรานต์ที่หยาบคาย แล้วมาช่วยกันฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามที่หายไปกลับคืนมา
สำหรับบางคนรู้สึกว่าปีนี้มองไปทางไหนก็ไม่สนุก เอ่ยปากพูดกับใครก็มีแต่คนหน้าอมทุกข์แล้วก็บ่นว่าร้อน รายได้ที่เคยมีเป็นกอบเป็นกำ มาตอนนี้กลับแขวนอยู่กับความไม่แน่นอน ก็ขอเชิญให้ไปบ่นว่าร้อนๆๆๆที่เกพลิตาโพธิวิหาร บางทีกายและใจจะสงบและร่มเย็น
ใครที่กำลังลังเลว่าจะพากันตะรอนขับรถไปเที่ยวดีไหม คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะคุ้มกับขับรถนั่งหลังแข็ง อั้นปัสสาวะ เพราะรถติด แล้วก็หันหน้ามาตาเขียวใส่กันในรถหรือเปล่า เมื่อพยากรณ์ชะตาชีวิตของตัวเองดูแล้ว ชักสังหรณ์ใจว่าแทนที่จะสนุกอาจทะเลาะกันไปตลอดทาง ก็ไม่จำเป็นต้องไปอ้างว่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ขอให้หันมาส่งเสริมหัวใจของตนเองและคนที่อยู่ข้างๆให้เกิดความสงบร่มเย็นด้วยกันพากันไปทำบุญหรือฟังธรรมในยามนี้จะดีกว่า
หญิงสาวคนใดที่มีจิตใจอ่อนโยนและมีหิริโอตตัปปะ เทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ ไม่จำเป็นอย่าไปเที่ยวเตร่ในสถานที่อโคจรหรือถิ่นที่ล่อแหลมใดๆ เพราะจะเป็นแก้วที่กระทบหินตกแตกง่ายในช่วงที่ยักษ์มารมีกำลังแรง ควรสำรวมตนอยู่ในศีล อธิษฐานตนอยู่ในครรลองที่ดีงาม จะได้รอดพ้นจากภัยอันตราย ในช่วงที่พายุร้ายกำลังพัดกล้าในสังคม
อยากแนะนำท่านทั้งหลายข้อหนึ่งว่า ในช่วงเวลานี้ความคิดที่ว่า “เราทำดี ไม่ได้เบียดเบียนใคร” เพียงเท่านี้ยังไม่พอในการอยู่ในสังคมทุกวันนี้ ต้องรู้จักหลบหลีกอันตรายและเชื่อลางสังหรณ์ของตนเองหากรู้สึกหวั่นใจบอกไม่ถูกเมื่อจะออกจากบ้าน ก่อนไปไหนขอให้นึกเอาคุณพระศรีรัตนตรัยคุ้มเกล้าและระลึกถึงคุณของศีล จะได้ความแคล้วคลาดจากอันตราย
ใครที่รู้สึกว่าไม่อยากไปเที่ยวไหน และสามารถตัดใจจากความห่วงผูกพันในช่วงสั้นๆ ก็ควรเตรียมกายเตรียมใจต้อนรับวันสงกรานต์ ต้อนรับวันเถลิงศกใหม่ ด้วยการนุ่งห่มชุดขาวแบบไทยบำเพ็ญเนกขัมมะบารมีจะเกิดตบะเดชะบารมีเกิดกำลังใจอันยิ่งใหญ่ แม้อากาศจะร้อน ก็จะร้อนแต่กายภายนอก แต่จะร้อนไม่ถึงใจ จะก้าวผ่านปีเก่าสู่ปีใหม่ด้วยความเข้มแข็งและภาคภูมิใจ เพราะจะเกิดบารมีในทางธรรมและยึดคว้าเอาไว้ได้ซึ่งแก่นสารสาระของชีวิต
ใครที่ไม่สามารถทำได้ดังกล่าวมาสำหรับวันแห่งการก้าวผ่าน ก็ขอจงตั้งหน้าประกอบแต่กรรมดีอย่าท้อถอย อย่าเสียใจในอดีต อย่ากังวลต่ออนาคตหรือเฝ้าแต่รอคอย ความดีที่เราทำแม้จะทำทีละน้อย ก็ย่อมเต็มเปี่ยมได้ในวันหนึ่ง ดุจหยดน้ำแม้ตกลงทีละหยด ย่อมเต็มตุ่มได้ ฉันนั้นแลฯ
คุรุอตีศะ
๑๐ เมษายน ๒๕๕๙