ช่วงเปลี่ยนผ่าน

 ช่วงเปลี่ยนผ่าน

 

                    ลมหนาวพัดกระโชกมาในเวลาเช้าปลายเดือนมีนาคม  นี่คือเหตุการณ์จริง มิใช่นิยาย แม้แต่ภูมิอากาศก็ยังแปรผันไปได้  แล้วเหตุใดบ้านเมืองหรือเรื่องราวของผู้คนบนโลกนี้นั้น จะไม่มีการยอกย้อนซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเล่า


                   มีท่านผู้รู้ที่สันโดษท่านหนึ่งกล่าวไว้ให้น่าคิดว่า นับแต่ดาวมฤตยูย้ายมาทับดวงเมืองเป็นต้นมา ความเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างจะเกิดขึ้นตามมาชนิดที่หลายคนแทบจะรับไม่ทันหรือรับไม่ไหว


                  ใครที่มีหัวอนุรักษ์นิยมพยายามที่จะยื้อยุดให้อะไรต่างๆยังคงเหมือนเดิม  ถึงคราวจะต้องฝึกหัดทำใจ  ส่วนใครที่ยอมรับกฎแห่งพระไตรลักษณ์ที่พระผู้มีพระภาคได้ทรงตรัสไว้ ก็จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวสู่ยุคใหม่ ที่โลก บ้านเมือง สังคมและชีวิตความเป็นอยู่จะไม่เหมือนเดิม


                  เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิตติ์ที่เคยมีน้ำบริบูรณ์มาตลอด ๔๐ ปี มาปีนี้น้ำแห้งขอดอย่างน่าใจหาย เสมือนหนึ่งธรรมชาติจะพยายามสื่อความหมายถึงพระบารมีที่เคยทรงมีต่อพสกนิกรของสองทั้งพระองค์ท่าน  น้ำที่เคยบริบูรณ์คู่กับชาวเขื่อนยังมีอันเป็นไป  เหตุไฉนเรื่องอื่นที่สำคัญจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง


                   องค์กรคณะสงฆ์ที่เคยอยู่สงบร่มเย็นเป็นปกติ เป็นที่พึ่งทางจิตใจของประชาชนตลอดมา ๕๐ ปี บัดนี้กลับมีแต่ความแตกแยกเป็นฝักฝ่ายแสนร้าวราน  บ่งบอกถึงกาลเวลาที่จะต้องเปลี่ยนมีการเปลี่ยนผ่าน ที่พระพุทธศาสนาจะต้องหลุดพ้นจากการตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างที่เคยมีมาเป็นเวลา ๖๐ ปี


                  ถึงเวลาแล้วที่ศิษย์พระตถาคตจะต้องหลุดพ้นจาก “ยศช้าง  ขุนนางพระ” ความเป็นพระควรดำรงตนอยู่เหนือการเมือง ไม่นำตนไปเป็นคู่ขัดแย้ง ไม่เรียกร้องลาภสักการะ ไม่ต้องให้ใครมาตั้งยศศักดิ์ใดๆให้


                    เจ้าชายสิทธัตถะทรงสละความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิเสด็จดำเนินไปตามราวป่าด้วยพระบาทเปล่าตราบจนวันเสด็จดับขันธปรินิพพาน  พระองค์ทรงสละความมียศ ฐานันดร อัครฐาน เพื่อมาสู่ชีวิตที่ไม่มีอะไร  เหตุใดเราผู้เป็นศิษย์ตถาคตจะต้องจำนนต่อยศศักดิ์อันต่ำต้อยของชาวโลก เพราะความเป็นพระนั้นสูงส่งและทรงค่ากว่ายศศักดิ์ทั้งปวงอยู่แล้วนับแต่วันเปล่งคำบรรพชา


                   เมื่อถึงช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านรัชกาลและเปลี่ยนผ่านในด้านต่างๆในบ้านเมืองได้มาถึง

 
                   ขอให้คณะสงฆ์ทั้งปวงจงตัดใจสละ “ยศช้าง ขุนนางพระ” อันทำให้ต้องตกอยู่ใต้อิทธิพลของผู้มีอำนาจในทางโลกเหล่านั้นเสีย   หากจะประกาศงดการทอดกฐิน งดทอดผ้าป่า งดการขอสมณศักดิ์ใดๆสักสองสามปีก็ยังได้

 

                   ในระหว่างนี้จงถือเสียว่าเรากำลังธุดงค์อยู่กลางป่า อดมือกินมื้อแล้วมุ่งบำเพ็ญภาวนาไปแต่ละวัน เหมือนหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด สมเด็จโต หลวงปู่มั่น และครูบาอาจารย์รุ่นก่อนพาดำเนิน  พลังตบะบารมีที่รวมเป็นหนึ่งเดียวทั่วทั้งสังฆมณฑล จะมีอานุภาพฟื้นฟูพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา


                   สำหรับหมู่สงฆ์ที่ท่านมีหน้าที่ต้องต่อสู้ตามวิถีที่รู้ทันกระแสโลก ท่านก็ทำหน้าที่ของท่านไปเช่นนั้นนั่นถูกแล้ว  หากมีแต่ผู้ปฏิบัติกรรมฐานปล่อยวาง  ก็ยากที่จะรักษาองค์กรหรือหมู่คณะของพระศาสนาให้ยืนนาน 

 

                   ส่วนหมู่สงฆ์ที่เลือกเส้นทางอรัญวาสี ก็จงเร่งบำเพ็ญฌานญาณให้ทันการ เมื่อได้มรรคผลนิพพาน  จะได้อบรมสั่งสอนผู้คนให้มีที่พึ่งและดำรงพระศาสนาให้มั่นคง หลังจากบ้านเมืองก้าวสู่ยุคชาวศิวิไลซ์


                   ในท้ายที่สุด ท่านผู้รู้ที่สันโดษได้ฝากไว้ในตอนท้ายด้วยความห่วงใยอีกว่า ขอให้ผู้คนอดทนต่อความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองในช่วงสองสามปีนี้  มีโอกาสให้หมั่นออกบำเพ็ญศีลบารมี เนกขัมมบารมี พอถึงประมาณต้นปี  ๒๕๖๑ เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไป  ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง

 

 

                                                                                 คุรุอตีศะ
                                                                         ๒๘  มีนาคม  ๒๕๕๙